หลวงปู่มั่น ภูริทตฺตมหาเถร พระอาจารย์ใหญ่ผู้อบรมบูรพาจารย์พระป่ากรรมฐาน

 

  ประวัติหลวงปู่มั่น  ภูริทตฺตมหาเถร

  พระภูริทัตโต (หมั่น)

  ภาพหลวงปู่มั่น  ภูริทัตโต ณ วัดถ้ำสาริกา จ.นครนายก

                  หลวงปู่มั่น  ภูริทัตโต เกิดเมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม พ.ศ.๒๔๑๓ ณ บ้านคำบง อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี(ปัจจุบันอยู่ในเขตอ.ศรีเชียงใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี ) เป็นบุตรของนายคำด้วง และนางจันทร์  แก่นแก้ว ได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดบ้านคำบง เมื่ออายุ ๑๕ ปี ต่อมาได้ลาสิกขา กระทั่งในราวปี พ.ศ.๒๔๓๕ นายมั่น  แก่นแก้ว ได้ถวายตัวเป็นศิษย์อุปัฎฐากพระครูวิเวกพุทธกิจ (กนฺตสีโล เสาร์) เจ้าอาวาสวัดเลียบ ซึ่งมาบำเพ็ญเพียร ณ ภูหล่น อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ต่อมาได้อำลาบิดามารดา เพื่อไปศึกษาปฎิบัติธรรม ณ สำนักวัดเลียบ อำเภอเมืองอุบลราชธานี 

    วัดเลียบ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ต.ค.๒๕๖๔

               ทั้งนี้ได้มีส่วนร่วมกับหลวงปู่เสาร์ กนฺสีโล ในการสร้างพระพุทธจอมเมือง พระประธานในหอแจกหลังเก่า (ปัจจุบันประดิษฐานในอุโบสถ) ได้ร่วมสร้าง "สิมไม้"(อุโบสถเก่า) และขุด "ส้าง" (บ่อน้ำ)ไว้ประจำวัด ซึ่งยังคงอยู่สืบมาถึงปัจจุบันกว่าร้อยปี

              ท่านได้อุปสมบทเมื่อวันที่ ๑๒ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๓๖ ขณะมีอายุได้ ๒๒ ปี ณ วัดศรีทอง (วัดศรีอุบลรัตนาราม พระอารามหลวง) อำเภอเมืองอุบลราชธานี พระอริยกวี (ธมฺมรกฺขิโต อ่อน) เจ้าคณะใหญ่เมืองอุบลราชธานี เจ้าอาวาสวัดศรีทอง เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูสีทา  ชยเสโน เจ้าอาวาสวัดบูรพา เป็นพระ

กรรมวาจาจารย์ และพระครูประจักษ์อุบลคุณ(ณาาสโย สุ้ย) วัดศรีทอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "ภูริทัตโต" หมายถึง "ผู้ให้ปัญญาประดุจดั่งแผ่นดิน" หรือ "ผู้ให้ปัญญา ผู้แจกจ่ายความฉลาด"

               หลังจากได้อุปสมบทได้จำพรรษา ณ สำนักวัดเลียบ ท่านได้เกิด "นิมิตสมาธิ" ในขั้นแรกระหว่างปฎิบัติธรรม ณ สำนักแห่งนี้ และได้จำพรรษารวม ๙ พรรษา พ.ศ.๒๔๓๖-๒๔๔๔ ก่อนจะออกไปวิเวกร่วมกับหลวงปู่เสาร์  ณ สถานที่ต่างๆ เช่น ภูหล่น เป็นต้น   

               ในปี พ.ศ. ๒๔๔๕ ได้ติดตามคณะธุดงค์ของพระครูสีทา  ชยเสโน ไปวิเวก ณ พระธาตุพนม และเป็นปฐมเหตุของการบูรณปฎิสังขรณ์โดยขณะช่างเมืองอุบลราชธานี นำโดย พระครูวิโรจน์รัตโนบล (รอด นนฺตโร) วัดทุ่งศรีเมือง

               พ.ศ.๒๔๕๗ กลับมาจำพรรษา ณ วัดเลียบ เกิดสุบินนิมิต หลวงปู่มั่นได้ธุดงค์ไปตลอดทั้งสองฝั่งโขง ภาคกลาง ภาคเหนือ และกรุงเทพฯ ซึ่งได้หมั่นไปสดับธรรมเทศนาอบรมปัญญา กับพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (สิริจนฺโท  จันทร์)วัดบรมนิวาส

                                                                 หลวงปู่มั่น  ภูริทัตโต

               พระคุณท่านเป็นพระอาจารย์ใหญ่  ที่มีศิษยานุศิษย์ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์มาศึกษาปฎิบัติธรรมตามแนวทางของท่านเป็นอันมาก ตลอดพื้นที่อันได้จาริกไป  อาทิ ประเทศพม่า ลาว เลย หนองบัวลำภู หนองคาย อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร เชียงใหม่ เชียงราย นครนายก กรุงเทพฯ และอุบลราชธานี ได้ก่อเกิดการสร้าง "สำนักวัดป่า"ขึ้นในพื้นที่ดังกล่าว ตลอดจนเผยแผ่แนวทางการปฎิบัติธรรม กระทั่งได้รับความนิยมในหมู่พุทธศาสนิกชนตลอดชีวิตใหนพรหมจรรย์ของท่านกว่า ๕๖ ปี ได้สร้างคุณูปการแก่พระพุทธศาสนาไม่อาจประมาณได้

                หลวงปู่มั่น  ภูริทัตโต มรณะภาพ เมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๒ ณ วัดป่าสุทธาวาส จังหวัดสกลนคร  สิริรวมอายุได้ ๗๙ ปี พรรษา ๕๖  ได้มีการฌาปนกิจถวายเพลิงท่านในวันที่ ๓๐ มกราคม พ.ศ.๒๔๙๓ อัฐิธาตุได้รับการแจกแบ่งไปในหมู่ศิษยานุศิษย์ในจังหวัดต่างๆ ในส่วนของจังหวัดอุบลราชธานี พระโพธิณาณมุนี (ภทฺทิโย สุธีร์) อดีตเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี (ธ) อดีตเจ้าอาวาสวัดเลียบ (ขณะเป็นพระครูประจักษ์อุบลคุณ ได้อัญเชิญมาเก็บรักษาไว้ ณ วัดเลียบ 

                ต่อมาในปีพ.ศ.๒๕๕๒ พระครูอุบลคณาภรณ์ (อริญชโย  วีระชัย) เจ้าอาวาสวัดเลียบรูปปัจจุบัน พร้อมคณะศรัทธา  ได้สร้างเจดีย์วิหารอุณสรณ์สถาน เพื่อประดิษฐานอัฐิธาตุ และรูปเหมือน เพื่อเป็นที่กราบสักการะของพุทธศาสนิกชนตราบนานเท่านาน.

                                                                 

                                                 สร้างถวายโดย นายสุนทร  สุริยุทธ และครอบครัว

ถอดบันทึกป้ายประกาศเกียรติคุณโดย ท่องเที่ยวธรรม ณ วัดเลียบ จ.อุบลราชธานี

๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๔