พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน) วัดเกษรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด) อ.เมือง จ.อุดรธานี


ชีวประวัติ

พระธรรมวิสุทธิมงคล

(หลวงตามหาบัว  ญาณสัมปันโน)

วัดเกษรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด) อ.เมือง จ.อุดรธานี





พระธรรมวิสุทธิมงคล หรือ หลวงตามหาบัว เดิมมีชื่อว่า "บัว โลหิตดี" เกิดวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2456 ณ ตำบลบ้านตาด อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี มีพี่น้องทั้งหมด 16 คน ในวัยเด็กท่านเป็นคนที่เลื่อมใสในศาสนาพุทธ โดยได้ทำบุญตักบาตรกับผู้ใหญ่อยู่เสมอ อุปสมบท
เมื่อท่านอายุครบอุปสมบทแล้ว บิดาและมารดาของท่านปรารถนาให้ท่านบวชด้วยหวังพึ่งใบบุญ แต่ท่านก็ไม่ตอบรับ ทำให้บิดาและมารดาของท่านถึงกับน้ำตาไหล ท่านจึงกลับพิจารณาออกบวชอีกครั้ง ที่สุดจึงตัดสินใจออกบวชโดยท่านกล่าวกับมารดาว่า "เรื่องการบวชจะบวชให้ แต่ว่าใครจะมาบังคับไม่ให้สึกไม่ได้นะ บวชแล้วจะสึกเมื่อไหร่ก็สึก ใครจะมาบังคับว่าต้องเท่านั้นปีเท่านี้เดือนไม่ได้นะ" ซึ่งมารดาก็ตกลงตามที่ท่านขอ ท่านอุปสมบทเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2477 ที่วัดโยธานิมิตร ตำบลหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี โดยมีพระธรรมเจดีย์ (จูม พนฺธุโล) วัดโพธิสมภรณ์ จังหวัดอุดรธานี เป็นพระอุปัชฌาย์ โดยได้ฉายานามว่า "ญาณสมฺปนฺโน" แปลว่า "ถึงพร้อมแล้วด้วยญาณ" ท่านมีความเคารพเลื่อมในเรื่องการภาวนาและกรรมฐาน ท่านได้สอบถามวิธีการภาวนาจากพระอุปัชฌาย์ของท่านและได้รับการแนะนำให้ภาวนาว่า "พุทโธ" ท่านจึงปฏิบัติภาวนาและเดินจงกรมเป็นประจำ

บรรลุธรรม

หลังจากงานถวายเพลิงศพท่านพระอาจารย์มั่น หลวงตามหาบัวได้ปลีกตัวอออกจากหมู่คณะ หลึกเร้นเร่งความเพียรเพื่อปลดวางภาระทางใจ อันเป็นกิเลสชั้นละเอียดคืออวิชชา
แล้วที่สุดในวันที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๙๓ เวลา ๕ ทุ่มตรง เป็นพรรษาที่ ๑๖ ของการบวช ความปรารถนาของท่านก็ได้บรรลุผลโดยสมบูรณ์ ดังความว่า

" วัดที่เป็นที่ระลึกไม่ลืมก็คือวัดดอยธรรมเจดีย์ บนหลังเขา กระต๊อบเล็กๆ อยู่ที่หน้าพระยืน พระอยู่ข้างบน กระต๊อบเล็กๆ หันหน้ามาทางพระ เรามาอยู่ที่นั่น กิเลสขาดสะบั้นลงไปเป็นเวลา ๕ ทุ่ม เพราะฉะนั้นจึงเป็นวัดที่ลืมไม่ได้เลย"

" นั่งอยู่ธรรมดานี่ละ ร่างกายของเรานี้มันพุ่งขึ้น มันขึ้นไปได้อย่างไร เราเองก็อัศจรรย์เองนะ พอพุ่งขึ้นไปลงมาแล้วมันสั่นไปหมดในร่างกาย ตัวสั่น เหมือนโลกธาตุนี้คว่ำหมดเลย สว่างจ้าขึ้นมาครอบหลังวัดดอยธรรมเจดีย์ มองไปที่ไหนว่างหมด ไม่มีอะไรเหลือเลย โอ้โห เป็นอย่างนี้เหรอ หือ พระพุทธเจ้า พระธรรรม พระสงฆ์ มาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้อย่างไร มันเป็นแล้วนะนั่น นั่นละเป็นวาระสุดท้าย"

อาพาธ-นิพพาน

    นับแต่ปี พ.ศ.๒๕๕๐ เป็นต้นมา ด้วยวัยชราภาพ สุขภาพธาตุขันธ์ของหลวงตามหาบัวเรื่มทรุดลงเป็นลำดับ  จนกระทั่งวันจันทร์ที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓ เป็นต้นมา ธาตุขันธ์แสดงอาการอาพาธหนักมากขึ้นเรื่อยๆ  อันปรากฏแก่สายตาศิษยานุศิษย์  จนกระทั่งท่านได้เข้าสู่นิพพานในเวลา ๓ นาฬิกา ๕๓ นาที ของวันอาทิตย์ ที่ ๓๐ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๔ ณ กฏิวัดป่าบ้านตาด สิริรวมอายุ ๙๗ ปี ๕ เดือน ๑๘ วัน รวม ๗๗ พรรษา 

" เราจะทำหน้าที่ของเราอย่างองอาจกล้าหาญอาชาไนย สมกับเราสอนโลกมาเต็มเม็ดเต็มหน่วย ๖๑ ปี และสมกับเราที่ตั้งใจขึ้นเวทีฟัดกับกิเลสมาเป็นเวลา ๙ ปีเต็ม"

"  ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของเรา  ตั้งแต่บัดนี้ต่อไปอีก  เราจะไม่กลับมาเกิดอีกตลอดอนันตกาล"

(ขอบคุณข้อมูลจาก ชีวประวัติพระธรรมวิสุทธิมงคล อนุสรณ์พิพิธภัณฑ์ฉันทกรานุสรณ์ วัดอัมพโรปัญญาวนาราม อ.บางละมุง จ.ชลบุรี)
-------------------
เกิด 12 สิงหาคม พ.ศ. 2456 มรณภาพ 30 มกราคม พ.ศ. 2554 อายุ 97 อุปสมบท 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2477 พรรษา 77 วัด วัดป่าบ้านตาด จังหวัด อุดรธานี สังกัด ธรรมยุติกนิกาย วุฒิ นักธรรมชั้นเอก, เปรียญธรรม 3 ประโยค ตำแหน่ง อดีตเจ้าอาวาสวัดเกษรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด) (ขอบคุณข้อมูลจาก วิกิพีเดีย)

-------------------------------



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชีวประวัติ ปฏิปาพระอาจารย์อัครเดช (พระอาจารย์ตั๋น) ถิรจิตฺโต วัดบุญญาวาส ต.บ่อทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี

ประวัติหลวงปู่แว่น ธนปาโล วัดถ้ำพระสบาย บ.หนองถ้อย ต.นาครัว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง

หางานในกรุงเทพ ตกงาน หรือว่างงาน มา Samco