วัดป่าสาลวัน วัดของหลวงปู่สิงห์ ขนฺตยาคโม ศิษย์เอกของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

 

วัดป่าสาลวัน 

    สวัสดีผู้อ่่านทุกท่านครับ   เดือน ก.พ.๒๕๖๔ ท่องเที่ยวธรรม ได้ไปนมัสการพระรัตนตรัยที่วัดป่าสาลวัน ต.ในเมือง อ.เมืองจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งแรงบันดาลใจที่ทำให้อยากไปที่วัดนี้คือ การได้ฟังเทนาธรรม อ่านหนังสือ ธรรมประวัติของหลวงปู่จาม ที่บอกเล่าเรืองราวที่หลวงปุ่มั่น ภูริทัตโต ได้มอบหมายการอบรมพระเณรให้หลวงปู่สิงห์ ขนฺตยาคโม เป็นผู้ดูแล  และอีกทั้งการฟังเทศนาธรรมของหลวงปู่พุธ  ฐานิโย ทำให้เกิดความเลื่อมใสในปฏิปทาของท่านครับ

       วัดนี้ก่อตั้งพ.ศ.๒๔๗๔ โดย พระญาณวิศิษฎ์สมิทธิวีราจารย์ (สิงห์ ขนฺตยาคโม) เจ้าอาวาสองค์แรก เป็นศิษย์องค์สำคัญของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อาจารย์ใหญ่สายพระป่าสายกรรมฐาน

สาลวัน ตั้งชื่อโดยเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์(อ้วน ติสโส) มาจากคำว่า "สาละ" แปลว่า ต้นรัง "วนะ"แปลว่า ป่า โดยตั้งตามลักษณะของวัดที่มีไม้เต็งรังจำนวนมาก

"""""

      สภาพที่ตั้งของวัดในปัจจุบัน(ก.พ.๒๕๖๔) มีต้นไม้ขนาดกลาง มีไม่มาก มีกุฎล้อมรอบ เงียบสงบ เรียบง่าย วัดมีกำแพงสูงประมาณ ๒.๕๐ เมตร มีชุมชน ร้านค้า ร้านอาหารอยู่โดยรอบ  ด้านทิศตะวันออกมีสระน้ำขนาดใหญ่  มีการปฎิบัติธรรมสวดมนต์ เจริญสมาธิกันที่ชั้นล่างของวิหารฐานิโย 

บูรพาจารย์เจดีย์

         ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ พระพุทธปฏิมากร มีรูปหล่อเหมือนของบูรพาจารย์หลายรูป ได้แก่ หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล หลวงปุ่มั่น ภูริทัตโต หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม หลวงปู่พร  สุมโณ หลวงปู่พุธ  ฐานิโย อัฐิฐาตุ และอัฐบริขารของหลวงปู่พุธ  ฐานิโย ครับ. 

ขอบคุณภาพจากเจ้าของสิทธิ์

ประวัติหลวงปุ่พุธ  ฐานิโย อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าสาลวัน

       หลวงปู่พุธ  ฐานิโย อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าสาลวัน ซึ่งมีวัตรปฎิบัติตามสายพระป่าธรรมยุติอย่างเคร่งครัด อีกทั้งเผยแพร่พระธรรมคำสอนให้พุทธศานิกชนเกิดสติปัญญา  ให้ผู้อ่านได้ทราบพอสังเขปครับ

     หลวงปู่พุธ ฐานิโย ท่านมีนามเดิมว่า พุธ อินทรหา ท่านเกิดเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2464 ณ บ้านหนองหญ้าเส้ง ตำบลสันประดู่ อำเภอหนองโดน จังหวัดสระบุรี เป็นบุตรคนเดียวของบิดามารดา ครอบครัวมีอาชีพทำนาทำไร่ ในช่วงอายุได้ 4 ขวบ มารดาได้ถึงแก่กรรม บิดามีความเสียใจเป็นอันมากจึงนำท่านย้ายมาอยู่บ้านเกิดของบิดาที่ หมู่บ้านโคกพุทรา ตำบลตาลเนิ้ง อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร

เรียนรู้ธรรม

        หลังจากบรรพชาแล้ว ท่านก็อาศัยอยู่กับท่านพระครูโพธิภูมิไพโรจน์นั่นเอง ท่านได้รับเมตตา จากพระอาจารย์ให้ได้ศึกษาทางด้านปริยัติธรรมด้วย และในพรรษาแรกนี้เอง สามเณรพุธสามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี และเริ่มรับการฝึกอบรมปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานจากท่านพระอาจารย์เสาร์เป็นครั้งแรก ต่อมาในปีพ.ศ. 2483 ท่านพระอาจารย์เสาร์ ได้พาหลวงพ่อไปฝากตัวเป็นศิษย์พระปัญญาพิศาลเถร (หนู ฐิตปญฺโญ) ณ วัดปทุมวนาราม (วัดสระปทุม) กรุงเทพมหานคร ซึ่งหลวงพ่อได้จำพรรษาเรื่อยมาจนอายุครบบวช 21 ปี จึงได้อุปสมบทเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2485 ณ วัดแห่งนี้ หลวงพ่อได้ปฏิบัติศาสนกิจช่วยงานพระศาสนาตลอดมา และในช่วงสงครามแปซิฟิก ท่านได้อพยพกลับไปจำพรรษาที่วัดบูรพา จังหวัดอุบลราชธานี และท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดแห่งนั้นจนถึงปี พ.ศ. 2489 ระหว่างนั้นท่านเกิดอาพาธเป็นวัณโรคอย่างหนัก ต่อมาท่านได้พบกับหลวงปู่ฝั้น อาจาโร และท่านก็ได้ช่วยรักษาโดยการสอนให้เพ่งอาการ 32 โดยให้พิจารณาถึงความตายให้มากที่สุด ทั้งยังคอยให้กำลังใจกับท่านตลอดเวลา[4] จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. 2513 ท่านได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าสาลวัน ในระยะเวลาที่ท่านเป็นเจ้าอาวาส ท่านปฏิบัติกิจของสงฆ์อย่างไม่หยุดยั้ง และทำหน้าที่เป็นวิทยากรบรรยายธรรม สร้างคุณประโยชน์ต่อศาสนามากมาย  และได้สร้างโรงเรียนราชอุปถัมภ์ สร้างอาคารให้เด็กนักเรียน มอบทุนสนับสนุนการก่อตั้งมูลนิธิของโรงเรียน ตลอดจนหน่วยงาน ราชการต่างๆ - นอกจากนี้ท่านยังช่วยจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ให้กับโรงพยาบาลเสมอๆ   อีกทั้งยังมอบทุนสนับสนุนการก่อสร้างตึกสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาล มหาราช จังหวัดนครราชสีมา  รวมทั้งมอบทุนสนับสนุนการก่อตั้งมูลนิธิของโรงพยาบาลต่างๆ อีกด้วย

        วัดป่าสาลวัน เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของชาวโคราช และพุทธศาสนิกชนที่สนใจ โดยมีระเบียบปฏิบัติดังนี้

๑.สวมใส่ชุดขาวหรือชดปฏิบัติธรรม

๒.เตรียมเครื่องใช้ในการดูแลสุขอนามัยพื้นฐาน โดยปราศจากเครื่องหอม(ถือศีล๘)

๓.ห้ามนำทรัพย์สินมีค่าติดตัวไปมากนัก 

๔.วัดสามารถรองรับผู้ปฏิบัติธรรมแบบพักค้างคืนในแต่ละครั้งได้มากที่สุด ๒๐๐ คน

โดยเมื่อเดินทางมาถึงวัดแล้ว ผู้ปฏิบัติธรรมสามารถลงทะเบียนที่อาคารปฏิบัติธรรม เก็บสัมภาระเข้าที่พักให้เรียบร้อย จากนั้นเปลี่ยนเป็นชุดขาวสำหรับปฏิบัติธรรมสมาทานพระกรรมฐาน พร้อมน้อมรับศีล ๘ ตลอดระยะเวลาปฏิบัติธรรม  

            พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม  ปฐมเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้ ได้สร้างคุณประโยชน์ต่อพุทธศาสนาในการอบรมให้ความรู้แก่พระเณรสายธรรมยุติที่ได้รับมอบหมายจากพระอาจาย์มั่น ภูริทัตโต ทำให้พุทธศาสนามีความมั่นคงแข็งแรงทั้งวินัยและการปฎิบัติ  หลวงปู่พุธ  ฐานิโย คือพระอริยสงฆ์ผู้ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ สร้างคุณประโยชน์แก่พุทธศาสนา สังคมโดยส่วนรวมเอนกอนันต์  ท่องเที่ยวธรรมขอนมัสการด้วยความเคารพยิ่ง   ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนมานมัสการและร่วมปฏิบัติธรรม

ขอบคุณข้อมูลจากทรูไอดี และวิกิพีเดียครับ.

สนับสนุนเราที่