หลวงปู่สังข์ สังกิจฺโจ วัดป่าอาจารย์ตื้อ ต.สันมหาพน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่

 

ชีวประวัติ

พระครูภาวนาภิรัต หลวงปู่สังข์  สังกิจฺโจ

 พระอริยเจ้าแห่งวัดป่าอาจารย์ตื้อ

อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าอาจารย์ตื้อ  อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่


            หลวงปู่สังข์  สังกิจฺโจ พระท่านเป็นพระสุปฏิปันโน สังกัดคณะธรรมยุติกนิกายสายหลวงปู่มั่น  ภูริทัตโต เป็นหลานแท้ของหลวงปู่ตื้อ  อจลธมฺโม 

ชาติกำเนิด
หลวงปู่สังข์ สังกิจฺโจ นามเดิมของท่านชื่อ สังข์ นามสกุล คะลีล้วน
 ท่านถือกำเนิดตรงกับวันที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ.๒๔๗๓ 
บ้านเกิดของท่านอยู่ที่บ้านข่า อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม
บิดา มารดา นายเฮ้า และ นางลับ คะลีล้วน     
 มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกันจำนวน ๔ คน ท่านเป็นลูกชายคนที่ ๑

บรรพชา
ท่านเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ซึ่งถือว่าสูงสุดในสมัยนั้น เมื่ออายุครบ ๑๘ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ พัทธสีมา วัดศรีเทพประดิษฐาราม อ.เมือง จ.นครพนม โดยมีพระสารภาณมุนี (หลวงปู่จันทร์ เขมิโย) เป็นพระอุปัชฌาย์ (ต่อมาได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระเทพสิทธาจารย์) บรรชาเสร็จก็กลับมาจำพรรษาที่วัดอรัญญวิเวก บ้านข่า อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ซื่งเป็นบ้านเกิด
ในพรรษาแรกที่บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดอรัญญวิเวก บ้านข่า ได้กราบครูบาอาจารย์หลายรูป ได้แก่ หลวงปู่สีลา  อิสฺสโร วัดป่าอิสสระธรรม บ้านว่าใหญ่ อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร, หลวงปู่อุ่น  อุตฺตโม วัดอุดมรัตนาราม อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร

สหธรรมิกสำคัญ
หลวงปู่ไท  ฐานุตตโม วัดเขาพุนก อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี
หลวงปู่มหาทองอินทร์  กุสลจิตโต วัดสันติธรรม อ.เมือง จ.เชียงใหม่




พำนักที่วัดป่าอาจารย์ตื้อ 
พ.ศ.๒๕๐๙ หลวงปู่สังข์  ได้กลับจากวิเวกมาจำพรรษากับหลวงปู่ตื้อที่วัดป่าอาจารย์ตื้อ และได้พัฒนาวัดนี้มาโดยตลอด
พ.ศ.๒๕๒๓ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าอาจารย์ตื้ออย่างเป็นทางการ
พ.ศ.๒๕๓๘ ได้รับพระราชสมณศํกดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ฝ่ายวิปัสสนาธุระที่พระครูภาวนาภิรัต ท่านได้จำพรรษาที่นี้เรื่อยมาจนมรณภาพ

 โอวาทธรรมคำสอนของหลวงปู่สังข์ สังกิจฺโจ

    “..ผู้ใดที่มีศีลเป็นนิจ ผู้ใดที่มีทานเป็นนิต ผู้ใดภาวนาพุท-โธ เป็นนิจ ผู้ใดสร้างจิตใจ ของตนให้สงบ เรียกว่า จิตพบพระพุทธศาสนา..”

“โอ้ย..วันไหนเจ็บกายหนอ โอยมันไม่ฟังเราหรอก มันจะเอาอันนี้มันก็ไม่เอา นี่ก็แปลว่าซังมันแล้วนะ คนซังธรรมนี้ ไม่เห็นธรรมนะ..”

“..สร้างบุญสร้างกุศลก็มีความสุข สมบัติของเราย่อมได้ มนุษย์สมบัติอาศัยความสุขด้วยศีลธรรม ทิพพสมบัติ นิพพานสมบัติ เราทำเราไม่ต้องสงสัย สงสัยอะไรละ ก็จิตเรามีนี่ อื้อลงในจิตอันเดียวให้รู้จักนะ จิตนี้ขันธ์ห้ามันหุ้มอยู่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาน ตัววิญญาณ มันหุ้มจิตอยู่นะ มันก็หุ้มออกมา สัญญามันก็หุ้มจิตอยู่นั่นแหละ สัญญามันรู้รอบทิศ เรามีหูมีตารอบทิศนะ รูป เสียง กลิ่น รส ก็รู้ทิศอยู่ เนี่ยะเข้าใจนะ ความจำก็ออกมา เวทนา สุข ทุกข์ มันก็รอบจิตเราอยู่ คือขันธ์ห้านี่แหละ เข้าใจนะ แต่ว่าวิญญาณนี่ มาทางนี้มันมีความรู้สึกรอบขันธ์ห้าอยู่ ที่นี้ถ้าเราจะรับทาน มันก็อยู่ที่จิต ถ้าเราจะรับศีลมันก็อยู่ที่จิต จิตอันเดียวนะ พุทโธๆ ๆ รู้จิตเรานะ ให้ศึกษาจิต แต่ว่าถ้าจะรับศีลห้านี้เป็นกิริยาคือ ห้าข้อ จิตอันเดียวรับเอา เท่านี้แหละ

 ถ้าเราอยากจะรู้ว่า ห้าข้อนั้น จิตอันเดียวก็เราตั้งหลักหนึ่งซะ ข้อหนึ่งคืออะไร ข้อสองคืออะไร ข้อสามคืออะไร ให้ภาวนาเดี๋ยวเกิดปัญญาขึ้นมา เดี๋ยวเกิดสติในหลักนั้นขึ้นมา ก็จิตนั่นหละรู้แจ้งด้วยศีลนั้น ศีลก็อยู่ที่จิตอันเดียว ที่เรารู้ก็มีห้าข้อ แต่เมื่อสงบแล้วก็ลงสู่จิตอันเดียวเป็นพลังนั่นนะ เข้าใจนะ ถ้าบุญกิริยาสิบ ก็เป็นกิริยา คือเราจะต้องทำในอาการกิริยาลักษณะนั้นในจิต แต่ว่าจิตนั้นรับเอา ๑๐ อย่าง เราก็นับเอามันอยู่ในจิตนั่นแหละ นับเอาเถอะ เนี่ยะมันเป็นบ่อเกิดนะ นับเอาหลักมัน นึก ทานคืออะไร นึกศีลคืออะไร ตามลำดับ

 อนุโลม ปฏิโลม อย่างนี้ว่าหลักการภาวนาทางในๆ อันนี้เป็นจิตตภาวนา แต่ถ้าเราจะเอาคุณธรรมที่นั้น แต่ถ้าเราเอาไว้ในจิต เราจะลดมาดูขันธ์ห้าเรา รูปเวทนา สัญญา ก็ยิ่งใกล้อันนี้ ถ้ามาดูรูปก็ท่านบัญญัติไว้ว่า เกศา โลมา ถ้าจะดูรูปธรรมท่านว่า อาการ ๓๒ รู้ได้ใกล้ๆ นี่ อันนั้นเป็นธรรมนะ ถ้าจะดูบารมีธรรมก็เอ้าดูจิตเราอดอะไรได้บ้างนะ มันก็อยู่ที่ความสามารถของเราจะอดได้แค่นั้น แต่สร้างขึ้นไปมันก็มากขึ้นๆ เข้าใจบ่ ให้ภาวนาให้รู้จิตนะ ดังนั้น เราจิตมันมาก มันก็มากเป็นกิริยานั่นหละ มันก็ ถ้าศีลห้า ถ้าคิดตามห้า มันก็ห้าคิดนั่นหละ มันก็จิตอันเดียวนั่นแหละ แต่เราไม่มีสติ เพิ่นก็เลยบัญญัติว่าจิตที่เป็นกุศลห้าดวงซะ คิดไปตามอาการนั้น เข้าใจบ่ น่ะ ถึงร้อยดวงพันดวงก็คิดไปตามในเรื่องที่เป็นกุศล แต่ที่เป็นอกุศลก็บัญญัติไว้หลายดวงเหมือนกันแต่จิตอันเดียว แต่ไปตามกิริยาทั้งนั้น เท่านั้นแหละ ให้รู้ เมื่อรู้แล้วก็รวมอยู่ที่จิต..”
 
ละสังขาร
ได้ละสังขารอย่างสงบ เมื่อวันที่ ๑๑ ก.ค.๖๕ เวลา ๑๕.๐๐ น. สิริอายุ 92 ปี พรรษา 72 

--------------------------
ท่องเที่ยวธรรม ขอนอบน้อมพระอริยสงฆ์ด้วยเศียรเกล้า
ขออนุโมทนาบุญกุศลที่เกิดจากการอ่านชีวประวัติบูรพาจารย์
ขอสรรพมงคลจงมีแด่ท่าน
ขอบพระคุณข้อมูลอ้างอิงจาก 108prageji.com ,topchaingmai.com
สนับสนุนเป็นกำลังใจเราโดย   คลิกชม โฆษณาหรือซื้อสินค้าที่แสดงในเวบเพจของเรา อนุโมทนาบุญครับ


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชีวประวัติ ปฏิปาพระอาจารย์อัครเดช (พระอาจารย์ตั๋น) ถิรจิตฺโต วัดบุญญาวาส ต.บ่อทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี

ประวัติหลวงปู่แว่น ธนปาโล วัดถ้ำพระสบาย บ.หนองถ้อย ต.นาครัว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง

หางานในกรุงเทพ ตกงาน หรือว่างงาน มา Samco