หลวงปู่ไม อินทสิริ วัดป่าภูเขาหลวง ต.ระเริง อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา

 

ชีวประวัติ

หลวงปู่ไม  อินฺทสิริ

วัดป่าภูเขาหลวง ต.ระเริง อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา




พระครูกิตติอุดมญาณ (หลวงปู่ไม อินทสิริ)​ อดีตเจ้าคณะอำเภอกู่แก้ว (ธรรมยุต)  อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าหนองช้างคาว อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี และอดีตประธานสงฆ์วัดป่าเขาภูหลวง อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา 

ชาติกำเนิด

หลวงปู่ไมเป็นชาวอุดรธานีโดยกำเนิดเกิดเมื่อปีพ.ศ.๒๔๙๐ มีพี่น้องทั้งหมด ๗ คน ท่านอยากบวชตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นประถมปีที่ ๔ แต่บิดาขอให้ช่วยงานบ้านไปก่อนเพราะน้องยังเล็ก

วัยเยาว์

        อายุราว ๑๐ – ๑๑ ปี ได้ไปอยู่อ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี ตอนเช้านำควายไปเลี้ยงตามทุ่งนา ท่านชอบนั่งหลับตาเป็นนิสัย มักจะเห็นสวรรค์เป็นหอปราสาทและเห็นท้าวสักกะเทวราช (พระอินทร์) ใส่โจงกระเบนเหาะลงมาสอนท่านสวดมนต์คาถาจนสามารถท่องจำได้

        เมื่ออายุได้ ๑๒-๑๓ ปี ท่านทำงานบ้านและรับจ้างทุกอย่างจนเก็บเงินซื้อควายได้ ๒ ตัวตอนอายุ ๑๓ ปี ท่านเป็นคนที่ไม่กระตือรือร้นในการแต่งตัว ใส่เสื้อผ้าแบบไหนก็ได้ ไม่ชอบเที่ยวดูหนังหรือร้องรำทำเพลง แต่รำกลอนเป็น เพราะบิดาสอนให้ สามารถตอบปัญหาทางด้านประวัติศาสตร์ ธรรมะ ภาษาไทย บาลี มคธ ได้ดี

บิดาเสียชีวิต

เมื่ออายุ ๑๔ ปี ก่อนบิดาเสียชีวิตลงได้สั่งท่านไว้ว่าให้เลี้ยงน้องจนโตก่อนแล้วบวชให้ด้วย พร้อมกำชับว่า ถ้ามารดาจะมีสามีใหม่ก็อย่าห้าม ซึ่งต่อมามารดาก็แต่งงานใหม่ พ่อเลี้ยงเป็นนักเลงเล่นการพนัน ชอบขโมยสิ่งของไปเล่นการพนัน อยู่มาวันหนึ่ง พ่อเลี้ยงขว้างไม้ถูกส้นเท้าน้องชายเป็นแผล ตอนนั้นท่านอายุ ๑๕ ปีคิดจะทำร้ายพ่อเลี้ยง แต่ก็คิดอีกว่าถ้าฆ่าพ่อเลี้ยงแล้วจะหนีอย่างไร จึงหักห้ามจิตใจไว้

 ต่อมาทางญาติพี่น้องบ้านเก่าที่ จ.อุดรธานี พากันไปรับมาที่บ้านเกิดเพื่อไปสร้างฐานะใหม่ พ่อเลี้ยงก็ตามไปรังควาญอีก และยังเล่นการพนันเหมือนเดิม บรรดาพี่น้องจึงตั้งใจจะทำร้าย ปรากฏว่าพ่อเลี้ยงหลบหนีไปก่อน ตั้งแต่นั้นโดยไม่กลับมาอีก

วัยรุ่น

        จนอายุ ๑๖-๑๗ ปี ก็ยังเห็นพระอินทร์อยู่ ท่านจะมาสอนธรรมะ บอกคาถาป้องกันตัว อยู่ยงคงกระพันและคาถาเจ็บไข้ได้ป่วย เวลาที่พระอินทร์กลับ ท่านจะสั่งว่าเวลามีเรื่องอะไรให้นึกถึง “พ่อ” (ท่านเรียกตัวเองว่า พ่อ) แล้วท่านจะลงมาช่วย 

การบรรพชา

ในปีพ.ศ.๒๕๐๙ ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดศิริวัฒนา อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี ตามความประสงค์ของคุณลุง เนื่องจากที่วัดแห่งนี้ไม่มีพระเณรมาบวช เมื่อบวชได้ ๑ เดือน ๒๐ วัน ก็สามารถปฏิบัติจนรู้ธรรม เห็นธรรม สู้เป็น สู้ตาย ไม่หลับไม่นอนหลายวันหลายคืน ปฏิบัติจริงจัง ปฏิบัติแบบเอาเป็นเอาตาย พอจิตเข้าถึงธรรมแล้ว จิตยึดมั่นอยู่ในคำสอนของพระพุทธเจ้า ท่านปฏิบัติไม่ท้อถอย อดทน ต่อสู้ งานวัดไม่ว่าวัดไหนมีงานก่อสร้างศาลาการ เปรียญก็ตั้งใจช่วยงานอย่างเต็มที่ 

การอุปสมบท

        บวชเป็นสามเณรอยู่ ๒ พรรษา ต่อมาปี พ.ศ.๒๕๑๑ ขณะอายุ​ ๒๐ ปี​ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมีพระครู​ปภัสสรศีลคุณ​ เป็น​พระอุปัชฌาย์​ พระอาจารย์​บุญ​เกิด​ ยุตฺตธัมโม​ เป็น​พระ​กรรมวาจาจารย์​ พระอาจารย์​บุญ​ฤทธิ์​ สุเมโธ​ เป็นพระอนุสาวนาจารย์​ ตรงกับวันที่​ ๓๑ มกราคม​ ๒๕๑๑ ณ​ วัดอัมพวัน​ ต.คอนสาย​ อ.กู่แก้ว​ จ.อุดรธานี​ ได้รับฉายาว่า​ "อินฺทสิริ" แปลว่า "ผู้​ประกอบด้วย​ความดี​ ความยิ่งใหญ่" 

หลังบวชมีโอกาสศึกษาธรรมกับพ่อแม่ครูอาจารย์สายกรรมฐานที่เป็นศิษย์องค์สำคัญของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อาทิ หลวงปู่ศรี อุจจโย, หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ ฯลฯ 

นับตั้งแต่หลวงปู่ไม เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ท่านได้ดำเนินเจริญตามรอยธรรมพ่อแม่ครูอาจารย์ ในการประพฤติปฏิบัติธรรมและรักษาพระธรรมวินัยโดยเคร่งครัด จึงเป็นที่เคารพศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั่วไป 

หลวงปู่ไมเป็นพระเถระที่ประพฤติดีปฏิบัติชอบอีกองค์หนึ่งที่ให้ความเคารพศรัทธาหลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร ในงานสวดลักขีและแสดงมุทิตาจิต ณ วัดธรรมมงคล เถาบุญนนทวิหาร พระโขนง กรุงเทพฯ หลวงปู่ไมมักจะเดินทางมาร่วมแสดงมุทิตาจิตน้อมถวายแด่หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร อยู่เสมอ

โอวาทธรรม

“…การทำความดีเพื่อให้คนรัก ที่สำคัญมี ๒ ทาง คือ ทำความดีภายนอก ๑ ทำความดีภายใน ๑ …การทำความดีภายนอกได้แก่ การทำบุญให้ทานรักษาศีล ตั้งใจสู้งานเพื่อครอบครัว ขยันทำงาน เพื่อตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ ฯลฯ …การทำความดีภายในได้แก่ การเจริญสติบารมี การเจริญปัญญาบารมี ให้เด็ดขาดเกรียงไกร เพื่อก้าวขึ้นสู่บารมีธรรม ที่สูง ๆ ยิ่ง ๆ ขึ้นไป …นี้คือคุณงามความดีที่ลูกหลานควรทำ เพื่อให้เกิดประโยชน์สุข แก่ตนเองและครอบครัว และพ่อแม่พี่น้อง ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต” ฯลฯ

บั้นปลายชีวิตหลวงปู่ไมได้มาสร้างวัดป่าเขาภูหลวง ตั้งอยู่ที่ ต.ระเริง อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา และพำนักจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้เรื่อยมาจนกระทั่งละสังขาร

ฯลฯ

ละสังขาร

            ละสังขารด้วยอาการสงบ  เมื่อเวลา ๐๑.๑๒ น. วันศุกร์ที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๔ ณ โรงพยาบาลรามาธิบดี สิริอายุ ๗๓ ปี ๗ เดือน ๒ วัน ๕๔ พรรษา


ท่องเที่ยวธรรม ขอนอบน้อมพระอริยสงฆ์ด้วยเศียรเกล้า

ขออนุโมทนาบุญกุศลจากการอ่าน  ขอสรรพมงคลจงมีแด่ท่าน

ขอบคุณข้อมูลจาก kampeenews.com ,108prageji.com

พระธรรมเทศนาเรื่อง จิต สมาธิ 

พระธรรมเทศนาเรื่อง จิต สมาธิ

สนับสนุนเราด้วยการ คลิกชมโฆษณา อนุโมทนาบุญครับ

สวัสดี

---------------------

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชีวประวัติ ปฏิปาพระอาจารย์อัครเดช (พระอาจารย์ตั๋น) ถิรจิตฺโต วัดบุญญาวาส ต.บ่อทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี

ประวัติหลวงปู่แว่น ธนปาโล วัดถ้ำพระสบาย บ.หนองถ้อย ต.นาครัว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง

หางานในกรุงเทพ ตกงาน หรือว่างงาน มา Samco