ท่องเที่ยวธรรม

การธุดงค์                      เล่ากันว่าครั้งที่หลวงพ่อคูณเริ่มจาริกธุดงค์ออกจากวัดถนนหักใหญ่ อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา มุ่งหน้าสู่จังหวัดหนองคาย เส้นทางธุดงค์ของหลวงพ่อคูณยึดเอาแนวชายดงชายเขาอันเปล่าเปลี่ยวเป็นเส้น ทางโคจร จะหยุดยั้งปักกลดบำเพ็ญสมณธรรม ก็ถือเอาทำเลชัยภูมิซึ่งห่างไกลชุมชนหมู่บ้านพอสมควรหลวงพ่อคูณเดินเท้าไปเรื่อยๆ กระทั่งถึงจังหวัดหนองคาย จากนั้นก็อาศัยเรือข้ามแม่น้ำโขงไปขึ้นยังฝั่งลาวราช อาณาจักรลาวสมัยนั้น ความเจริญมีอยู่แค่เมืองหลวงคือนครเวียงจันทน์เท่านั้นเอง เลยจากเขตเมืองหลวงไปแล้วก็คือป่าเขาลำเนาไพรซึ่งยังเป็นธรรมชาติบริสุทธิ์ ชาวลาวดำเนินชีวิตด้วยความเป็นอยู่เรียบง่าย ทำไร่ทำนาแค่พอกินพอใช้ไปวันๆ แต่ประชาชนซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นคนยากจนส่วนใหญ่นี้ต่างมีจิตศรัทธาเลื่อมใส ในพระพุทธศาสนาอย่างยิ่งหลวง พ่อคูณไม่เคยเข้าไปในประเทศลาวมาก่อน แต่ท่านไม่รู้สึกปริวิตกแม้แต่น้อย เพราะจุดหมายปลายทางของพระธุดงค์กรรมฐานนั้นคือการไปให้ถึงโมกขธรรมอันสูง สุด มิใช่เดินทางไปท่องเที่ยวแสวงหาความรื่น...

                                  สวัสดีผู้อ่านทุกท่านครับ  เดือน ก.พ.๖๔ ท่องเที่ยวธรรม เดินทางไปนมัสการพระรัตนตรัยที่วัดบ้านไร่ หรือวัดหลวงพ่อคูณ จึงบันทึกประวัติ  สารธรรมให้ผู้อ่านได้อ่านกันครับ                  วัดบ้านไร่ตั้งอยู่ ตำบลกุดพิมาน อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา มีชื่อเสียงเนื่องจากพระเทพวิทยาคม (คูณ ปริสุทฺโธ) พระเกจิชื่อดัง เป็นที่เคารพศรัทธาของคนทั้งประเทศ ท่านเคยเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ประวัติ วัดบ้านไร่เดิมเป็นสำนักสงฆ์ที่มีมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2436 ในช่วงรัชกาลที่ 5 โดยมีพระอาจารย์เชื่อม วิรโช เป็นเจ้าอาวาสรูปแรกได้มีการก่อสร้างศาสนอาคารต่างๆ ขึ้น โดยเฉพาะช่วงที่หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เป็นเจ้าอาวาสได้มีการพัฒนาวัดมากที่สุด ด้วยมีผู้ศรัทธาจากทั่วประเทศได้ร่วมถวายวัตถุปัจจัยเป็นเงินมหาศาล หลวงพ่อคูณได้ก่อตั้งเป็นมูลนิธิหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เพื่อกิจกรรมสาธารณประโยชน์ต่างๆ เช่น การบูรณะวัด การสร้างโรงเรียน โ...

  วัดป่าสาลวัน      สวัสดีผู้อ่่านทุกท่านครับ   เดือน ก.พ.๒๕๖๔ ท่องเที่ยวธรรม ได้ไปนมัสการพระรัตนตรัยที่วัดป่าสาลวัน ต.ในเมือง อ.เมืองจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งแรงบันดาลใจที่ทำให้อยากไปที่วัดนี้คือ การได้ฟังเทนาธรรม อ่านหนังสือ ธรรมประวัติของหลวงปู่จาม ที่บอกเล่าเรืองราวที่หลวงปุ่มั่น ภูริทัตโต ได้มอบหมายการอบรมพระเณรให้หลวงปู่สิงห์ ขนฺตยาคโม เป็นผู้ดูแล  และอีกทั้งการฟังเทศนาธรรมของหลวงปู่พุธ  ฐานิโย ทำให้เกิดความเลื่อมใสในปฏิปทาของท่านครับ        วัดนี้ก่อตั้งพ.ศ.๒๔๗๔ โดย พระญาณวิศิษฎ์สมิทธิวีราจารย์ (สิงห์ ขนฺตยาคโม) เจ้าอาวาสองค์แรก เป็นศิษย์องค์สำคัญของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อาจารย์ใหญ่สายพระป่าสายกรรมฐาน สาลวัน ตั้งชื่อโดยเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์(อ้วน ติสโส) มาจากคำว่า "สาละ" แปลว่า ต้นรัง "วนะ"แปลว่า ป่า โดยตั้งตามลักษณะของวัดที่มีไม้เต็งรังจำนวนมาก """""       สภาพที่ตั้งของวัดในปัจจุบัน(ก.พ.๒๕๖๔) มีต้นไม้ขนาดกลาง มีไม่มาก มีกุฎล้อมรอบ เงียบสงบ เรียบง่าย วัดมีกำแพงสูงประมาณ ๒.๕๐ เมตร มีชุมชน ร้านค้า ร้านอ...

สวัสดีผู้อ่านทุกท่านครับ ท่องเที่ยวธรรม  เขียนบันทึกการไปนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุของพระอรหันตสาวก และจัดทำวิดีโอยูทูป นำชมบรรยากาศภายในวัดป่าวิเวกวัฒนาราม ท่องเที่ยวธรรมเดินทางถึงวัดเวลา ๑๑.๐๐ น. ๓๐ ธ.ค.๒๕๖๓   วันนั้นแดดร้อนมาก บรรยากาศในวันเงียบสงบ มองดูคนภายในวัดมีเพียง ๒ คน ทำให้สามารถบันทึกภาพ และชมได้สะดวก  จักนำเล่าประวัติให้ผู้อ่านได้ทราบเป็นสาระธรรมดังนี้ครับ   วัดป่าวิเวกวัฒนาราม  ตั้งเมื่อ พ.ศ. 2478 เดิมชื่อ วัดหนองน่อง ตั้งอยู่บริเวณด้านทิศใต้ของหมู่บ้านห้วยทราย โดย หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต เป็นหัวหน้าสำนักสงฆ์และมีพระปฏิบัติธรรม เช่น หลวงปู่เทสก์ เทสฺรังสี หลวงปู่ฝั้น อาจาโร หลวงตามหาบัว ญาณสัมปัณโณ เป็นต้น มาปฏิบัติธรรม  วัดป่าวิเวกวัฒนาราม ตั้งอยู่บ้านห้วยทราย หมู่ที่ 9 ตำบลคำชะอี อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร สังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุต ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ 33 ไร่ (ข้อมูลจากเวบไซต์ บ้านแสนสุขดอทคอม)     หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ                สังเขปประวัติ : หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ นับ...

 ท่องเที่ยวธรรม ได้เดินทางช่วงปลายเดือน ธ.ค.พ.ศ.๒๕๖๒ โดยใช้รถส่วนตัววิ่งบนถนนมิตรภาพสู่หนองคาย เลี้ยวซ้ายที่ต.หนองสองห้อง ก่อนถึงจ.หนองคายประมาณ ๒๕ ก.ม.  จากต.หนองสองห้องมุ่งตรงไปอ.ท่าบ่อ ระยะทางประมาณ ๓๕ ก.ม. แล่นรถผ่านอ.ท่าบ่อมุ่งสู่วัดหินหมากเป้ง ถนนสายนี้จะเลียบแม่น้ำโขงย้อนขึ้นไปทางทิศเหนือ ก่อนถึงวัดหินหมากเป้งระยะทางประมาณ ๑๐ ก.ม.เริ่มมีการดำเนินการขยายถนนเป็น ๔ ช่องทางจราจร สนับสนุนเราได้ที่

                      สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แพร่ทั่วโลก องค์การอนามัยโลกประกาศเป็นโรคติดต่ออันตรายร้ายแรง ตามด้วยรัฐบาลไทยได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเรียบร้อยแล้ว มีผลตั้งแต่ 1 มี.ค.2563 เป็นต้นไป หน่วยงานต่างต้องปฏิบัติข้อบังคับทางกฏหมายอย่างเคร่งครัด                  ขอให้พี่น้องชาวไทยมีความระมัดระวังการกิน การอยู่ การเดินทาง หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ชุมชนแออัน หากเลี่ยงไม่ได้ต้องป้องกันให้ดี ช่วงนี้พี่น้องชาวไทยของเราประสบปัญหาหลายอย่างเช่น ฝุ่น pm2.5 ไวรัสโควิด 19 ซ้ำเติมด้วยภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ การประท้งขับไล่รัฐบาลทั่วประเทศของกลุ่มนักศึกษา การทะยอยปิดโรงงาน เลิกจ้างของเจ้าของกิจการ การไม่สามารถแก้ปัญหาได้      ก่อเกิดปัญหาสังคมต่างมามากมาย ลามปลายเป็นปัญหาใหญ่เพิ่มขึ้นทุกที                 ทางออกคือ รัฐบาลต้องฟังเสียงของประชาชน เคารพฟังเสียงของประชาชน ทำงานเชิงรุกมากขึ้น สร้างความโปร่งใส ความมั่นใจให...