ชีวประวัติ ปฏิปทาหลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม บ.พืชอุดม ต.บุเปือย อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี


๏ ประวัติและปฏิปทา หลวงพ่อบรรจง กมโล ๏ 
     วันนี้วันที่ ๒๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๗ เป็นวันเจริญอายุวัฒนมงคล ครบรอบ ๗๕ ปี ๕๔ พรรษา หลวงพ่อบรรจง กมโล วัดป่าค้อเจริญธรรม บ้านพืชอุดม ตำบลบุเปือย อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ท่านเป็นกิ่งก้านแห่งพระโพธิญาณ ลูกศิษย์ของหลวงปู่ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี
     หลวงพ่อบรรจง กมโล เกิดเมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๔๙๒ แรม ๔ ค่ำ นามเดิมของท่านชื่อ บรรจง อุกาพรหม บิดาชื่อ นายอ่อน อุกาพรหม มารดาชื่อ นางเทียม อุกาพรหม
     ท่านได้อุปสมบท ที่ วัดแสงเกษม ต. เมืองเดช อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี เมื่อ วันที่ ๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๓ พระอุปัชฌาย์ ชื่อ/ฉายา พระครูวิบูลธรรมธาดา
     ในพื้นที่บริเวณวัดป่าค้อในปัจจุบันนี้นั้น แต่ก่อนมีเพียงชาวบ้านที่มาถางป่า ทำไร่ ทำสวนเท่านั้น เพราะลักษณะของดินที่นี่เป็นดินแดงปลูกอะไรก็เติบโตได้ดี แต่หน้าฝนจะเป็นโคลนเหนียวและลื่น ตามลำห้วย ลำคลองก็มีน้ำไม่เคยขาด มีสัตว์ป่าหลายชนิด เช่น เสือ หมูป่า หมาป่า เป็นต้นฯ พอมีผู้มาทำไร่ ทำสวนมากขึ้นเรื่อยๆ ชาวบ้านจึงได้จับจองพื้นที่ประมาณ ๘๐ ไร่ ไว้เป็นที่สงวน โดยคิดว่าต่อไปจะสร้างเป็นวัด ต่อมาจนถึงปี พ.ศ. ๒๕๑๓ ชาวบ้านจึงได้นิมนต์หลวงปู่หนู มาจากบ้านแข้ด่อน มาอยู่จำพรรษา ในบริเวณป่าที่ชาวบ้านสงวนไว้ เนื่องจากป่าบริเวณที่สร้างวัดนี้ มีต้นไม้สะค้อ มากมายหลายต้น ชาวบ้านจึงเรียกว่า “วัดป่าค้อ” และได้ร่วมกันสร้างเสนาสนะต่างๆ หลวงปู่หนูได้จำพรรษาอยู่ที่วัดป่าค้อได้ ๓ พรรษา ก็ได้ย้ายไปจำพรรษาที่วัดอื่น วัดป่าค้อจึงเป็นวัดร้าง
     ชาวบ้านจึงตกลงกันว่าจะนำวัดป่าค้อนี้ ไปถวายให้หลวงปู่ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง หลวงปู่ชาท่านก็ได้มีเมตตารับไว้ และได้ส่งหลวงพ่อคูณ มาอยู่จำพรรษาในปี พ.ศ. ๒๕๑๕ จนถึงปี พ.ศ. ๒๕๑๖ หลวงพ่อคูณจึงได้ย้ายไปจำพรรษาที่วัดอื่นอีก แต่ก่อนไปท่านได้พูดกับญาติโยมว่า “อาตมาไม่ใช่เจ้าของวัดนี้หรอก เจ้าของเขาจริงๆ นั้นยังไม่มา” 
     พอถึงปี พ.ศ. ๒๕๑๗ หลวงปู่ชาจึงได้ส่ง หลวงพ่อบรรจง กมโล ให้มาอยู่จำพรรษาที่วัดป่าค้อตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา หลวงพ่อบรรจง กมโล อยู่รูปเดียวเรื่อยมา จนหลวงปู่ชา ท่านเมตตาสงสาร ได้มาพักอยู่ด้วย เพื่อเป็นกำลังใจให้ เพราะป่าในบริเวณนี้นั้นเรียกได้ว่าเป็น “ป่าช้างดงเสือ” พร้อมทั้งพูดให้กำลังใจหลวงพ่อบรรจงว่า “... ฮือ ป่าก็สงบดีนะคุณจง พื้นดินก็เป็นโคลนลื่นเฉพาะหน้าฝนเท่านั้น ภาวนาอยู่นี่แหละนะ ดีแล้ว ถ้าไม่มีใครมาอยู่ด้วยจริงๆ ต่อไปก็ตั้งชื่อวัดว่า “วัดป่าจงสบาย” ก็แล้วกันนะคุณ …”
     หลวงพ่อบรรจง ยึดคำหลวงพ่อชาโดยไม่เคยท้อถอยในการประพฤติปฏิบัติ พอมีพระเณรมาอยู่ด้วย ท่านก็ได้พาทำวัตรสวดมนต์ นั่งสมาธิ เดินจงกรม ทำให้เป็นตัวอย่างที่ดี พร้อมทั้งได้สร้างข้อวัตรปฏิบัติต่างๆ เพื่อให้พระเณรของท่านมีคุณภาพ จนถึงปี พ.ศ. ๒๕๔๔ วัดป่าค้อจึงได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเป็น “วัดป่าค้อเจริญธรรม” หลวงพ่อบรรจงท่านก็ได้สร้างโบสถ์ กุฏิ ศาลาการเปรียญ ศาลาหอฉัน ศาลาโรงครัว และยังได้ซื้อที่ขยายออกไปอีก
     ด้วยระลึกในพระคุณพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ท่านได้บูรณะกุฏิเก่าที่หลวงปู่ชาได้เคยมาพักกับท่าน ในสมัยก่อนนั้น ท่านได้สร้างขึ้นเป็น “กุฏิสถานีวิทยุธรรมะเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา” และเพื่อถวายเป็นอาจาริยบูชาด้วย และยังได้สร้างกุฏิสื่อธรรมะ เพื่อเผยแผ่สื่อธรรมะทั้ง ซีดี วีซีดี ดีวีดี เอ็มพีสาม และหนังสือธรรมะต่างๆ พร้อมทั้งได้ตั้งวัดสาขาต่างๆ ขึ้น
     จนถึงปี พ.ศ. ๒๕๕๕ ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูวิบูลญาณคุณ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ซึ่งในปัจจุบันวัดป่าค้อเจริญธรรม ได้มีวัดสาขา ๒๐ กว่าสาขา ที่ร่วมกันประพฤติปฏิบัติ ในข้อวัตรปฏิบัติอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเรา เพื่อสร้างพระเณรที่มีคุณภาพ ไว้ในพระพุทธศาสนาต่อไป

-------‐‐
ขอนอบน้อมพระอริยสงฆ์ด้วยเศียรเกล้า
อนุโมทนาบุญกุศลจากการอ่าน
กราบขอบพระคุณข้อมูลจาก FB พระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
สวัสดี.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชีวประวัติ ปฏิปาพระอาจารย์อัครเดช (พระอาจารย์ตั๋น) ถิรจิตฺโต วัดบุญญาวาส ต.บ่อทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี

ประวัติหลวงปู่แว่น ธนปาโล วัดถ้ำพระสบาย บ.หนองถ้อย ต.นาครัว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง

หางานในกรุงเทพ ตกงาน หรือว่างงาน มา Samco