ชีวประวัติ ปฏิปาหลวงปู่ไท ธานุตฺตโม วัดเขาพุนก ต.ห้วยยางโทน อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี



 ประวัติและปฏิปทา พระอาจารย์ไท ฐานุตตโม 
     วันที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ เป็นวันครบรอบ ๘๙ ปี ชาตกาล หลวงพ่อไท ฐานุตตโม หรือ พระอาจารย์ไท ฐานุตตโม วัดเขาพุนก ตำบลห้วยยางโทน อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี ท่านเป็นพระวิปัสสนาจารย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และมีศักดิ์เป็นหลานของหลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม ท่านเป็นครูบาอาจารย์ที่เก่งด้านวิปัสสนากัมมัฏฐานอีกรูปหนึ่ง

พระอาจารย์ไท มีนามเดิมว่า ไท คะปัญญา พื้นเพท่านเป็นชาวบ้านข่า ตำบลบ้านข่า อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ โยมบิดาชื่อนายบัว คะปัญญา โยมมารดาชื่อนางขำ คะปัญญา มีพี่น้องร่วมบิดามารดา ๓ คน เรียงตามลำดับ ดังนี้

         ๑. นายวังคำ คะปัญญา
         ๒. นางวัง ยะภักดี
         ๓. พระอาจารย์ไท ฐานุตตฺโม

         เมื่อวัยเด็ก ท่านเรียนหนังสือจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ณ โรงเรียนบ้านข่า ตำบลบ้านข่า อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม แล้วได้ออกจากโรงเรียนมาช่วยบิดามารดาทำงานที่บ้าน

         ปี พ.ศ. ๒๔๙๙ หลวงพ่อไท ท่านมีอายุได้ ๒๑ ปี ท่านได้ติดตามพระอาจารย์กาวงศ์ โอทาตวณโน ไปที่วัดป่าดาราภิรมย์ ตำบลแม่ริม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ แล้วได้ศึกษาเรื่องการอุปสมบทกับท่านพระครูวิมลคณาภรณ์ วัดโรงธรรมสามัคคี ตำบลสันกำแพง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่

         ต่อจากนั้นเมื่อวันที่ ๑๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๙๙ ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๘ ปีวอก เวลา ๑๔.๓๕ น. ท่านได้บรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดเจดีย์หลวง ตำบลพระสงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับ ฉายาว่า "ฐานุตฺตโม" โดยมี พระวิสุทธิสารสุธี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระวินัยโกศล เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์ทองบัว ตันติกโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านได้เดินทางไปจำพรรษาที่วัดโรงธรรมสามัคคี ตำบลสันกำแพง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ และท่านได้ศึกษาพระปริยัติธรรม 

         ปี พ.ศ. ๒๔๙๙ ท่านสอบนักธรรมชั้นตรี ณ สำนักเรียนวัดเจดีย์หลวง ในสนามหลวง คณะจังหวัดเชียงใหม่

        ปี พ.ศ. ๒๕๐๑ ท่านสอบได้นักธรรมโท ณ สำนักเรียนวัดเจดีย์หลวง ในสนามหลวง คณะจังหวัดเชียงใหม่

        ปี พ.ศ. ๒๕๐๓ ท่านอุปสมบทอยู่ในช่วงพรรษาที่ ๕ ท่านจึงได้เดินทางไปจำพรรษาเพื่อปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม ณ วัดป่าอาจารย์ตื้อ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ 

         เมื่อออกพรรษาแล้ว ท่านได้เที่ยงธุดงค์ไปในที่ต่างๆ หลายที่และอยู่จำพรรษาตามวัดต่างๆ ไม่อยู่ประจำที่ไหนนานนักเช่น ถ้ำวัวแดง จังหวัดชัยภูมิ วัดป่าพุตเตย จังหวัดเพชรบูรณ์ เมืองเก่าสุโขทัย เขาวงพระจันทร์ จังหวัดตาก วัดแม่พริก จังหวัดลำปาง ถ้ำสุขเกษมสวรรค์ อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง ตลอดจนจังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดพะเยา บ้านข่า อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม

         ในคืนวันหนึ่งหลังจากที่ท่านปฏิบัติกัมมัฏฐานแล้ว ลูกศิษย์ท่านหนึ่งได้กราบเรียนถามถึงการปฏิบัติธรรมของท่าน ท่านได้เมตตาเล่าให้ฟังว่า ขณะที่ท่านปฏิบัติธรรมอยู่ถ้ำผาไท จังหวัดลำปาง จิตได้ความสงบ จนได้เกิดนิมิตมีดังระเบิดขึ้นสนั่น เมื่อเสียงนั้นเงียบลงแล้ว ท่านก็ได้ยินเสียงพูดขึ้นชัดเจนว่า

         "ครูบา...ขณะนี้จิตท่านได้ถึงความสงบแล้ว ขอให้ท่านรักษาจิตของท่าน ให้มีความสงบอย่างนี้ตลอดไป จะมีผู้คนเคารพสักการะ และมาพึ่งปาระมีท่านเป็นอันมาก ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป"

         แล้วเสียงพูดนั้นก็เงียบไป ครั้นท่านได้กำหนดจิตต่อเนื่องไปอีก ก็บังเกิดแสงสว่างกระจ่างนวลสดใส สามารถจะมองเห็นสิ่งต่างๆ ได้แจ่มชัด 

         ต่อจากนั้นมาก็มีท่านครูฤาษีมาบอกคาถาและตัวยาต่างๆ เพื่อให้ท่านได้โปรดญาติโยมที่เจ็บไข้ได้ป่วย และประสบเคราะห์กรรมทุกข์ภัย ที่พากันมาขอเมตตาปาระมี จากท่านมากมายในทุกแห่งที่ท่านพำนักอยู่

        ปี พ.ศ. ๒๕๑๒ เจ้าพระคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (พิมธมธโร) เจ้าอาวาสวัดศรีมหาธาตุ บางเขน กรุงเทพมหานคร มีบัญชาให้ท่านอยู่จำพรรษาด้วย เพื่ออบรมวิธีปฏิบัติธรรมวิปัสสนากัมมัฏฐาน แก่ญาติโยมที่วัดพระศรีมหาธาตุ ท่านจึงได้รับบัญชาอยู่จำพรรษาด้วย ๑ พรรษา

         เมื่ออกพรรษาแล้ว ท่านได้เดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพมหานคร ไปร่วมงานฉลองพระอุโบสถวัดสันติธรรม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเสร็จงานแล้ว ท่านได้เดินธุดงค์ไปพะเยาและเชียงราย แล้วจึงมาจำพรรษาที่ถ้ำผาจรุย อยู่เป็นเวลา ๑ พรรษา

         ปี พ.ศ. ๒๕๑๔ เจ้าพระคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ได้มีบัญชาให้ท่านกลับมาจำพรรษาที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน กรุงเทพมหานครอีก เพื่อให้มาอบรมวิธีปฏิบัติธรรมวิปัสสนากัมมัฏฐาน แก่ญาติโยม ท่านจึงรับบัญชาอยู่จำพรรษาอีกครั้ง ณ วัดพระศรีมหาธาตุนี้ ซึ่งในบางทีทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ได้กราบนิมนต์ ท่านเป็นพระอาจารย์พิเศษ สอนนิสิตนักศึกษาของมหาวิทยาลัยด้วย

         ปี พ.ศ. ๒๕๒๖ หลวงพ่อไท ท่านได้รับนิมนต์ให้มาอยู่จำพรรษา พร้อมทั้งบูรณะและสร้างสำนักสงฆ์เขาพุนก บ้านหนองลังกา ตำบลห้วยยางโทน อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี ซึ่งเดิมเป็นสำนักสงฆ์ร้าง

         วัดเขาพุนก เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ ๓ ตำบลห้วยยางโทน อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี ตั้งเป็นวัดเมื่อวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๓๖ ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นเพียงสำนักสงฆ์ที่ถูกทิ้งร้าง วัดรับวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๗

         หลังจากที่หลวงพ่อไท ท่านได้มาอยู่ที่สำนักสงฆ์ ท่านได้พัฒนาวัดอย่างสุดความสามารถทั้งการสร้างกุฏิ และสร้างพระอุโบสถที่มีเอกลักษณ์ ท่านได้พัฒนาวัดจนเจริญรุ่งเรืองและได้ใบอนุญาตให้เป็นวัดถูกต้อง ตามกฎหมายเมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๖

         หลวงพ่อไท ปกครองสำนักสงฆ์เรื่อยมาจนถึงแก่มรณภาพลงเมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ เวลา ๐๔.๓๐ น. นับรวมสิริอายุของท่านได้ ๕๗ ปี ๓๖ พรรษา.


ขอนอบน้อมพระอริยสงฆ์ด้วยเศียรเกล้า
อนุโมทนาบุญกุศลจากการอ่าน
ขอขอบคุณ อนุโมทนาบุญผู้รวบรวม เผยแพร่ FBพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ขอสรรพมงคลจงมีแด่ท่าน
สวัสดี.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชีวประวัติ ปฏิปาพระอาจารย์อัครเดช (พระอาจารย์ตั๋น) ถิรจิตฺโต วัดบุญญาวาส ต.บ่อทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี

ประวัติหลวงปู่แว่น ธนปาโล วัดถ้ำพระสบาย บ.หนองถ้อย ต.นาครัว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง

หางานในกรุงเทพ ตกงาน หรือว่างงาน มา Samco