ชีวประวัติ ปฏิปทาหลวงปู่บุญตา ถาวโร วัดสิริจันโท ต.หนองขอน อ.เมือง จ.อุบลราชธานี


๏ ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่บุญตา  ถาวโร ๏ 
     วันนี้วันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๖ เป็นวันครบรอบ ๑๐๖ ปี ชาตกาล หลวงปู่บุญตา  ถาวโร วัดสิริจันโท บ้านหนองไหล อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ท่านเป็นพระอริยะสงฆ์ ๕ แผ่นดิน  พระมหาเถระผู้รัตตัญญูกาล พระผู้มีศีลจารวัตรที่งดงามผ่องใส่ พระผู้เปี่ยมด้วยธรรม พระผู้สมถะพูดน้อย พระผู้มีเมตตาธรรมสูง พระผู้มีพลังจิตเข้มแข็ง
     หลวงปู่บุญตา ถาวโร เป็นหลานแท้ ๆ ของท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์(จันทร์ สิริจันโท) หลวงปู่บุญตาเป็นพระมหาเถระรูปสุดท้ายของจังหวัดอุบลราชธานีที่ทันได้พบและศึกษาธรรมโดยตรงกับหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล และหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต 
     หลวงปู่ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มักน้อย สันโดษ มีครูบาอาจารย์สายกรรมฐานที่ท่านเคารพศรัทธาไปมาหาสู่กันหลายรูป เช่น หลวงปู่บุญมี โชติปาโล หลวงปู่ชา สุภัทโท หลวงปู่มหาโส กัสสโป ฯลฯ

หลวงปู่บุญตา ถาวโร เกิดเมื่อปี พ.ศ.2460 อุปสมบท เมื่อปี พ.ศ.2482 โดยมีหลวงปู่อ่อน เป็นพระอุปัชฌาย์  พระกรรมวาจาจารย์ คือ หลวงปู่สิงห์ อุปสมบท ณ พระอุโบสถ วัดบ้านหนองไหล อ.เมือง จ.อุบลราชธานี

🌿#หลวงปู่บุญตาท่านเกิดที่บ้านหนองไหลซึ่งเป็นบ้านเดียวกัน กับบ้านเกิดของพระเดชพระคุณ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) ถ้านับโดยสายเลือดแล้ว หลวงปู่บุญตา ถาวโร มีศักดิ์เป็นหลานแท้ๆของท่านเจ้าคุณอุบาลี คุณูปมาจารย์(จันทร์ สิริจันโท )  เมื่อองค์หลวงปู่บุญตา ถาวโร ได้อุปสมบทแล้วนั้น ได้รับการศึกษาพระธรรมวินัยและศึกษาอักษรธรรมโบราณได้อย่างแตกฉาน ไม่ว่าจะเป็นอักษรไทยน้อย อักษรธรรมโบราณ และอักษรพระคาถาต่างๆอีกทั้งยังเป็นผู้อนุรักษ์รักษาขนบธรรมเนียม ประเพณีวัฒนธรรมของภาคอีสาน คือ ฮีต12คลอง14 ตลอดจนคำเทศน์ คำสอนโบราณต่างๆ และหลวงปู่บุญตา ถาวโร ยังเป็นผู้ที่มีความชำนาญในด้านการช่าง หลายแขนงอีกด้วย

🌿#หลวงปู่บุญตา ถาวโร ยังได้ออกธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อบำเพ็ญภาวนา ฝึกหัดขัดเกลากิเลส ขัดเกลาจิตใจของตน ตามรอยพ่อแม่ครูบาอาจารย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อยู่หลายครั้งหลวงปู่บุญตา ถาวโร ยังเข้าศึกษาพระกรรมฐานแนวสติปัฏฐานสี่ ที่สำนัก วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎ์ กทม.ในสมัยนั้นผู้สอนกรรมฐาน คือ สมเด็จพระพุฒาจารย์(อาจ อาสภมหาเถระ) อยู่ระยะหนึ่ง เมื่อสมควรแก่เวลา 
หลวงปู่บุญตา ถาวโร ก็ได้เดินทางกลับยังวัดบ้านหนองไหล เข้าพักจำพรรษาที่วัดบ้านหนองไหล เพื่อช่วยงานครูบาอาจารย์ด้านต่างๆ ได้ถวายงานพระธรรมเสนานี (กิ่ง มหปฺผโล (อ่านว่า มะหัปผะโล) อยู่บ่อยครั้ง และยังบูรณะวัด อีกหลายวัดในจังหวัดอุบลราชนี จนที่เป็นวางใจจาก พระธรรมเสนานี โดยพระธรรมเสนานี ได้มอบหมายให้ พระบุญตา ถาวโร ช่วยบูรณะศาลาการเปรียญของวัดมณีวนาราม จนที่พอใจของ พระธรรมเสนานี(กิ่ง มหปฺผโล)เป็นอย่างมาก 

🌿#พระบุญตา ถาวโร ก็ได้ถวายงานพระเดชพระคุณ พระธรรมเสนานี จนเป็นที่ไว้วางใจและได้รับความเมตตาจากพระเดชพระคุณพระธรรมเสนานีแต่งตั้งเป็น พระครูฐานานุกรม ในพระราชาคณะพระธรรมเสนานีที่พระครูสังฆรักษ์บุญตา ถาวโร นำมาซึ้งความปิติยินดียิ่ง ของอุบาสกอุบาสิกา ตลอดจนชาวบ้านหนองไหลเป็นอย่างมาก และท่านได้ช่วยเหลืองานครูบาอาจารย์ และคอยอบรมพระสงฆ์ อุบาสก อุบาสิกา ชาวบ้านหนองไหลตลอดเรื่อยมา 
 
🌿#เมื่อครั้งสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสฺสมหาเถร) ท่านเดินทางมาพักที่วัดบ้านหนองไหล สมัยนั้น หลวงปู่บุญตา ถาวโร ได้เข้าถวายงานอุปฐากเจ้าพระคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสฺสมหาเถร) อยู่บ่อยครั้ง 
เจ้าพระคุณสมเด็จฯ มักจะเรียกหลวงปู่บุญตาว่า "พระหลาน"
หลวงปู่บุญตา ได้รับความเมตตา จากเจ้าพระคุณสมเด็จอยู่บ่อยครั้งและได้รับข้อวัตร ข้อธรรมจากเจ้าพระคุณสมเด็จฯ  โดยเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ได้กล่าวสอนหลวงปู่บุญตา ถาวโร ไว้ว่า

🏵"ชั่วทันกัน  ดีทันกัน 
ตกลงกัน สามกันอยู่นำกันได้"

🌿หลวงปู่บุญตา ก็ได้น้อมนำข้อคิด ข้อธรรมนี้ มาสอนจิตสอนใจตนเองเสมอมา หลวงปู่บุญตา ถาวโรก็ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านหนองไหลตลอดเรื่อยมา

🌿หลวงปู่บุญตา ถาวโร ท่านเล่าให้ฟังว่า
"  เมื่อครั้งเจ้าคุณพระอุบาลี คุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) หรือ หลวงปู่ใหญ่ ( เป็นคำที่หลวงปู่บุญตาเรียกท่านเจ้นคุณพระอุบาลี คุณูปมาจารย์) ท่านได้มาสร้างสำนักสงฆ์ไว้ที่ป่าบ้านหนองไหล ในช่วงเข้าพรรษา ปี พ.ศ. 2431 นั้น พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ ท่านได้นำพาพระภิกษุสงฆ์ ตลอดถึงญาติโยม มาร่วมสร้างสำนักปฏิบัติธรรมที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ โดย มีพระ 8 รูปและชาวบ้านมาช่วยกันการสร้างเสนาสนะ พอมีศาลาและกุฎีที่พักแก่พระสงฆ์ที่จะมาปฏิบัติธรรมในสำนักสงฆ์แห่งนี้

🌿หลังจากออกพรรษาแล้ว พระเดชพระคุณพระอุบาลี คุณูปมาจารย์ ก็ได้รับคำสั่งให้ไปเป็นเจ้าคณะมณฑลที่นครจำปาศักดิ์ ส่วนที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ ก็ได้ว่างเว้นจากการพัฒนา จนเวลาล่วงเลยมาถึง พ.ศ.2517 หลวงปู่บุญตา ก็ได้ขออนุญาต ครูบาอาจารย์ออกไปสร้างวัดเพื่อสืบสานงานพระศาสนา ท่านได้เห็นความสำคัญของสถานที่แห่งนี้ ที่ในอดีตที่พระเดชพระคุณพระอุบาลี คุณูปมาจารย์เคยมาพัฒนาป่าแห่งนี้ให้เป็นสำนักสงฆ์มาก่อน" 
  
🌿 ดังนั้น หลวงปู่ จึงได้นำพาพระสงฆ์และชาวบ้านมาฟื้นฟูพัฒนาสถานที่สำนักสงฆ์ตรงบ้านหนองไหล ซึ่งแถวบ้านหนองไหลนี้ จะอยู่ติดกับเขตป่าสงวน ซึ่งเป็นป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์อยู่มาก โดยหลวงปู่บุญตา เป็นพระที่ชอบความสงบวิเวก ชอบอาศัยป่าไม้ และร่มเงาป่า เป็นที่ปฏิบัติบำเพ็ญธรรม เพราะโดยปรกติหลวงปู่บุญตา เป็นพระสมถะและชอบความสงบอยู่แล้ว ท่านจึงได้พิจารณาแล้วเห็นว่า สำนักสงฆ์แห่งนี้ที่หลวงปู่ใหญ่หรือพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ เคยสรัางไว้ก่อนแล้วแต่ได้ว่างเว้นจากการพัฒนามานาน ท่านจึงเห็นว่าสถานที่นี้เหมาะแก่จะทำเป็นที่ปฏิบัติธรรมและสร้างเป็นวัด จึงดำริที่จะสร้างวัด ณ สำนักสงฆ์เก่าแห่งนี้ขึ้น 

🌿ชาวบ้านเรียกดงนี้ ว่า "ดงเจ้าฟ้า" ซึ่ง ดงเจ้าฟ้านี้ มีประวัติที่มีเรื่องราวเล่าลือ ถึงสัตวป่า พวกเสือ ช้างป่าในสมัยนั้นและความเฮี้ยนดุร้ายของผีเจ้าที่ผีป่าต่างๆ ไม่มีชาวบ้านคนใด หรือใคร กล้าย่างกรายเข้าไปโดยเด็ดขาด เพราะมีต่างเกรงกลัวถึงความเฮี้ยน ดุร้ายของผีเจ้าที่ ผีป่าอยู่บ่อยครั้ง แม้แต่ใครก็ตามเข้าไปตัดต้นไม้ เมื่อกลับมาถึงบ้าน ก็เกิดอาการป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ ต้องไปขอขมา และนำไม้ไปคืนจึงหายป่วยได้

🌿 ในสมัยนั้นแต่หลวงปู่บุญตา ก็มิได้มีความกลัวผีป่า ผีเจ้าที่ ตามคำเล่าลือของชาวบ้านแต่อย่างใด ก็ยังคงคิดที่จะพัฒนาสำนักสงฆ์แห่งนี้และตั้งใจจะสร้างให้เป็นวัด เพื่อใช้เป็นที่ปฏิบัติของพระสงฆ์สืบไปให้ได้

🌿เมื่อหลวงปู่บุญตา คิดที่จะสร้างสำนักสงฆ์แห่งนี้ให้เป็นวัดขึ้นมาท่านจึงได้เดินทางไปขอคำแนะนำจากครูบาอาจารย์ คือ พระโพธิญาณเถระหรือ (หลวงปู่ชา สุภทฺโท) แห่งวัดหนองป่าพง 
หลวงปู่บุญตาท่านจึงได้นำความประสงค์ที่จะสร้างวัด เข้าเรียนถาม และปรึกษาหลวงปู่ชา สุภัทโท โดยหลวงปู่ชา ท่านก็ได้ให้คำแนะนำในการสร้างวัดว่า
 " ให้ทำรั้วก่อนนะ ค่อยทำอย่างอื่น เพื่อจะได้รู้อาณาเขตของวัด ชาวบ้านจะได้ไม่รุกล้ำ เข้ามาในเขตที่ดินของสงฆ์ จึงให้สร้างรั้วก่อน แล้วค่อยทำอย่างอื่น"
หลวงปู่บุญตา ก็ได้น้อมนำคำชี้แนะจากหลวงปู่ชานำมาปฏิบัติ ตามที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์แนะนำเสมอมา

🌿เมื่อหลวงปู่บุญตา ได้รับคำแนะนำจากหลวงปู่ชา แล้ว ท่านก็ได้ทำตามคำแนะนำนั้น โดยดำเนินการสร้างรั้วก่อน จากนั้นได้สร้างกุฏิและสร้างศาลาปฏิบัติธรรม และพระอุโบสถ กุฏิสงฆ์จนแล้วเสร็จและสร้างเสนาสณะต่างๆ หลวงปู่บุญตาท่านยังพัฒนาจิตใจอบรมธรรมให้แก่พระสงฆ์และอุบาสกอุบาสิกาเรื่อยมาถึงปัจจุบัน 

🍀เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ.2539 หลวงปู่บุญตา ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดสิริจันโท โดยชื่อวัดสิริจันโทนี้ หลวงปู่บุญตา ท่านได้นำฉายาของพระเดชพระคุณพระอุบาลี คุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนฺโท) มาเป็นชื่อวัด ซึ่งคำว่า "สิริจนฺโท แปล ว่าสว่างดั่งดวงจันทร์"  เพื่อถวายพระเกียรติคุณเทิดทูนครูบาอาจารย์ องค์หลวงปู่ใหญ่

🍀และในปีเดียวกัน วันที่25ธันวาคม 2539 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ให้เป็นวัดสิริจันโทโดยสมบูรณ์หลังจากนั้นหลวงปู่บุญตา ก็ได้พัฒนาวัดและพัฒนาจิตใจชาวบ้านเรื่อยมา
จน และเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2541 หลวงปู่ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น"พระครูถาวรพัฒนคุณ" พระครูสัญญาบัตรชั้นโท ตำแหน่งที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลชั้นโท นำมาซึ่งความปิติยินดียิ่งแก่ญาติโยมชาวบ้านหนองไหลเป็นอย่างมาก

🍀หลวงปู่บุญตา ท่านยังได้จัดงานปริวาสกรรมอยู่บ่อยครั้ง เพื่ออบรมพระสงฆ์ให้เข้าใจในพระธรรมวินัย และอบรมธรรมอุบาสกอุบาสิกาตลอดมา จนเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2549
หลวงปู่บุญตา ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระครูสัญญาบัตรชั้นเอกที่
" พระครูถาวรพัฒนคุณ" 
ตำแหน่งที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลชั้นเอก นำมาซึ่งความปิติยินดียิ่งแก่ศิษยานุศิษย์ อุบาสก อุบาสิกาตลอดจนชาวบ้านหนองไหลเป็นอย่างมาก

🍀หลวงปู่บุญตา ถาวโรยังมีความเคราพธรรมในองค์หลวงปู่บุญมี โชติปาโล วัดสระประสานสุข อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เป็นอย่างมาก ท่านไปมาหาสู่กันอยู่ตลอด เมื่อหลวงปู่ทั้งสองพบกัน หลวงปู่บุญตา จะกราบหลวงปู่บุญมีนั้นหลวงปู่บุญมี มักจะห้ามไม่ให้หลวงปู่บุญตากราบท่านจะบอกว่า "หลวงปู่บุญตา เป็นพระหลานของท่านเจ้าคุณ(พระอุบาลีฯ)  บ่ต้องกราบเฮาเด้อ" แต่หลวงปู่บุญตาก็ยังต้องคงกราบหลวงปู่บุญมีอยู่เสมอ เพราะความเคารพในธรรม ขององค์หลวงปู่บุญมี เป็นอย่างมากและหลวงปู่บุญตา ถาวโร ยังมีศรัทธานำพาญาติโยมร่วมกันปิดทององค์พระพุทธรูปปางมารวิชัย พระประธานใหญ่ในศาลาวัดสระประสานสุข ซึ่งอยู่มาจนถึงปัจจุบันนี้

🍀หลวงปู่บุญตา ถาวโร ยังมีความคุ้นเคยกับ พระราชปริยัตยากร (หลวงปู่บุญเรือง สารโท) วัดพิชโสภาราม อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี เพราะท่านทั้งสองเป็นสหธรรมมิกกัน ไปมาหาสู่กันโดยตลอด

🍀หลวงปู่บุญตา ถาวโร ยังปฏิบัติตามแบบพ่อแม่ครูบาอาจารย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต และพระอุบาลีคุญูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนฺโท) เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

🍀หลวงพ่อเจริญ ฐานยุตฺโต วัดโนนสว่าง จ.อุดรธานี ได้กล่าวถึงเรื่องราวของหลวงปู่บุญตา ถาวโร ว่า 
"องค์หลวงปู่บุญตานั้น ท่านเป็นพระโบราณ ท่านมีวิชาโบราณเยอะ ท่านเคร่งครัดในพระธรรมวินัยมาก (สมัยก่อนจะดุหน่อย) แต่ท่านเก่งมากๆ นะ เราก็เป็นลูกศิษย์ท่านนี่ละ เราก็ได้วิชาจากท่านอยู่บ้าง ท่านที่สุดแล้ว หลวงปู่บุญตา ถาวโรนี่ "

🍀หลวงปู่บุญตา ถาวโร ท่านเป็นพระอริยสงฆ์5แผ่นดินเป็นพระมหาเถรผู้มีรัตตัญญกาลเป็นพระผู้สมถะ พูดน้อย เรียบง่าย และเปี่ยมด้วยภูมิธรรมสูง พระผู้มีพลังจิตที่เข้มแข็ง

🙏ครูบาอาจารย์ผมเคยกล่าวไว้ว่าอยากอายุยืนให้ไปทำบุญกับพระอริยะสงฆ์ผู้มีอายุยืนยาวนะเราจะได้อนิสงส์อายุจะยืนเหมือนท่าน 

🍀หลวงปู่ท่านไม่เปิดตัว น้อยนักคนจะรู้จักท่านและท่านชอบอยู่ในป่า ชอบความวิเวก

หลวงปู่บุญตา ถาวโร วัดสิริจันโท บ้านหนองไหล ต.หนองขอน อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ละสังขาร เมื่อเวลา ๐๒.๐๐ น. ของวันที่ ๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๔ สิริอายุ ๑๐๔ ปี ๘๒ พรรษา 
----------
ท่องเที่ยวธรรม ขอนอบน้อมพระอริยสงฆ์
กราบขอบพระคุณที่มา FB page พระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
อนุโมทนาบุญกุศลจากการอ่าน
สวัสดี.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชีวประวัติ ปฏิปาพระอาจารย์อัครเดช (พระอาจารย์ตั๋น) ถิรจิตฺโต วัดบุญญาวาส ต.บ่อทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี

ประวัติหลวงปู่แว่น ธนปาโล วัดถ้ำพระสบาย บ.หนองถ้อย ต.นาครัว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง

หางานในกรุงเทพ ตกงาน หรือว่างงาน มา Samco