ชีวประวัติ ปฏิปทาหลวงปู่เจิ่น สิริจันโท วัดป่าหนองหัวหมู อ.เมือง จ.อุดรธานี
๏ ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่เจิ่น สิริจันโท ๏
วันนี้วันที่ ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ เป็นวันครบรอบ ๓๙ ปี การละสังขาร หลวงปู่เจิ่น สิริจันโท วัดป่าหนองหัวหมู อ.เมือง จ.อุดรธานี “พระอริยเจ้าผู้มีความเพียรเป็นเลิศ” หลวงปู่เจิ่นแม้ท่านจะบวชเมื่อวัยชราแล้ว แต่ท่านก็มีปฏิปทาที่เคร่งครัด เอาจริงเอาจัง เอาตายเข้าแลก ปฏิบัติธรรมขั้นอุกฤษฏ์ ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่บัว สิริปุณฺโณ แห่งวัดป่าหนองแซง จ.อุดรธานี และเป็นพี่ชายสายโลหิตเดียวกันกับหลวงปู่กูด รักขิตสีโล วัดป่าศิลาอาสน์ จ.ยโสธร กับทั้งเป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อวสันต์ สันตมโน แห่งวัดป่าหนองหัวหมู จ.อุดรธานี
หลวงปู่เจิ่น และ หลวงปู่กูด พระสองพี่น้องได้เร่งความเพียร และได้เร่งพิจารณาอุบายทางด้านปัญญาจนได้รับความเจริญก้าวหน้ามากพอสมควร วันหนึ่งได้สนทนาธรรมกัน ได้พูดถึงนิมิตของหลวงปู่เจิ่น เรื่องตาลยอดเดียว ว่ามีตาลอยู่หนึ่งต้น เมื่อแหงนหน้ามองดูต้นตาลนั้น ปรากฏว่ากิ่งก้านสาขาได้ผุพังร่วงลงมาหมดแล้ว ท่านพิจารณาระวังยอดตาลมันจะงอกใหญ่ขึ้นมาอีก รีบตัดยอดและถอนรากถอนโคนมันเสียเพื่อที่จะไม่ตัดกังวลมันอีก ท่านทั้งสองได้กล่าวอีกว่า ต่างองค์ต่างก็ไม่สงสัยในโลกนี้อีกแล้ว เพราะสิ่งทั้งหลายทั้งปวงตายไปก็ไม่สามารถนำติดตัวไปได้ ต่างก็ได้พิจารณาแล้วว่า มีแต่ความพ้นทุกข์เท่านั้นที่เที่ยงแท้แน่นอนไม่ต้องมาเกิดแก่เจ็บตายและทุกข์กับสิ่งเหล่านี้ เมื่อเห็นพ้องกันดังนี้แล้ว ต่างองค์ต่างก็เร่งภาวนากันมากยิ่งกว่าเดิมอีก คืนหนึ่งสามเณรคงเดินอยู่รอบนอกกุฏิที่พักอาศัยได้มองไปในป่าซึ่งอยู่ในเขตวัดป่าหนองแซง ขณะนั้นเองก็ได้เห็นแสงสว่างเจิดจ้าครอบคลุมไปทั่วป่าและบริเวณวัดนั้น จึงได้นำมาเล่าให้พระเณรฟังถึงสิ่งที่ตนได้พบเห็นมา
#กาลละสังขาร
หลวงปู่เจิ่น สิริจันโท อาจจะไม่เป็นที่รู้จักมากในวงศ์กรรมฐาน เพราะท่านมักจะธุดงค์รุกขมูลไปตามป่าเขาไปเรื่อยๆ แต่สำหรับพ่อแม่ครูอาจารย์แล้ว ถ้าเป็นพระนักปฏิบัติ จิตท่านสื่อถึงกันได้ คุ้นเคยกันดี อย่างเช่นครั้งเมื่อ หลวงปู่เจิ่นท่านอาพาธถูกส่งตัวเพื่อทำการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดอุดรธานี ตลอดจนถึงกาลละสังขารลงเมื่อวันที่ ๒๗ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๒๗
จากนั้นได้มีศิษย์ไปกราบเรียนหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ที่วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี ว่าหลวงปู่เจิ่น ท่านละขันธ์แล้ว หลวงตามหาบัว ท่านก็บอกว่า... “เราทราบแล้ว ท่านเจิ่นมากราบลาเราแล้วตั้งแต่เมื่อคืน” หลังจากละสังขารลงแล้วคณะศิษย์ได้เชิญสรีระสังขารหลวงปู่เจิ่น สิริจันโท ไปบำเพ็ญกุศลและถวายเพลิงสรีระฯ ในวันที่ ๓๐ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๒๗ ณ เมรุชั่วคราววัดป่าหนองแซง จ.อุดรธานี
หลังจากเก็บอัฐิไว้ที่โกศเวลาผ่านไป ๒ ปี ความอัศจรรย์ก็เกิดขึ้น อัฐิหลวงปู่เจิ่น สิริจันโท ได้แปรกลายเป็นพระธาตุเต็มไปหมด มีหลากสี สีแดง สีทอง หรือสีน้ำผึ้ง กลมโตคล้ายลูกปัด ที่ใสขาวคล้ายเพชรและเมล็ดข้าวสารก็มี อัฐิที่แปรสภาพเป็นพระธาตุองค์หลวงปู่เจิ่นนั้น เป็นเครื่องยืนยันถึงผลของการปฏิบัติ ท่านเป็นพระอริยเจ้าผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบรูปหนึ่งในบวรพุทธศาสนา หลวงปู่เจิ่น เมื่อครั้นขณะท่านอาพาธอยู่นั้น ท่านได้พยากรณ์ชีวิตของท่านไว้ให้พระน้องชายหลวงปู่กูดไว้ว่า “ปีนี้เป็นปีสุดท้ายแล้วที่ท่านจะละสังขารจากโลกนี้ไปโดยไม่หวนกลับอีกเลย”
--------
ท่องเที่ยวธรรม ขอนอบน้อมพระอริยสงฆ์ด้วยเศียรเกล้า
กราบขอบพระคุณที่มา FB page พระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
อนุโมทนาบุญกุศลจากการอ่านครับ
สวัสดี.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น