หลวงปู่ชา สุภทฺโท วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี

 

ชีวประวัติ

พระโพธิญาณเถร หลวงปู่ชา  สุภทฺโท

         วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี




ชาติกำเนิด

เกิดเมื่อวันที่ วันที่ ๑๗ มิถนุนายน พ.ศ.๒๔๖๑  ตรงกับวันศุกร์ แรม ๗ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะเมีย ณ บ้านก่อ เดิมเรียก บ้านก้นถ้วย หมู่ที่ ๙ ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี

บิดา-มารดาชื่อ นายมา-นางพิมพ์ ช่วงโชติ 

มีพี่น้องร่วมบิดามารดาทั้งหมด ๑๐ คน ท่านเป็นบุตรคนที่ ๕

การศึกษา

  ณ โรงเรียนบ้านก่อ ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ภายหลังได้บวชเรียน ศึกษาธรรมเรียนบาลีไวยากรณ์ เรียนมูลกัจจายน์ จนสามารถอ่านแปลภาษาบาลีได้ 

ศึกษาพระปริยัติธรรมจนสอบได้ขั้นสูงสุดสายนักธรรม คือ สอบได้นักธรรมชั้นเอก


วัยเยาว์

หลวงปู่ชา สมัยที่ยังเป็นเด็ก หลวงปู่มีรูปร่างสมบูรณ์ อ้วนกลม พุงพลุ้ย คางมน ด้วยลักษณะแบบนี้เอง ทำให้เพื่อนๆขนานนามท่านว่า "อึ่ง" ปากของท่านกว้างและเชิดขึ้นเล็กน้อย อย่างที่คนอีสานเรียกว่า ปากแหว หูของท่านไม่เท่ากัน พ่อพุฒ  ทุมมากรณ์ เพื่อนสนิทที่ชอบพอกับหลวงพ่อมาตั้งแต่วัยเด็กได้เล่าถึงอุปนิสัยของเสี่ยวชาว่า เป็นคนช่างพูด และมีลักษณะผู้นำมาตั้งแต่เด็กๆ เมื่ออยู่กบหมู่เพื่อน ไม่ว่าจะเล่นหรือทำอะไรก็ตาม ท่านมักเป็นผู้วางแผนมอบหมายหน้าที่แก่คนอื่นเสมอ โดยปกติท่านเป็นคนอารมณ์ดี ร่าเริง วันในขาดท่าน หมู่เพื่อนจะเงียบเหงา คุยเล่นไม่ค่อยมีรสชาติเหมือนที่เคย

ลักษณะเด่นอีกประการหนึ่งที่ปรากฏมาตั้งแต่เด็กคือ ความรักสันติ ไม่เคยมีใครเห็นท่านมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งเป็นปากเสียงกับใคร โดยเฉพาะการชกต่อยข่มเหงรังแกกับผู้อ่อนแอกว่านั้นยิ่งไม่มีเลย ตรงกันข้าม เมื่อเพื่อนฝูงมีปัญหาขัดใจกัน ท่านจะเป็นผู้ไกล่เกลี่ยคลี่คลายให้เรียบร้อยได้ด้วยความสามารถอันเป็นลักษณะเฉพาะตัวประกอบกับปกติท่านเป็นคนมีน้ำใจโอบอ้อมอารี และให้ความเป็นธรรมแก่ทุกคนเสมอ เพื่อนๆก็เลยเกรงใจ (ที่มา อุปลมณีพระโพธิญาณเถร ชา  สุภทฺโท)


บรรพชา 

เมื่ออายุได้ ๑๓ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรชา  ช่วงโชติ เมื่อเดือน มีนาคม พ.ศ.๒๔๗๔ โดยมีท่านพระครูวิจิตรธรรมภาณี (พวง) เจ้าอาวาสวัดมณีวนาราม อุบลราชธานี  เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้จำพรรษา และศึกษาปริยัติธรรม ตลอดจนอยู่ปฏิบัติครูอาจารย์เป็นเวลา ๓ ปี จึงลาสิกขาช่วยครอบครัวประกอบอาชีพเกษตรกรรม

อุปสมบท

เมื่ออายุครบ ๒๑ ปี และทราบว่าไม่ต้องเข้ารับราชการทหาร นายชาได้เข้าพิธีอุปสมบทในวันที่ ๒๖ เมษายน พ.ศ.๒๔๘๒ เวลา ๑๓.๕๕ ที่พัทธสีมาวัดก่อใน ตำบละธาตุ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี โดยมี ท่านพระครูอินทรสารคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์ 

พระครูวิรุฬสุตการ เป็นพระกรรมวาจาจารย์

พระอธิการสวน เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ได้รับฉายาว่า "สุภทฺโท"  แปลว่า ผู้เจริญด้วยดี

ได้จำพรรษาอยู่ ณ วัดก่อนอก ๒ พรรษา ตั้งใจศึกษาปริยัติธรรม จนสอบนักธรรมชั้นตรีได้ในสำนักวัดก่อนอก 

สอบได้นักธรรมชั้นโท ที่สำนักของพระครูอรรคธรรมวิจารณ์ 

สอบได้นักธรรมชั้นเอก ที่สำนักวัดก่อนอก 


การปฏิบัติ

ได้ออกธุดงค์และศึกษาแนวทางปฏิบัติในสำนักต่างๆ เช่น สำนักของหลวงพ่อเภา วัดเขาวงกฏ จังหวัดลพบุรี  พระอาจารย์ชาวกัมพูชา หลวงปู่กินรี จนฺทริโย อาจารย์คำดี หลวงปู่ทองรัตน์  กนฺตสีโล หลวงปู่มั่น  ภูริทัตโต เป็นต้น

กำเนิดวัดหนองป่าพง (บ้านเกิด)

พ.ศ.๒๔๙๗ ได้ดำเนินการสร้างวัดป่าขึ้น คือ วัดหนองป่าพง และดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส 


ปลงธรรมสังเวช

ระหว่างพระชา ได้เฝ้าโยมบิดาที่ป่วยหนัก จนกระทั่งถึงแก่กรรมนั้น เกิดความสังเวชใจว่า 

"อันชีวิตย่อมสิ้นสุดลงแค่นี้หรือ จะยากดีมีจน ก็พากันดิ้นรนไปหาความตายซึ่งเป็นปลายทางของชีวิต ความแก่ ความเจ็บ ความตาย เป็นสมบัติสากลที่ทุกคนจะต้องเผชิญ  จะยอมรับหรือไม่ ก็ไม่เห็นหนีพ้นสักราย"

คำสัตย์อธิษฐาน

" เอาละ ชาตินี้เราจะมอบกายอันนี้ ใจอันนี้ ให้มันตายไปชาติหนึ่ง จะทำตามคำสอนของพระพุทธเจ้าทุกประการเลย  จะทำให้มันรู้จักในชาตินี้ ถ้าไม่รู้จักก็ลำบากอีก จะปล่อยวางมันเสียทุกอย่าง จะพยายามทำ ถึงแม้ว่ามันจะทุกข์ มันลำบากขนาดใหน ก็ต้องทำ ชีวิตในชาตินี้ให้เหมือนวันหนึ่งเท่านั้น ทิ้งมัน จะทำตามคำสอนของพระพุทธเจ้า จะทำตามธรรมะให้มันรู้ ทำไมมันยุ่งยากนัก วัฏสงสารนี้.."

"ภาวนาปีแรกไม่ได้อะไร มีแต่ภาวนาของอยากของกินวุ่นวายไปหมด แย่มากเหลือเกิน บางครั้งนั่งอยู่เหมือนได้กินกล้วยจริงๆ รู้สึกเหมือนหักกล้วยเข้าปากอยู่อย่างนั้น มันเป็นของมันเอง เหล่านี้มีแต่เรื่องของการปฏิบัติทั้งนั้น แต่ว่าอย่าไปกลัวมัน มันเป็นมาหลายภาพหลายชาติแล้ว เราได้มาฝึกมาหัด ทุกอย่างแสนยากแสนลำบาก"  

เริ่มชีวิตธุดงค์

พ.ศ.๒๔๘๙ พระชาได้ชวนพระถวัลย์เป็นเพื่อนร่วมเดินทาง และทั้ง ๒ รูป ได้ออกธุดงค์มุ่งสู่ภาคกลาง เดินไปเรื่อยจนผ่านดงพญาเย็น ถึงหมู่บ้านยางคู่ ตำบลยางคู่ จังหวัดสระบุรี  เมื่อได้พักอยู่ที่นี่นระยะหนึ่ง จึงพิจารณาเห็นว่าได้เดินทางโดยไม่มีจุดหมายพอสมควรแล้ว ควรหาที่เหมาะสมที่มีครูบาอาจารย์อยู่เป็นที่พี่งจะดีกว่า จึงเดินทางเข้าสู่จังหวัดลพบุรี มุ่งสู่วัดเขาวงกต สำนักของหลวงพ่อเภา แต่ก็น่าเสียดายว่า หลวงพ่อเภามรณภาพแล้ว เหลือแต่พระอาจารย์วรรณ ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อเภาท่านวางไว้ และได้อ่านคติพจน์ที่หลวงพ่อเขียนไว้ตามปากถ้ำ และตามที่อยู่อาศัยเตือนใจ ทั้งได้มีโอกาสศึกษาพระวินัยจนเป็นที่เข้าใจยิ่งขึ้น


เข้านมัสการหลวงปู่มั่น  ภูริทัตโต

ในระหว่างที่จำพรรษาที่เขาวงกตนั้น พระชาได้ยินเรื่องราวของพระอาจารย์มั่น  ภูริทัตโต ว่ามีคุณธรรมสูง ชำนาญด้านวิปัสสนาธุระ มีประชาชนเคารพเลื่อมใสมาก และเล่าลือกันว่าเป็นพระอรหันต์  ได้มาจำพรรษาที่วัดป่าหนองผือนาใต อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร

พระชา และพระอีก ๒ รูป ได้เดินทางถึงสำนักของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้เข้ากราบนมัสการหลวงปู่พร้อมศิษย์ของท่าน หลวงปู่มั่น ได้ซักถามเรื่องราวต่างๆ แล้วให้โอวาทว่า "ท่านเภาก็เป็น พระแท้ องค์หนึ่งในประเทศไทย

 ปรารภต่อว่า นิกายทั้งสองคือ ธรรมยุต และมหานิกาย ว่า การประพฤติปฏิบัตินั้น ถ้าถือพระธรรมวินยเป็นหลักแล้ว ก็ไม่ต้องสงสัยในนิกายทั้งสอน ดังนั้น ไม่มีความจำเป็นที่หลวงพ่อจะต้องญัตติเข้าธรรมยุติกนิกายตามครูบาอาจารย์ เช่น ที่ลูกศิษย์ลูกหาของหลวงปู่มั่นนิยมทำกัน อีกประการหนึ่งทางมหานิกายก็จำเป็นต้องมีพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเช่นเดียวกัน

ต่อจากนั้นได้พูดถึงเรื่อง ศีล สมาธิ ปัญญา ให้ฟังจนเป็นที่พอใจและหายสงสัยและได้ธิบายเรื่อง พละ ๕ อิทธิบาท ๔ 

คืนที่สอง หลวงปู่มั่น ได้แสดงปกิณกธรรมต่างๆให้ฟัง จนหลวงพ่อหมดสงสัยในหนทางปฏิบัติ มีความปลาบปลื้มในธรรมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ได้กำลังใจและความอาจหาญที่จะบรรลุมรรคผลนิพพานให้ได้  คำสอนที่ท่านหลวงปู่มั่น เน้นที่สุดในครั้งนั้นคือเรื่อง สกฺขีภูโต คือ การเอาตัวเป็นพยานของตัว และอีกเรื่องหนึ่งที่ประทับใจท่านมากคือ ความแตกต่างระหว่างตัวจิตและอาการต่างๆของจิต


การเผยแพร่พระพุทธศาสนา

หลวงปู่ชา  สุภทฺโท ครั้งท่านมีชีวิตอยู่ได้อุทิศชีวิตปฏิบัติธรรม และเผยแพร่พระพุทธศาสนาทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ได้จัดตั้งสำนักปฏิบัติในประเทศไทยตามภาคต่างๆ จำนวน ๘๒ สาขา ในต่างประเทศอีก ๗ สาขา มีพระลูกศิษย์ที่เป็นคนไทยและชาวต่างชาติจำนวนมาก จัดพิมพ์พระธรรมเทศนาเป็นหนังสือ และสื่อออนไลน์ ซีดี มากมาย

โอวาทธรรม คำสอน

คำสอนของหลวงปู่ชาทั้งหมด สามารถสรุปลงได้ดังนี้

๑.จุดหมาย : มรรค ผล นิพพาน พ้นทุกข์

๒.เนื้อหา : ศีล สมาธิ ปัญญา

๓.วิธีการ : สมถ วิปัสสนา

๔.กลวิธี : มองเข้าหาตัว ดูธรรมชาติ เปรียบเทียบ กับธรรมชาติ ทำให้ดู แล้วรู้ตาม

----------------

การไม่กระทำบาปนั้นมันเลิศที่สุด บางคนบางคราว โจรมันก็ให้ได้ มันก็แจกได้

แต่ว่าจะพยายามสอนให้มันหยุดเป็นโจรนั้นนะ มันยากที่สุด

การจะละความชั่วไม่กระทำผิดมันยาก การทำบุญ โจรมันก็ทำได้ มันเป็นปลายเหตุ

การไม่กระทำบาปทั้งหลายทั้งปวงนั้นนะเป็น ต้นเหตุ

-------------------

พระพุทธองค์ท่านทรงสอนว่าให้ "นอกเหตุเหนือผล"ไม่ว่าจะทำอะไร

ปัญญาของท่านให้นอกเหตุเหนือผล ให้นอกเกิดเหนือตาย นอกสุขเหนือทุกข์

ลองคิดตามไปซิลองพิจารณาไปตาม คนเราเคยอยู่ในบ้าน พอหนีจากบ้านไปไม่มีที่อยู่ไม่รู้จะทำอย่างไร

เพราะเรามันเคยอยู่ในภพ อยู่ในความยึดมั่นถือมั่นเป็นภพ

------------------------

ทายาทธรรม

-หลวงปู่สี สิริญาโณ วัดป่าศรีมงคล (วัดป่าบ้านเปือย ) ตำบลโนนกาเล็น อำเภอสำโรง จังหวัดอุบลราชธานี

-พระมงคลกิตติธาดา (อมร เขมจิตฺโต) วัดป่าวิเวก (ธรรมชาน์) อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี

-พระเทพวชิรญาณ (เลี่ยม ฐิตธมฺโม) วัดหนองป่าพง ตำบลโนนผึ้ง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี

-พระราช​พิพัฒน์​ว​ั​ช​โร​ดม​ (คำ​ นิสฺโสโก)​ วัดป่าไทยพัฒ​นา​ อำเภอ​เดชอุดม​ จังหวัด​อุบล​ราชธานี​

-พระครูสุวรรณโพธิเขต (คูน อคฺคธมฺโม) วัดป่าโพธิ์สุวรรณ ตำบลนาโพธิ์ อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี

-พระราชวชิรมุนี (ประสพไชย กนฺตสีโล) วัดป่าจิตตภาวนา (ฟ้าคราม) ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี

-พระราชวชิรญาณ​ (อนันต์ อกิญฺจโน)​ วัดมาบจันทร์ ตำบลแกลง อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง

-พระราชพัชรมานิต (อัครเดช ถิรจิตฺโต) วัดบุญญาวาส ตำบลบ่อทอง อำเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรี

ฯลฯ

---------------------------------

ลูกศิษย์ชาวต่างชาติ

- พระพรหมวชิรญาณ (โรเบิร์ต สุเมโธ) (พระอาจารย์สุเมโธ) ศิษย์ชาวต่างประเทศรูปแรก เป็นพระภิกษุชาวสหรัฐอเมริกา อุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. 2510 และจำพรรษาที่วัดในจังหวัดหนองคาย ประมาณ 1 ปี แล้วจึงเดินทางมาฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี ได้ก่อตั้งวัดอมราวดีที่ประเทศอังกฤษเมื่อ พ.ศ. 2527 และดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอมราวดีจนถึงปี พ.ศ. 2553

-พระภาวนาวิเทศ (อลัน เขมธมฺโม) (พระอาจารย์เขมธัมโม) เป็นพระภิกษุชาวอังกฤษ อุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. 2515 ก่อนวันวิสาขบูชาเพียงไม่กี่วัน โดยมีหลวงพ่อชาเป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านได้เผยแผ่ธรรมในเรือนจำ จนได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์จากประเทศสหราชอาณาจักร

-พระราชโพธิวิเทศ (รีด ปสนฺโน) (พระอาจารย์ปสันโน) เป็นพระภิกษุชาวแคนาดา อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดเพลงวิปัสสนา แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร เมื่อปี พ.ศ. 2517 ในพรรษาแรกนั้นเอง ท่านได้มีโอกาสฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงพ่อชาโดยการแนะนำของพระอุปัชฌาย์ของท่าน ได้พำนักที่วัดหนองป่าพงและวัดสาขาอื่นๆ ตามโอกาสอันสมควร ต่อมาในปี พ.ศ. 2525 ท่านได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่านานาชาติ และได้ปฏิบัติหน้าที่นี้เป็นเวลา 15 ปี จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2540 พระอาจารย์ปสันโนได้สละตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่านานาชาติ เพื่อมาก่อตั้งวัดป่าอภัยคีรีที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และเป็นเจ้าอาวาสร่วมกับพระอาจารย์อมโร

-พระราชพุทธิวรคุณ (เจเรมี ชาร์ลี จูเลียน อมโร) (พระอาจารย์อมโร) เป็นพระภิกษุชาวอังกฤษ อุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. 2522 เป็นเจ้าอาวาสวัดป่าอภัยคีรีร่วมกับพระอาจารย์ปสันโน ต่อมาสละตำแหน่งเจ้าอาวาสร่วมวัดป่าอภัยคีรีในปี พ.ศ. 2553 เพื่อรับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอมราวดี ประเทศอังกฤษ ตามคำขอของพระอาจารย์สุเมโธ

-พระธรรมพัชรญาณมุนี (ฌอน ชยสาโร) (พระอาจารย์ชยสาโร) เป็นพระภิกษุชาวอังกฤษ อุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. 2523 ที่วัดหนองป่าพง โดยมีหลวงพ่อชา เป็นพระอุปัชฌาย์ ปัจจุบัน พำนัก ณ สถานพำนักสงฆ์ จังหวัดนครราชสีมา


มรณภาพ

๑๖ มกราคม พ.ศ.๒๕๓๕ เวลา ๐๕.๒๐ น.ที่วัดหนองป่าพง อย่างสงบ


-------------------------------

หลวงปู่ชา  สุภทฺโท  ท่านได้อุทิศชีวิตเพื่อพระพุทธศาสนาโดยแท้ ยังประโยชน์อเนกอนันต์ต่อพุทธศาสนิกชนชาวไทย และต่างประเทศอย่างกว้างขวาง ทำให้พระธรรมคำสอนสู่การลงมือปฏิบัติ ทำให้ผู้ปฏิบัติธรรมได้รับผลานิสงส์อย่างยิ่ง

ท่องเที่ยวธรรม ขอนอบน้อมพระอริยสงฆ์ด้วยเศียรเกล้า

ขออนุโมทนาบุญกุศลจากการอ่าน ขอสรรพมงคลจงมีแด่ท่าน

ขอบคุณข้อมูลจาก วิกิพีเดีย ,อุปลมณี พระโพธิญาณเถร (ชา  สุภทฺโท) อนุสรณ์พิพิธภัณฑ์ฉันทกรานุสรณ์ วัดอัมพโรปัญญาวนาราม ชลบุรี

สนับสนุนเราโดย คลิกชมโฆษณาให้ด้วยครับ อนุโมทนาบุญครับ

--------------------

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชีวประวัติ ปฏิปาพระอาจารย์อัครเดช (พระอาจารย์ตั๋น) ถิรจิตฺโต วัดบุญญาวาส ต.บ่อทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี

ประวัติหลวงปู่แว่น ธนปาโล วัดถ้ำพระสบาย บ.หนองถ้อย ต.นาครัว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง

หางานในกรุงเทพ ตกงาน หรือว่างงาน มา Samco