ชีวประวัติ ปฏิปทาหลวงปู่สงวน ยุตฺตธัมโม วัดธุดงคนิมิตร อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
๏ ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่สงวน ยุตตธัมโม ๏
วันนี้วันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๗ เป็นวันครบรอบ ๒ ปี การละสังขาร หลวงปู่สงวน ยุตฺตธัมฺโม วัดธุดงคนิมิต (เขาพุรางล่าง) อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ท่านเป็นศิษย์อาวุโสในพ่อแม่ครูอาจารย์หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
พระครูสีลาภิรัต หรือ หลวงปู่สงวน ยุตฺตธมฺโม ท่านเป็นพระอาวุโสที่มีอายุพรรษาสูงที่สุดในเขตจังหวัดกาญจนบุรี และเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลจังหวัดกาญจนบุรี (ธรรมยุต) ท่านเป็นพระมหาเถระศิษย์ในองค์หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี และ หลวงปู่สาม อกิญฺจโน ท่านได้ออกติดตาม พ่อแม่ครูอาจารย์ท่องถิ่นธรรมไปเผยแผ่ธรรมกรรมฐานในแดนใต้ ทั้งในเขตจังหวัดพังงาและจังหวัดภูเก็ต สหธรรมิกในยุคนั้นคือหลวงปู่เอียน ฐิตวิริโย และได้เจอหลวงปู่เนตร จิรปุญฺโญ ทั้ง ๓ เป็นพระที่สนิทคุ้นเคยกัน ถึงแม้หลวงปู่เอียน และหลวงปู่เนตร จะอายุมากกว่าท่านถึง ๓ ปี แต่หลวงปู่สงวน จะมีพรรษามากกว่าหมู่ จึงได้รับการนับถือเป็นเสมือนพี่ชาย ภายหลังท่านมีอาการอาพาธ จึงได้แยกจากหมู่คณะกลับขึ้นมาพักรักษาตัว
พื้นเพเดิมท่านเกิดที่จังหวัดเพชรบุรี จากนั้นจึงได้มาช่วยท่านพระอาจารย์สุพิศ กตปุณฺโญ สร้างวัดเขาพุรางล่าง(ธุดงคนิมิต) ตั้งแต่สี่สิบกว่าปีก่อนโน้น สมัยที่แถวนั้นยังเป็นป่าเขาห่างไกล ทุรกันดาร สัตว์ป่ามากมาย หลังวัดมีถ้ำแห่งหนึ่งซึ่งหลวงปู่เจริญ ราหุโล เคยได้มาภาวนาอยู่เช่นกัน ท่านพระอาจารย์สุพิศ รูปนี้ ท่านเป็นชาวจังหวัดมหาสารคาม เคยมีครอบครัวมาก่อน เกิดเบื่อหน่าย จึงออกบวช ท่านเป็นพระที่เด็ดขาด ปฏิบัติเคร่งครัดมาก ครั้นพระอาจารย์สุพิศ ท่านละสังขารลง หลวงปู่สงวน ก็ได้อยู่ดูแลวัดธุดงคนิมิต(เขาพุรางล่าง) ตำบลปากแพรก อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี สืบมาจนถึงปัจจุบัน
หลวงปู่สงวน ยุตตธัมโม ได้ละสังขารอย่างสงบ เมื่อเวลา ๐๕.๒๐ น. ตรงกับวันอังคาร ที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๕ ณ กุฏิ วัดธุดงคนิมิต (เขาพุรางล่าง) อ.เมือง จ.กาญจนบุรี สิริอายุ ๙๓ ปี ๑๐ เดือน ๒๔ วัน ๗๓ พรรษา
สมบัติอะไร ไม่ได้เท่ากับสมบัตคือ "ใจ"
"ใจ" เป็นที่ตั้งแห่งสมบัติทั้งปวง
" จิตนี่มีพลังนะ เหมือนน้ำตอนที่ฝนตกไม่ได้เก็บกักก็ไหลเรื่อยเปื่อยหายไปหมด แต่ถ้าเก็บกับรวมกันเป็นเขื่อน พลังกระแสน้ำก็รวมตัวปั่นเป็นกระแสไฟได้ ก็เหมือนกระแสจิตของเรานี่แหละ กลับไปฝึกจิต นั่งสมาธิมากๆ นะ "
" ให้ภาวนาไว้ตลอดนะ จิตว่างเป็นบุญ จิตวุ่นเป็นบาป จิตเป็นกลางพ้นทุกข์ ใจความสำคัญมันก็มีอยู่แค่นี้ เท่านี้ "
" ให้ทำใจเราเป็นเหมือนถังขยะ ระหว่างวันก็รับเอาความรู้สึกต่างๆ ทั้งดี และไม่ดีเข้ามาสู่ใจ พอหมดวันก็ให้เททิ้งไป "
โอวาทธรรมคำสอนพ่อแม่ครูอาจารย์
หลวงปู่สงวน ยุตตธัมโม
ขอนอบน้อมพระอริยสงฆ์ด้วยเศียรเกล้า
กราบขอบพระคุณ อนุโมทนาบุญผู้รวบรวมFB pageพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
อนุโมทนาบุญกุศลจากการอ่าน
สวัสดี.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น