ชีวประวัติ ปฏิปทาหลวงปู่มี ปมุตฺโต วัดดอยเทพนิมิตร (ถ้ำเกีย) อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี

๏ ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่มี ปมุตโต ๏ 
     วันนี้วันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๗ เป็นวันครบรอบ ๑๐๕ ปี ชาตกาล หลวงปู่มี(เกล้า) ปมุตโต วัดดอยเทพนิมิตร ถ้ำเกีย อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี หลวงปู่มี ปมุตโต หรือที่รู้จักในนาม หลวงปู่เกล้า อดีตเจ้าอาวาสวัดดอยเทพนิมิตร (ถ้ำเกีย) ซึ่งเป็นวัดป่าสายธรรมยุติกนิกาย - สายหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต แห่งบ้านหนองแซง ต.หนองบัวบาน อ.หนองวัวซอจ.อุดรธานี หลวงปู่มี ปมุตโต ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดนิโครธาราม(หนองบัวบาน) หลวงปู่มีท่านเป็นพระเถระมั่นคงในธรรมวินัยเคร่งครัดในธุดงควัตร และมีปฏิปทามักน้อยสันโดษ ท่านชอบหลีกเร้นอยู่ในถ้ำในผาในป่าในเขาเพื่อบำเพ็ญสมณธรรมมานาน ท่านมีศักดิ์เป็นพี่ชายของหลวงปู่ลี กุสลธโร แต่หลวงปู่ลีได้เข้าสู่สมณเพศก่อนท่าน

#ประวัติและปฏิปทา
#ชาติภูมิ

หลวงปู่มี ปมุตโต นามเดิม นายมี ชาลีเชียงพิณ(ชาลีเชียงพิณ) เกิดเมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๖๒ ที่บ้านเก่า ต.บ้านเก่า อ.ด้านซ้าย จ.เลย บิดาชื่อ นายอู๊ด ทองคำ อาชีพเป็นช่างตีทอง มารดาชื่อ นางโพธิ์ ชาลีเชียงพิณ มีพี่น้องรวมกัน ๔ คน คือ

๑.นางวันดี เพ็งลี (ชาลีเชียงพิณ) ถึงแก่กรรมแล้ว

๒.หลวงปู่มี ปมุตโต ละสังขาร

๓.หลวงปู่ลี กุสลธโร ละสังขาร

๔.นางบุญก่อง ศรีบุญเรือง (ชาลีเชียงพิณ) น้องสาวต่างบิดา

ต่อมามารดาได้พาพี่น้องทั้ง ๔ คน เดินทางอพยพมาตั้งรกรากที่ บ้านหนองบัวบาน ตำบลหมากหญ้า(ในขณะนั้น) อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี หลวงปู่เกล้าได้รับการศึกษาถึงระดับ ประถมศึกษาปีที่ ๔ ที่โรงเรียนบ้านหนองบัวบาน ในช่วงวัยเยาว์ท่านได้เคยบรรพชาเป็นสามเณรอยู่ระยะหนึ่ง จากนั้นจึงได้ลาสิกขาออกมาทำงานช่วยมารดา และครอบครัว จากนั้นเมื่อเข้าสู่วัยหนุ่ม ในครั้งที่ยั้งเป็นฆราวาสนั้น ท่านได้สมรสกับ นางใคร่ มีบุตรธิดารวม ๔ คน

๑.นางเกล้า ชาลีเชียงพิณ
๒.นายแดง ชาลีเชียงพิณ
๓.นายวีระชัย ชาลีเชียงพิณ
๔.นางวิไล ชาลีเชียงพิณ

ชื่อหลวงปู่ท่านมีสองชื่อคือ หลวงปู่มี ซึ่งเป็นชื่อที่บิดามารดาตั้งให้ และอีกชื่อที่บุคคลทั่วไปทั้งฆราวาส พระเณร เอ่ยเรียกท่านด้วยความเคารพว่า หลวงปู่เกล้า ชื่อหลวงปู่เกล้านั้นมาจากธรรมเนียมชาวอีสาน ที่ถือปฏิบัติคล้ายๆกันในการเรียกแทนชื่อของผู้เป็นพ่อหรือแทนชื่อของคนผู้เป็นแม่ ด้วยชื่อของลูกคนโต ด้วยท่านมีลูกคนโตชื่อ เกล้า ดังนั้นเพื่อนบ้านคนรู้จักมักคุ้นจึงเรียกชื่อท่านว่า พ่อเกล้า และเรียกกันจนติดปากเรื่อยมาเป็น หลวงปู่เกล้า เช่นทุกวันนี้ 

#สมัยเป็นฆราวาส

 สมัยเป็นฆราวาสหลวงปู่ท่านเป็นนายพรานล่าเนื้อจนเป็นที่รู้จักคนทั้งหมู่บ้านและยังเป็นหมอยาสมุนไพรรักษาคนป่วยวิธีการรักษาของหลวงปู่ก็คือเอาเหล็กที่แดง ๆ จากการเผาด้วยไฟมาว่างไว้แล้วเอาเท้าหลวงปู่เยียบลงที่เหล็กแล้วยกขาขึ้นไปเยียบกับคนไข้ที่ปวดตามที่ต่าง ๆของร่างกาย พอไปเยียบคนไข้คนไข้ก็ร้องว่าร้อนแต่หลวงปู่ไม่ได้แสดงอาการว่าร้อนแต่อย่างไรเลย 

#เป็นผ้าขาวติดตามหลวงปู่ขาว_อนาลโย

 ในอดีตสมัยเป็นฆราวาส หลวงปู่เคยติดตามอหลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล ในช่วงที่หลวงปู่ขาวออกวิเวกหลีกเร้นแสวงหาสถานที่ภาวนาไปตามป่าเขา การติดตามหลวงขาว เข้าสู่ป่าลึกที่เต็มไปด้วยสัตว์ร้ายอันตรายนอกจากต้องมีความสันโดษมักน้อยในเรื่องการกินอยู่แล้ว จิตใจต้อง ก็ยิ่งหนักแน่นมั่นคงกล้าหาญอย่างยิ่งด้วย

 การที่ได้อุปัฎฐากหลวงปู่ขาวทำให้ท่านได้มีโอกาสพบเจอครูบาอาจารย์อีกหลายท่าน และรู้จักคุ้นเคยกับปฏิปทาพระกรรมฐานจนเป็นแรงศรัทธาประทับไว้ในใจ ในสมัยเป็นฆราวาส หลวงปู่ท่านพูดให้ฟังว่า เฮาอยู่กับหลวงปู่ขาว เมื่อหนึ่งไปล่างกระโทน หลวงปู่ขาว เฮาลืมเซ็ดให้แห่ง หลวงปู่ขาวไปเจอท่านเลยโยนกระโทนใส่หน้าเฮาท่านกะว่าอยู่กับหลวงปู่มั่นบ่ได๋เด้อแบบนี้นะ

เฮานะต้อนอยู่กับหลวงปู่ขาวอยู่ในป่าบางเมื้อหลวงปู่ขาวไปบิณฑบาตได๋แต่หมากพริงแห่งกับเกลือ เฮากะเอาหมากพริกแห่งกับเกลือมาตำแล้วเอาน้ำใส่ แล้วกะไปถวาย หลวงปู่ขาว ฉันเข่ากับน้ำพริง มันทุกข์บ่.."หมู่โต้คิดดู๊''(พวกเราลองคิดดู)

#ชีวิตพรหมจรรย์

เริ่มต้นกับหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ
ชีวิตครองเรือนของท่าน ขณะที่ลูกสาวคนสุดท้องยังเป็นเด็ก ภรรยาของท่านก็ได้เสียชีวิต ท่านก็ผละจากการเป็นผู้ครองเรือนเข้าบวชกับหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครธาราม(บ้านหนองบัวบาน) 

หลวงปู่อ่อน ท่านได้วางระเบียบสำหรับฝึกฝนผู้ที่จะเป็นพระไว้อย่างเคร่งครัดทั้งนี้เพื่อสือทอดรักษาประเพณีข้อวัตรปติบัติตามแบบฉบับที่หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่ท่านพาดำเนินไว้เป็นแบบอย่าง 

#หลวงปู่อว้านเป็นครูผู้สอนนาค

หลวงปู่พูดอีกว่า ท่านเป็นผ้าอยู่หนึ่งปีกับหลวงปู่อ่อน มีหลวงปู่อว้าน เขมโก เป็นพระสอนนาค จากบันทึกหลวงปู่อว้าน ท่านว่า"หลวงตาเกล้า"ต้อนเป็นนาค 
หลวงปู่อว้านได้ใช้หลวงปุ่เกล้าไปตัดไม้ไผ่มาทำไม้กวาดแต่ไปพาดถ้าไหนมีดเลยไปบาดมือหลวงปู่เกล้าเลือดไหลออกมามาก หลวงปู่พูดต่อว่าพอเลือดไหลออกมาแล้วหลวงปู่เกล่าจ่มคาถาอะไรไม่รู้ แล้วเป่าเลือดก็หยุดไหลแล้วก็ไม่มีบาดแผลเลยมีอีก

เหตุการหนึ่งสมัยเป็นผ้าขาว วันหนึ่งหลวงปู่นั้งภาวนาอยู่ใต้ต้นยางวันนั้นมีลมพัดเอากิ่งไม้ยางตกลง แต่ก็ไม่ถูกองค์หลวงปู่ เฉียดออกไม่ถึงสอกแต่หลวงปู่ยังนั่งทำสมาธิต่อโดยไม่มีอาการลุกหนีจนครบเจ็ดวัน หลวงปู่จึงออกจากสมาธิแล้วมีคนไปถามหลวงปู่นั่งสมาธิอยู่นั้นไม่ได้ยินเสียกิ่งไม้ตกลงมาหรอ หลวงปู่ก็ตอบว่าไม่ได้ยิน

 #การตั้งวัดดอยเทพนิมิตถ้ำเกีย

ขณะที่หลวงปู่เป็นพระนวกะ(บวชใหม่)ที่บ้านหนองบัวบาน มีโครงการทำเขื่อนกักเก็บน้ำ(เขื่อนห้วยหลวง)หากสร้างเสร็จแล้วพื้นที่ที่กักเก็บน้ำอาจกินเนื้อที่บริเวณวัดหนองบัวบานอาจถูกน้ำท่วมจนจมหายไปหมด หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ จึงได้ขอพระราชทานวิสุงคาสีมา และได้ออกปากกับบรรดาลูกศิษย์ในวัดว่า ใครจะไปอยู่ไหนก็รีบไป ให้รีบหาวัดอยู่เพราะไม่แน่ว่าน้ำจะท่วมวัดจนจมอยู่ในเขื่อนหรือไม่ ด้วยเหตุหนี้พระลูกศิษย์ของหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ หลายรูป ได้กราบลาท่านออกจากวัดหนองบัวบานรวมถึงหลวงปู่ด้วยที่จำพรรษาอยู่กับท่านผ่านมา ๓ พรรษาแล้ว

เมื่อหลวงปู่เกล้าออกวัดหนองบัวบานแล้วได้วิเวกมาจนถึงภูกำพร้าแต่ก่อนบริเวณภูนี้ท่านเคยเที่ยวลัดเลาะผ่านมาเมื่อครั้งเป็นนายพราน ด้วยกุศลจิต ความศรัทธา เสียสละจากชาวบ้าน ทั้งขวนขวายอนุเคราะห์ในการอุปัฎฐาก สถานที่ที่ท่านอาศัยวิเวกตรงนี้ จึงได้เป็น วัดดอยเทพนิมิต หรือ(วัดถ้ำเกีย) ในปจุบันนี้ จากศาลาวัดห่างออกไปประมาณ ๕๐๐ เมตร มีถ้ำที่มีค้างคาวอยูอาสัยจำนวนมาก จนเป็นชื่อเรียกว่า ถ้ำเกีย (เกีย)เป็นภาสาอิสานหมายถึง ค้างคาว

 #ความเพียร

ข้อวัตรปฏิปทาหลวงปู่ ทุกวันฉันเสร็จแล้วจะเข้าทางจงกรม จากนั้นจึงขึ้นกุฎินั่งสมาธิภาวนา ท่านเล่าว่า สมัยท่านเป็นพระบวชใหม่ได้หักหาญทำความเพียรอย่างหนักในการแก้นิวรณ์ อดหลับ อดนอน ๔ วัน ๔ คืนจนเป็นลมสลบไปในคืนที่ ๔ หลังจากนั้นก็ไม่มีอาการโงกง่วงสัปหงกในการภาวนาอีกเลย 

#กับครูบาอาจารย์ผู้เป็นมงคล 

สมัยเป็นฆราวาสหลวงปู่มีโอกาสได้ติดตามอุปถากหลวงปู่ขาว อนาลโย ออกธุดงค์ตามป่าเขาลำเนาไพร นับเป็นสิริมงคลอย่างสูง เมื่อบวชเป็นพระหลวงปู่ก็ได้อยู่กับหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ เป็นอาจารย์ผู้ให้นิสัย นับเป็นมงคลอย่างสูง เมื่อพระมหาเถระ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด ได้เมตตาเดินทางมาเยี่ยมที่วัดถ้ำเกียหลายครั้งหลายคราว ดังนั้นการปกครองพระเณรของหลวงปู่เกล้า ท่านจึงระวังไม่ให้เสียปฏิปทาที่รักษามาจากพ่อแม่ครูอาจารย์ทั้ง ๓ องค์

#กาลละสังขาร

ในปี พ.ศ. ๒๕๔๐ หลวงปู่เกล้าเริ่มอาพาธมีอาการหลง ๆ ลืม ๆ แพทย์ตรวจวินิจฉัยว่าสมององค์ท่านฝ่อไปบางส่วน ได้รักษาพยาบาลมาโดยลำดับ
 ในวันที่ ๖ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๑ เวลา ๐๘.๐๐ น. ท่านก็ได้ละธาตุขันธ์ในระหว่างพรรษาที่ ๔๒ สิริอายุได้ ๘๙ ปี ๔ เดือน ๑๑ วัน ( ๒๕๕๑ )

#ในวันประชุมเพลิง

พระธรรมวิสุทธิญาณมงคล หรือ หลวงตามพระหาบัว ญาณสัมปัน ได้เมตตามาเป็นประธานในงานประชุมเพลิงสรีระสังขารองค์หลวงปู่ พร้อมกับรับผ้าป่าช่วยชาติอีกด้วย 

นับว่าหลวงปู่มี ปมุตโต เป็นพระมหาเถระผู้เฒ่าที่น่าเ
คารพกราบไหว้บูชาอย่างยิ่ง.."
-----
ขอนอบน้อมพระอริยสงฆ์ด้วยเศียรเกล้า
กราบขอบพระคุณ อนุโมทนาบุญผู้รวบรวมFb pageพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
อนุโมทนาบุญกุศลจากการอ่าน
สวัสดี.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชีวประวัติ ปฏิปาพระอาจารย์อัครเดช (พระอาจารย์ตั๋น) ถิรจิตฺโต วัดบุญญาวาส ต.บ่อทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี

ประวัติหลวงปู่แว่น ธนปาโล วัดถ้ำพระสบาย บ.หนองถ้อย ต.นาครัว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง

หางานในกรุงเทพ ตกงาน หรือว่างงาน มา Samco