ชีวประวัติ ปฏิปทาหลวงปู่จันทร์โสม กิติกาโร วัดป่านาสีดา อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี
๏ ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่จันทร์โสม กิตติกาโร ๏
วันนี้วันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๖๗ เป็นวันคล้ายวันมรณภาพ ครบรอบ ๑๘ ปี หลวงปู่จันทร์โสม กิตฺติกาโร วัดป่านาสีดา อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี "พระอริยสงฆ์ผู้มีเมตตาธรรมสูงแห่งวัดป่านาสีดา" หลวงปู่จันทร์โสม ท่านเป็นลูกศิษย์ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และท่านได้เคยมีโอกาสรับใช้หลวงปู่มั่น ดังคำที่ท่านเคยเล่าไว้ว่า “..อาตมาได้เข้าไปปฏิบัติกิจวัตรให้กับหลวงปู่มั่นนั้น อาตมาก็พยายามระวังจิตมิให้คิดไปในเรื่องอื่น ๆ มีแต่ให้น้อมนอบเข้าไปหาหลวงปู่อยู่ตลอดเวลา หลายครั้งที่อาตมาทำอะไรไม่ถูก หลวงปู่มั่น ท่านก็จะบอกว่าวันนี้ท่านโสมทำไม่ถูก วันนี้ทำไม่ถูก อาตมาได้ยินเช่นนั้นก็หยุดทำแล้วนั่งเฉย ให้หมู่เพื่อนปฏิบัติแทนในวันนั้น วันต่อมาอาตมาก็เข้าไปปฏิบัติท่านอีกครั้งตามปกติ ท่านก็จะปรารภใหม่ว่า วันนี้ทำถูกแล้ว วันนี้ท่านโสมทำถูกแล้ว ซึ่งหลวงปู่มั่นก็จะพูดแบบนี้อยู่หลายครั้งหลายครา แต่อาตมาก็ไม่ได้ท้อถอยในกิจวัตรดังกล่าว เพราะอาตมาถือว่าเป็นบุญกุศลอย่างใหญ่หลวง และภาคภูมิใจที่ได้มีโอกาสเข้าใกล้ชิดปฏิบัติหลวงปู่มั่น ทำให้อาตมาได้พิจารณาเห็น ท่านอาจจะทดสอบความอดทนของเราดูก็ได้ นอกจากนี้แล้วหลวงปู่เทสก์ ท่านก็ได้เคยพูดให้อาตมาฟังว่า ในสมัยที่ท่านได้มีโอกาสปฏิบัติอยู่กับหลวงปู่มั่นนั้น ท่านก็ชอบที่จะทดสอบอะไรบ่อย ๆ ถ้าใครสามารถอดทนปฏิบัติกับท่านได้จะเป็นการดีมาก อาตมาก็ได้ระลึกเอาคำสอนของหลวงปู่เทสก์นั้นเป็นคติเตือนใจอยู่เสมอ ๆ ตลอดเวลาที่รับใช้หลวงปู่มั่น อาตมาได้อยู่กับหลวงปู่มั่นเป็นเวลา ๒ พรรษา เมื่อปี ๒๔๙๐ ถึงปี ๒๔๙๑ หลังจากออกพรรษาปี ๒๔๙๑ แล้ว ก็ได้กราบลาหลวงปู่มั่นไปเดินธุดงค์ ไปวิเวกที่บ้านห้วยหวาย กับพระอาจารย์อุ่น ชาคโร ซึ่งเป็นบ้านอยู่กลางป่าดงลึก มีสัตว์ร้ายต่าง ๆ มากมาย..”
“..มนุสสเทโว ได้มาจากความเป็นมนุษย์ ต้องสร้างความเป็นมนุษย์ให้เป็นเทโว คือเป็นมนุษย์เทวดาเสียก่อน มนุสสเปโต คือมนุษย์ที่ไม่มีโอกาสได้สร้างบุญกุศล มีแต่ความทุกข์ยากตลอดเวลา ดังนั้น เร่งสร้างกุศลดีกว่า อย่าให้กาลเวลาล่วงไปๆ ความเป็นมนุษย์ทำได้ทุกอย่าง อย่าให้เสียเวลาที่เกิดเป็นคน..” โอวาทธรรมคำสอนหลวงปู่จันทร์โสม กิตฺติกาโร
#ชีวประวัติปฏิปทาหลวงปู่จันทร์โสม_กิตฺติกาโร
วัดป่านาสีดา ต.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี
หลวงปู่จันทร์โสม กิตฺติกาโร ท่านถือกำเนิด ตรงกับวันจันทร์ที่ ๑๒ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๖๕ แรม ๓ ค่ำ เดือน ๗ ปีจอ ณ ต.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี
๏ #อุปสมบท
เมื่ออายุ ๑๗ ปี โยมบิดาเสียชีวิตลง ไม่มีใครช่วยทำนาทำไร่ มีแต่โยมมารดา พี่สาว และพี่เขยเท่านั้น หลวงปู่จันทร์โสมจึงจำเป็นต้องอยู่บ้านช่วยพี่สาวและพี่เขยทำนาทำไร่เลี้ยงครอบครัว เพราะน้องชายก็ยังเป็นเด็กเล็กทำงานอะไรไม่ได้ ในสมัยที่โยมบิดายังมีชีวิตอยู่ การทำนาก็ยังต้องอาศัยการจ้างแรงงานช่วยทำทุกปีกว่าจะแล้วเสร็จ ท่านจึงได้ช่วยครอบครัวทำนาอยู่จนอายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ และได้พิจารณาถึงความศรัทธาที่มีอยู่ในพระพุทธศาสนา กับระลึกถึงกุศลเจตนาของโยมบิดา จึงได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดอรัญญวาสี ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เมื่อวันที่ ๑๘ เมษายน พ.ศ.๒๔๘๕ เวลา ๑๕.๒๓ นาฬิกา
โดยมี ท่านเจ้าคุณพระธรรมไตรโลกาจารย์ (รักษ์ เรวโต)วัดศรีเมือง จ.หนองคาย เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่พระครูวิชัยสังฆกิจ เป็นพระอุปัชฌาย์ และ พระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฏ์ (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี) วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ (ซึ่งหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ท่านมีศักดิ์เป็นพี่ชายโยมมารดาของหลวงปู่จันทร์โสม) ท่านได้รับนามฉายาว่า “กิตฺติกาโร” สังกัดธรรมยุตติกนิกาย
๏ #ลำดับการจำพรรษา
หลังจากพรรษาแรกผ่านพ้น ท่านออกวิเวกท่องถิ่นธรรมไปในสถานที่ต่างๆ อาทิ บ้านน้ำอ้อม อ.วังสะพุง จ.เลย และวัดหนองขาม อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ก่อนที่จะกลับมาเกณฑ์ทหารในปี พ.ศ.๒๔๘๖
ในปีนั้น ท่านได้พำนักจำพรรษาที่วัดอรัญญวาสี จ.หนองคาย เข้าเรียนนักธรรมชั้นตรี ปรากฏว่าสอบได้ทางการจึงยกเว้นไม่ต้องไปเป็นทหารต่อมาท่านจึงไปพำนักกับท่านพระอาจารย์เกตุ ขนฺติโก ที่วัดป่าช้าบ้านสว่าง
ปี พ.ศ.๒๔๘๗ กลับมาจำพรรษาที่วัดอรัญญวาสี เรียนนักธรรมชั้นโท ออกพรรษาสอบได้แล้วก็ออกรุกขมูลมาตามริมแม่น้ำโขง บุกป่าผ่าดงมาจนถึงวัดพระพุทธบาทคอแก้ง (เวินกุ่ม)ก่อนจะกลับไปบ้านนาสีดาในปี พ.ศ.๒๔๘๘
ปี พ.ศ.๒๔๙๘ จำพรรษาที่วัดศรีชมชื่น (วัดป่านาสีดา) เดินทางไปกราบนมัสการหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ที่วัดอรัญญวาสี จ.หนองคาย และได้รับการฝากให้เป็นศิษย์รับใช้หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อยู่ปฏิบัติอาจริยวัตรกับหลวงปู่มั่น เป็นเวลา ๒ พรรษา คือ ปี พ.ศ.๒๔๙๐-๒๔๙๑ ก็กราบลาไปเที่ยววิเวกที่บ้านห้วยหวายกับ หลวงปู่อุ่น ชาคโร
ปี พ.ศ.๒๔๙๒ กลับมาอยู่กับหลวงปู่เทสก์ และช่วยงานถวายเพลิงศพหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต จนเสร็จสิ้น ก็เที่ยววิเวกไปกับ หลวงปู่หล้า เขมปัตโต แห่งวัดบรรพตคีรี (วัดภูจ้อก้อ) อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร และหลวงปู่อรุณ อุตฺตโม แห่งวัดพระบาทนาสิงห์ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย
ต่อมาได้ติดตามหลวงปู่เทสก์ไปเผยแผ่ธรรมที่ภาคใต้ ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๙๕-๒๔๙๙ และกลับมาอยู่วัดศรีชมชื่น ถึงปี พ.ศ.๒๕๑๔ ย้ายออกมาอยู่บริเวณป่าช้าดงบ้านเลา ซึ่งเป็นสถานที่กว้างขวางร่มรื่นเงียบสงบ ก่อสร้างกุฏิ เสนาสนะต่างๆ โดยลำดับ โดยตั้งชื่อสถานที่นี้ว่า “วัดป่านาสีดา” และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม พ.ศ.๒๕๓๑
๏ #การเผยแผ่พระธรรมและกรรมฐานที่ภูเก็ต
หลวงปู่จันทร์โสม กิตฺติกาโร ท่านมีศักดิ์เป็นหลานลุงแท้ๆ ของ หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี จึงได้รับการอบรมบ่มสอนมาตั้งแต่เด็ก แม้บวชเรียนแล้วก็อยู่ในสายตา คอยแนะนำทางที่ถูกให้ประพฤติปฏิบัติไม่เคยทอดทิ้ง จนกระทั่งตัวท่านละสังขารจากไป เหตุการณ์สำคัญในชีวิตก็คือ การไปใช้ชีวิตกับหลวงปู่เทสก์ นานถึง ๘ ปี ในการเผยแผ่พระธรรมและกรรมฐานที่จังหวัดภูเก็ต สมัยนั้น “พระป่า” ยังไม่แพร่หลาย จึงเกิดปัญหาขัดแย้งจนถึงขับไล่ไสส่งกัน แต่คณะของหลวงปู่เทสก์ก็ต่อสู้แก้ไขจนสถานการณ์ลุล่วงไปด้วยดี
นอกจากนี้จากการได้อยู่ปรนนิบัติหลวงปู่มั่นอย่างใกล้ชิดถึง ๒ ปี จึงได้รับ “ของดี” มาอย่างเต็มๆ ทั้งข้อวัตรปฏิบัติ การสำรวมกาย วาจา ใจ ปฏิปทาและหลักธรรมนานาของพระอาจารย์ใหญ่ ซึบซาบเข้าในสายเลือด สมัยนั้นการเข้าไปขอสมัครเป็นศิษย์หลวงปู่มั่นไม่ใช่เรื่องง่ายต้องผ่านการกลั่นกรองเป็นขั้นเป็นตอน พระเณรที่ขาดการสำรวมทำอะไรไม่ถูกต้อง จะโดนดุว่าตรงๆ แรงๆ เป็นการถากถางกิเลส คนจิตไม่แกร่ง ไม่ทน จึงพากันถอย สำหรับหลวงปู่จันทร์โสม ท่านสอบผ่านโดยง่ายดาย เพราะอุปนิสัยเป็นคนที่มีความอดทนสูงมาแต่เยาว์วัย
๏ #มรณภาพ
สัจธรรมแห่งชีวิต เกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่มีใครหนีได้พ้นหลวงปู่จันทร์โสม ในวัยชราเริ่มอาการเจ็บป่วยเข้ามาแผ้วพาน วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๔๙ ที่ผ่านมา หลวงปู่จันทร์โสม ได้มีอาการปวดท้องเจ็บหน้าอก คณะศิษยานุศิษย์ได้รีบนำตัวส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช กระทั่งเมื่อวันที่ ๗ มีนาคม พ.ศ.๒๕๔๙ หลวงปู่มีอาการกำเริบหนักขึ้น ปวดท้องแน่นหน้าอก หายใจไม่ค่อยสะดวก คณะแพทย์ได้รีบช่วยกันปั๊มหัวใจรักษาอาการอย่างสุดความสามารถ แต่ไม่สามารถยื้ออาการไว้ได้ ในที่สุด หลวงปู่จันทร์โสม ได้ละสังขารอย่างสงบด้วยโรคหัวใจล้มเหลว สิริรวมอายุ ๘๔ พรรษา ๖๓ ท่ามกลางความเศร้าสลดของบรรดาคณะศิษยานุศิษย์ และคณะสงฆ์ เป็นยิ่งนัก
#บรรณานุกรมอ้างอิง : คัดลอกจากหนังสือ "รำลึกถึงหลวงปู่จันทร์โสม กิตฺติกาโร วัดป่านาสีดา ต.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี" แจกในงานพระราชทานเพลิงศพฯ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๐
ขอนอบน้อมพระอริยสงฆ์ด้วยเศียรเกล้า
กราบขอบพระคุณ อนุโมทนาบุญที่มาFb pageพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
อนุโมทนาบุญกุศลจากการอ่าน
สวัสดี.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น