ชีวประวัติ ปฏิปทาพระธรรมวิสุทธิมงคล (พระญานสัมปันโน หลวงตาพระมหาบัว) วัดป่าเกษรศีลคุณ(วัดป่าบ้านตาด) อ.เมือง จ.อุดรธานี


๏ ประวัติและปฏิปทา หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ๏ 
     วันนี้วันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๖๗ รำลึกถึงวันคล้ายวันละสังขาร พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน) วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ครบ ๑๓ ปี " ปูชา จ ปูชนียานํ เอตมฺมํคลมุตฺตมํ " "การบูชาผู้ที่ควรบูชา เป็นอุดมมงคล" หลวงตามหาบัว ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ซึ่งมีโอกาสอุปัฏฐากรับใช้หลวงปู่มั่นในช่วงปัจฉิมวัยและเป็นผู้หนึ่งที่ได้บันทึกประวัติของหลวงปู่มั่นโดยละเอียดในเวลาต่อมา

#สังเขปประวัติ พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน)

#ชาติกำเนิด

เดิมมีชื่อว่า "บัว โลหิตดี" ท่านเกิดวันที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๕๖ ณ ตำบลบ้านตาด อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ท่านมีพี่น้องทั้งหมด ๑๖ คนในวัยเด็กท่านเป็นคนที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา โดยได้ทำบุญตักบาตรกับผู้ใหญ่อยู่เสมอ

#อุปสมบท

#เมื่อท่านอายุครบอุปสมบทแล้ว บิดาและมารดาของท่านปรารถนาที่จะให้ท่านบวชด้วยหวังพึ่งใบบุญจากการบวชของท่าน แต่ท่านก็ไม่ตอบรับแต่ประการใด ซึ่งทำให้บิดาและมารดาของท่านถึงกับน้ำตาไหล ด้วยเหตุนี้ทำให้ท่านกลับมาพิจารณาถึงการออกบวชอีกครั้ง ในที่สุดจึงได้ตัดสินใจที่จะออกบวชโดยท่านได้กล่าวกับมารดาว่า "เรื่องการบวชจะบวชให้ แต่ว่าใครจะมาบังคับไม่ให้สึกไม่ได้นะ บวชแล้วจะสึกเมื่อไหร่ก็สึก ใครจะมาบังคับว่าต้องเท่านั้นปีเท่านี้เดือนไม่ได้นะ" ซึ่งมารดาของท่านก็ตกลงตามที่ท่านขอ
ท่านอุปสมบทเมื่อวันที่ ๑๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๗ ที่วัดโยธานิมิตร อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี สังกัดคณะธรรมยุต โดยมีพระธรรมเจดีย์ (จูม พนฺธุโล) วัดโพธิสมภรณ์ จังหวัดอุดรธานี เป็นพระอุปัชฌาย์ โดยได้ฉายานามว่า "ญาณสมฺปนฺโน" แปลว่า "ถึงพร้อมแล้วด้วยการหยั่งรู้"ท่านมีความเคารพเลื่อมในเรื่องการภาวนาและกรรมฐาน ท่านได้สอบถามวิธีการภาวนาจากพระอาจารย์ของท่านในขณะนั้นและได้รับการแนะนำให้ภาวนาว่า "พุทโธ" ท่านจึงปฏิบัติภาวนาและเดินจงกรมเป็นประจำ

#เรียนปริยัติ

ในระหว่างนั้นท่านเริ่มเรียนหนังสือทางธรรมและศึกษาเกี่ยวกับพุทธประวัติ รวมทั้งพุทธสาวก โดยหลังจากที่พุทธสาวกเหล่านั้นได้รับพระโอวาทจากพระพุทธเจ้าแล้วจะเดินทางไปบำเพ็ญในป่าอย่างจริงจังจนสำเร็จอรหันต์ ทำให้ท่านเกิดความเลื่อมใสและมีความตั้งใจที่จะปฏิบัติเพื่ออรหัตผลให้จงได้ โดยตั้งสัจอธิษฐานว่า เมื่อเรียนจบเปรียญธรรม ๓ ประโยค แล้วจะออกปฏิบัติกรรมฐานโดยถ่ายเดียวอย่างไรก็ตาม ท่านยังมีข้อสงสัยว่า ถ้าท่านดำเนินตามแนวทางปฏิบัติตามพระสาวกเหล่านั้น ท่านจะสามารถบรรลุถึงจุดที่ท่านเหล่านั้นบรรลุหรือไม่ รวมทั้งยังสงสัยว่ามรรคผลนิพพานจะมีอยู่เหมือนครั้งพุทธกาลหรือไม่ ความสงสัยเหล่านี้ทำให้ท่านมีความมุ่งหวังที่จะได้พบกับพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ซึ่งท่านมีความเชื่อมั่นว่าท่านอาจารย์มั่นจะสามารถไขปัญหานี้ให้ท่านได้
ท่านเดินทางศึกษาพระปริยัติในหลายแห่ง อาทิ วัดสุทธจินดา จังหวัดนครราชสีมา วัดบรมนิวาสราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร โดยมีสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (พิมพ์ ธมฺมธโร) เป็นอาจารย์สอนปริยัติธรรม หลังจากนั้น ท่านได้เดินทางไปเรียนพระปริยัติธรรมที่วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร จังหวัดเชียงใหม่ ในเวลานั้นพระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ของท่านได้อาราธนานิมนต์พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เพื่อขอให้ไปจำพรรษาที่จังหวัดอุดรธานี พระอาจารย์มั่นรับนิมนต์นี้และได้เดินทางมาพักที่วัดเจดีย์หลวงเป็นการชั่วคราวจึงทำให้ท่านได้พบกับพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เป็นครั้งแรก ท่านศึกษาทางปริยัติที่วัดแห่งนี้ จนกระทั่ง ท่านสอบได้นักธรรมเอกและเปรียญธรรม ๓ ประโยค ในปี พ.ศ. ๒๔๘๔ นับเป็นปีที่ท่านบวชได้ ๗ พรรษา

#ปฏิบัติกรรมฐาน

พ.ศ.๒๔๘๕ หลังจากสำเร็จการศึกษาทางปริยัติ ท่านเดินทางไปจังหวัดนครราชสีมาเพื่อปฏิบัติกรรมฐานได้ระยะหนึ่ง จึงเดินทางไปวัดป่าบ้านโคก ต.ตองโขบ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร โดยตั้งใจจะไปถวายตัวเป็นลูกศิษย์ของพระอาจารย์มั่น โดยพระอาจารย์มั่นรับท่านเป็นลูกศิษย์และได้พูดขึ้นว่า ...ท่านมาหามรรคผลนิพพานอยู่ที่ไหน? ดินเป็นดิน น้ำเป็นน้ำ ลมเป็นลม ไฟเป็นไฟ ฟ้าอากาศเป็นฟ้าอากาศ แร่ธาตุต่าง ๆ เป็นของเขาเอง เขาไม่ได้เป็นมรรคผลนิพพาน เขาไม่ได้เป็นกิเลส กิเลสจริง ๆ มรรคผลจริง ๆ อยู่ที่ใจ ขอให้ท่านกำหนดจิตจ่อด้วยสติที่หัวใจ ท่านจะเห็นความเคลื่อนไหวของทั้งธรรมของทั้งกิเลสอยู่ภายในใจ แล้วขณะเดียวกัน ท่านจะเห็นมรรคผลนิพพานไปโดยลำดับ...คำกล่าวนี้ทำให้ท่านเชื่อมั่นว่ามรรคผลนิพพานมีอยู่จริงและเชื่อมั่นในพระอาจารย์มั่นที่พูดไขข้อข้องใจได้ตรงจุดแห่งความสงสัย ท่านรักษาระเบียบวินัยข้อวัตรปฏิบัติต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด หลังจากศึกษาอยู่กับพระอาจารย์มั่นในพรรษาที่ ๒ ท่านเริ่มหักโหมความเพียรในการปฏิบัติกรรมฐาน จนกระทั่ง ผิวหนังบริเวณก้นช้ำระบมและแตกในที่สุด จนพระอาจารย์มั่นได้เตือนว่า "กิเลสมันไม่ได้อยู่กับร่างกายนะ มันอยู่กับจิต" ซึ่งท่านก็น้อมรับคำเตือนของพระอาจารย์มั่นทันทีอย่างไรก็ตาม ด้วยจริตนิสัยของท่านในเรื่องการภาวนานั้นถูกกับการอดอาหารเพราะทำให้ธาตุขันธ์เบาสบาย การตั้งสติทำสมาธิภาวนาก็ง่าย และช่วยให้การบำเพ็ญจิตภาวนาเจริญขึ้นได้เร็วกว่าขณะที่ออกฉันตามปกติ ถึงแม้จะมีผู้คัดค้านก็ไม่ทำให้ท่านเปลี่ยนใจได้ ด้วยท่านพิจารณาแล้วว่าพระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้พระภิกษุอดอาหารเพื่อบำเพ็ญจิตตภาวนาได้ แต่ไม่ใช่เพื่อการโอ้อวดหรืออดเพียงอย่างเดียวโดยไม่ฝึกฝนด้านจิตภาวนาเลยซึ่งไม่เกิดประโยชน์อันใด ดังนั้น ท่านจึงใช้อุบายนี้เพื่อบำเพ็ญจิตตภาวนาเรื่อยมา

#ในพรรษาที่ ๑๐ ของท่าน ท่านฝึกสมาธิจนมั่นคงหนักแน่นและสามารถอยู่ในสมาธิได้เท่าไหร่ก็ได้ ท่านมีความสุขอย่างยิ่งจากที่จิตใจไม่ฟุ้งซ่าน ท่านติดอยู่ในขั้นสมาธิอยู่ถึง ๕ ปี โดยไม่ก้าวหน้าสู่ขั้นปัญญา จนกระทั่ง พระอาจารย์มั่นจึงให้อุบายเพื่อให้ท่านออกพิจารณาทางด้านปัญญาและเตือนท่านว่า "...สมาธิของพระพุทธเจ้า สมาธิต้องรู้สมาธิ ปัญญาต้องรู้ปัญญา อันนี้มันเอาสมาธิเป็นนิพพานเลย มันบ้าสมาธินี่ สมาธินอนตายอยู่นี่หรือเป็นสัมมาสมาธิ..." ท่านจึงออกจากสมาธิและพิจารณาทางด้านปัญญาต่อไป

ท่านได้บรรลุธรรมขั้นสูงสุดในวันที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ แรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๖ เวลา ๕ ทุ่มตรง บนหลังเขาซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของวัดดอยธรรมเจดีย์ อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร

#ก่อตั้งวัดป่าบ้านตาด

ด้วยเหตุที่โยมมารดาของท่านล้มป่วยเป็นอัมพาต ท่านจึงพาโยมมารดาของท่านกลับมารักษาตัวที่บ้านตาดอันเป็นบ้านเกิดของท่าน หลังจากที่โยมมารดาของท่านรักษาตัวหายขาดแล้ว ท่านจึงพิจารณาเห็นว่าโยมมารดาของท่านก็อายุมากแล้ว การจะพาไปอยู่ในถิ่นถุรกันดารเพื่อการปลีกวิเวกห่างจากผู้คนตามนิสัยของท่านก็จะทำให้โยมมารดาท่านลำบาก ประจวบเหมาะกับเวลานั้นชาวบ้านตาดมีความประสงค์อยากให้ท่านตั้งวัดขึ้นที่นั่นเช่นกัน โดยชาวบ้านได้ร่วมกันถวายที่ดินให้เป็นที่ตั้งวัด ดังนั้น วัดป่าบ้านตาดจึงเริ่มก่อตั้งขึ้น ณ หมู่บ้านบ้านตาด ตำบลบ้านตาด อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๙๘ ประกาศตั้งขึ้นเป็นวัดในพระพุทธศาสนา เมื่อวันที่ ๑๗ กันยายน พ.ศ. ๒๕๑๓ โดยให้ชื่อว่า "วัดเกษรศีลคุณ"

#สมณศักดิ์

วันที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๑ เป็นพระครูสัญญาบัตร ที่ "พระครูญาณวิสุทธาจารย์"
วันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๖ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่ "พระราชญาณวิสุทธิโสภณ สมถวิปัสสนาวิมลอนุสิฐ ยติคณิสสร บวรสังฆาราม อรัณยวาสี"
วันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ที่ "พระธรรมวิสุทธิมงคล สมถวิปัสสนาโกศลธรรมธารี อรรถภาณีสรรพกิจ โสภิตเสฏฐคุณาภรณ์ ยติคณิสสร บวรสังฆาราม อรัญญวาสี"

#โครงการช่วยชาติฯ

โครงการช่วยชาติ โดยหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๐ เนื่องจากท่านเดินทางไปแจกสิ่งของตามโรงพยาบาลในถิ่นทุรกันดารทำให้ทราบว่าโรงพยาบาลต่าง ๆ มีหนี้สินเป็นอันมากซึ่งเกิดจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่เปลี่ยนไป อันเป็นผลมาจากวิกฤติทางการเงินของประเทศ ท่านรู้สึกสลดใจเป็นอันมากจึงดำริที่จะช่วยชาติโดยน้อมนำให้ชาวไทยทั่วประเทศร่วมกันบริจาคทองคำ เงินดอลลาร์ เงินสกุลต่างประเทศ และเงินบาท เพื่อช่วยชาติบ้านเมืองที่กำลังประสบสภาวะเศรษฐกิจและสังคมตกต่ำให้ฟื้นฟูและผ่านพ้นไปด้วยดี โดยเงินทองที่ได้มาจากการบริจาคนี้จะยกให้กับธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อนำเข้าบัญชีฝ่ายออกบัตร (คลังหลวง) ทั้งหมด
โครงการช่วยชาติ โดยหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ได้รับเงินบริจาคเป็นปฐมฤกษ์เมื่อวันที่ ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๑ เป็นเงินจำนวน ๒,๕๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ และเริ่มดำเนินโครงการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ ๑๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๑ โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงเป็นประธานเปิดโครงการ ที่ สวนแสงธรรม พุทธมณฑลสาย ๓ กรุงเทพฯ ตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงวันที่ ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ได้มอบเงินเข้าคลังหลวงรวมทั้งสิ้น ๑๕ ครั้ง รวมเป็นทองคำแท่งทั้งสิ้น ๙๖๗ แท่ง จำนวน ๑๒,๐๗๙.๘ กิโลกรัม หรือ ๓๘๘,๐๐๐ ออนซ์ ส่วนเงินตราต่างประเทศประมาณ ๑๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท

#มรณภาพ

#หลวงตามหาบัวมีอาการอาพาธลำไส้อุดตัน และมีปอดติดเชื้อมานานกว่า ๖ เดือน คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาอย่างต่อเนื่อง และมีการสร้างกุฏิปลอดเชื้อให้แก่หลวงตา แต่อาการอาพาธไม่ดีขึ้น จนเมื่อวันที่ ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๔ เวลา ๐๒.๔๙ น. ตรวจพบสมองของหลวงตาหยุดทำงานใน ต่อมา ตรวจพบม่านตาขยายไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองที่ฝ่ามือฝ่าเท้า ออกซิเจนในเลือดมีค่าเท่ากับ ๐ จากนั้นเวลา ๐๓.๕๓ น. ความดันโลหิตมีค่าเท่ากับ ๐ หัวใจหยุดเต้นและหยุดการหายใจ สิริอายุได้ ๙๗ ปี ๕ เดือน ๑๘ วัน ๗๗ พรรษา
#พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จแทนพระองค์ไปทรงเป็นประธานในพิธีถวายน้ำหลวงสรงศพหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน และทรงวางพวงมาลาหลวง พวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร, สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พวงมาลาส่วนพระองค์ และพวงมาลาของพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานโกศโถ ฉัตรเบญจา และทรงรับพระพิธีธรรมไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ๗ วัน

#พระราชทานเพลิงสรีระสังขาร

#เมื่อวันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๕๔ เวลา ๑๗.๐๐ น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปทรงเป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิง ณ จิตกาธาน วัดเกษรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด) โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี และ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ โดยเสด็จฯ ด้วย และประชาชนจำนวนมากร่วมในงานครั้งนี้ด้วยความอาลัยยิ่ง
ภายหลังการมรณภาพของหลวงตามหาบัว โครงการช่วยชาติยังคงดำเนินต่อไปจนถึงปัจจุบัน โดยได้ทำการมอบสินทรัพย์เข้าคลังหลวงครั้งล่าสุดในนาม “ผ้าป่า ๑๒ เมษา บูชาคุณองค์หลวงตา สืบหน่อต่อแขนง รักษาคลังหลวง” นับเป็นครั้งที่ ๑๙ โดยจำนวนทองแท่งทั้งหมดที่มอบเข้าสู่คลังหลวงรวมทั้งสิ้น ๑,๐๕๓ แท่ง น้ำหนักรวม ๑๓,๐๑๓ กิโลกรัม และเงินดอลลาร์สหรัฐจำนวน ๑๐,๔๕๗,๑๕๙.๖๓ ดอลลาร์สหรัฐฯ)
------
ท่องเที่ยวธรรม ขอนอบน้อมพระอริยสงฆ์ด้วยเศียรเกล้า
กราบขอบพระคุณ และอนุโมทนาบุญที่มา FB page พระธัมมธโร ครูบาแจ๋ว
อนุโมทนาบุญกุศลจากการอ่าน
สวัสดี.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชีวประวัติ ปฏิปาพระอาจารย์อัครเดช (พระอาจารย์ตั๋น) ถิรจิตฺโต วัดบุญญาวาส ต.บ่อทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี

ประวัติหลวงปู่แว่น ธนปาโล วัดถ้ำพระสบาย บ.หนองถ้อย ต.นาครัว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง

หางานในกรุงเทพ ตกงาน หรือว่างงาน มา Samco