ชีวประวัติ ปฏิปทาหลวงปู่ศรี สิริธโร วัดป่าโนนทองอินทร์ อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี
๏ ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่ศรี สิริธโร ๏
วันนี้วันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ วันคล้ายวันเกิดของหลวงปู่ศรี สิริธโร วัดป่าโนนทองอินทร์ อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี เจริญอายุวัฒนมงคลครบ ๘๓ ปี ขอน้อมกราบมุฑิตาสักการะพ่อแม่ครูบาอาจารย์องค์หลวงปู่ศรี สิริธโร แห่งวัดป่าโนนทองอินทร์ อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี ลูกหลาน ศิษยานุศิษย์ ขอกราบอาราธนาอำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย ขอให้องค์หลวงปู่ศรี สิริธโร มีธาตุขันธ์แข็งแรง อยู่เป็นร่มโพธิธรรม สืบต่ออายุพระพุทธศาสนาสืบนานเท่านานเทอญ
ชีวประวัติย่อหลวงปู่ศรี สิริธโร ท่านเกิดเมื่อวันศุกร์ที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๔๘๔ ตรงกับ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๓ ปีมะโรง เกิดที่บ้านยาง ต.บ้านจีต อ.หนองหาน จ.อุดรธานี (ปัจจุบัน เป็น อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี) เป็นบุตรของนายสุข เหลืองดำ และนางสุดชาดา เหลืองดำ มีพี่น้อง ๖ คน ท่านเป็นบุตรคนที่ ๒ เมื่อวัยหนุ่มท่านไปเรียนเป็นช่างเย็บตัดผ้า จากบ้านใกล้เคียงตั้งแต่อายุ ๑๓ - ๑๗ ปี
เมื่ออายุ ๑๘ ปี หมู่เพื่อนชวนไปบวชเป็นสามเณร ก็ตามๆ กันไปบวช เมื่ออายุ ๑๘ ปี พอดี เมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๐๑ ณ วัดอัมพวัน ต.บ้านจีต อ.หนองหาน จ.อุดรธานี โดยมี พระครูประภัสสรศีลคุณ(หลวงปู่ทัน ปภัสสโร) เป็นผู้บรรพชาให้ จากนั้นจึงไปอยู่ที่วัดป่าศรีคุณาราม อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี โดยมีหลวงปู่บุญเกิด ยุตฺตธัมโม เป็นเจ้าอาวาส ได้อยู่เป็นสามเณรที่วัดป่าศรีคุณาราม ๒ ปี วันหนึ่งหลวงปู่บุญเกิด ท่านได้ถามสามเณรศรีว่า "อยากเรียนหนังสือไหม" สามเณรจึงกราบเรียนท่านว่า "อยากทดลองดู" หลวงปู่บุญเกิดท่านว่าเรามีญาติเป็นพระอยู่ที่วัดป่าวิเวกธรรม จ.ขอนแก่น ซึ่งบ้านเดิมท่านอยู่ที่มหาสารคามด้วยกัน หลวงปู่บุญเกิดจึงได้ส่งสามาเณรไปเรียนที่วัดป่าวิเวกธรรม จ.ขอนแก่น กับพระครูศีลสารวิมล หลวงปู่ล้วน สีลราโม วัดป่าวิเวกธรรมนี้ก็เป็นวัดป่ากรรมฐานมีพ่อแม่ครูบาอาจารย์เคยได้ธุดงค์มาอยู่เรื่อยๆ จึงได้ถือโอกาสช่วงนั้นรู้จักครูบาอาจารย์พระกัมมัฏฐานเป็นจำนวนมาก
หลวงปู่ล้วน สีลราโม แต่ก่อนท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม และองค์ก็มาพักก็คุ้นเคยอยู่กับท่าน สามเณรศรีเป็นสามเณรใหญ่ เป็นเณรที่บวชนานกว่าหมู่เพื่อน หลวงปู่ล้วนก็เลยมอบให้สามเณรศรี อุปัฏฐากหลวงปู่ครูบาอาจารย์ที่มาพักเพื่อไม่ให้เก้อเขิน หลวงปู่ท่านก็ชมว่า เณรศรีนี้มันดี มาจากไหน จึงตอบว่า มาจากบ้านจีต อ.หนองหาน จ.อุดรธานี สามเณรศรีได้อุปัฏฐากครูบาอาจารย์หลายๆ รูป จนอายุ ๒๐ ปี จึงได้อุปสมบท ณ วัดศรีจันทร์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยมี ท่านเจ้าคุณวินัยสุนทรเมธี(สุพจน์ อุตโร ป.ธ.๔) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูศรีธรรมาลังการ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระมหาปรีชา สุปัญฺโญ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ บวชตั้งแต่ก่อนเข้าพรรษา ตรงกับวันที่ ๑๐ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๐๔ ได้รับฉายาว่า "สิริธโร" แปลว่า "ผู้ทรงไว้ซึ่งเกียรติคุณความดี"
ช่วงที่อยู่วัดป่าวิเวกธรรมครูบาอาจารย์ท่านก็ได้แวะเวียนกันมาพักบ่อยๆ พระศรี ก็ได้ทำความคุ้นเคยกับหลวงปู่ครูบาอาจารย์ หลวงปู่ครูบาอาจารย์จะได้ชวนไปวิเวกที่รอบๆ ขอนแก่น และไปทางภาคเหนือ จึงได้ติดตามธุดงค์ไป แล้วจึงกลับมาจำพรรษาที่วัดป่าวิเวกธรรมเหมือนเดิม
ในช่วงที่ไปมานี้ก็มีหลวงปู่ที่คุ้นเคยคือหลวงปู่ไท ฐานุตฺตโม วัดเขาพุนก อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ซึ่งท่านเป็นทั้งศิษย์และเป็นทั้งหลานแท้ๆข องหลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม ท่านชวนไปที่ จ.เชียงใหม่ จึงได้ไปกับท่าน ไปครั้งแรกไปพักอยู่ที่วัดเจดีย์หลวง วัดป่าสามัคคีธรรม และพักไปเรื่อยๆ ไปทาง อ.เชียงดาวได้ไปหลายๆ แห่งทางเชียงดาว จะมีหลวงปู่เจริญ ญาณวุฑโฒ วัดถ้ำปากเปียง ซึ่งท่านเป็นคน อ.หนองหาน - อ.ไชยวาน เหมือนกัน เคยไปอยู่กับท่านหลายเดือน ในช่วงที่อยู่เชียงใหม่ หมู่คณะที่ไปด้วยกันก็ชวนไปกราบหลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม หลวงปู่ตื้อก็ให้คติธรรมหลายอย่าง แล้วก็ได้คติธรรมนั้นมาปฏิบัติ ปฏิปทาบางอย่างหลวงปู่ครูบาอาจารย์ท่านก็ชี้แนะ แต่ละองค์ท่านก็เห็นว่า มีอะไรดีๆ ก็บอก ว่าเราเป็นพระใหม่เราต้องทำตนให้เหมาะสม ให้สมเป็นพระ และก็มีหมู่คณะที่บวชรุ่นราวคราวเดียวกันคุ้นกันชวนไปเยี่ยมหลวงปู่ครูบาอาจารย์วัดนี้บ้าง จนจวนจะเข้าพรรษาจึงได้กลับมาที่วัดป่าวิเวกธรรมจังหวัดขอนแก่น
พระศรี ได้อยู่ที่วัดป่าวิเวกธรรมทั้งวิเวกอยู่รอบๆ และได้อยู่จำพรรษาที่วัดป่าวิเวกธรรม จ.ขอนแก่นเป็นเวลา ๕-๖ ปี วัดป่าวิเวกธรรมในตอนนั้นเป็นศูนย์กลางพระกรรมฐาน ซึ่งหลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม ก็เคยอยู่ที่นี่ ได้วางกฎเกณฑ์ให้พระกัมมัฏฐาน รักษาประเพณีอันดีเอาไว้เพื่อให้เป็นแบบอย่างของพระเณรและเป็นแบบอย่างของหมู่คณะที่อาจจะอ้างอิงว่าสมัยที่หลวงปู่องค์ต่างๆ ที่มาพักก็จะสอนอย่างนั้นอย่างนี้ พระศรีก็ได้เรียนรู้วิธีการ ได้รู้จักระเบียบการปฏิบัติเกี่ยวกับพระกรรมฐาน ตั้งแต่สมัยเป็นพระน้อย ก็ทำมาเรื่อยๆ แล้วก็หลายๆ ปี
อยู่มาเรื่อยๆ ท่านพระอาจารย์บุญเพ็ง กัปปโก ซึ่งเป็นน้องชายของหลวงปู่ล้วน ก็กลับมาจากวิเวก คือปกติท่านอยู่บ้านหนองบัวบาน อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม หลังจากบวชแล้วท่านก็วิเวกไปทางเชียงใหม่ ไปอยู่กับหลวงปู่สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ และจากพ่อแม่ครูอาจารย์หลายๆ รูป ท่านได้รับคำแนะนำดีๆ ท่านจึงได้กลับมาที่วัดป่าวิเวกธรรม จ.ขอนแก่น
ช่วงนั้นหลวงปู่ล้วนท่านก็อายุมากแก่ชราแล้ว พระศรี จึงได้ไปอุปัฏฐากท่านอยู่หลายเดือนหลายปี ต่อมาหลวงปู่ล้วน สีลราโม จึงมรณภาพลง ท่านพระอาจารย์บุญเพ็ง กัปปโก จึงได้เป็นเจ้าอาวาสแทนมาเรื่อยๆ
ในช่วงที่พระอาจารย์บุญเพ็งอยู่ เบื้องต้นนั้น ท่านก็ชวนพระศรี ในฐานะที่เป็นพระที่คุ้นเคยกับท่านเพราะว่าช่วงนั้น สมเด็จพระมหาวีรวงศ์(พิมพ์ ธัมมธโร) วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน กรุงเทพฯ ได้นิมนต์ท่านพระอาจารย์บุญเพ็ง กัปปโก ไปสอนกรรมฐาน ในกรุงเทพฯ ท่านอาจารย์บุญเพ็ง จึงชักชวนพระศรีโดยตรงและในช่วงก่อนเข้าพรรษาก็ถือโอกาสร่วมปฏิบัติกรรมฐานกับท่าน
การอบรมกรรมฐานในช่วงนั้นสมเด็จพระมหาวีรวงศ์(พิมพ์ ธัมมธโร) ก็ให้มีการอบรมสั่งสอนทุกวัน พระศรี ในฐานะที่เป็นพระผู้น้อยหรือเป็นลูกศิษย์ก็ไปนั่งเป็นเพื่อนท่านพระอาจารย์บุญเพ็ง ทุกวัน การอบรมทุกอย่างก็ได้ยินได้ฟังจากท่าน
------
ท่องเที่ยวธรรม ขอนอบน้อมพระอริบสงฆ์ดวยเศียรเกล้า
กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาบุญที่มา FB pag พระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
อนุโมทนาบุญกุศลจากการอ่าน
สวัสดี.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น