ชีวประวัติ ปฏิปทาหลวงปู่ธรรมรัติ ธมฺมรโต วัดชากใหญ่ อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี


๏ ประวัติและปฏิปทา ท่านพ่อธรรมรัติ ธัมมรโต ๏ 
     วันนี้วันที่ ๘ พฤษภาคม​ ๒๕๖​๗ เป็นวันคล้ายวันมรณภาพของพระอาจารย์ธรรมรัติ ธัมมรโต วัดชากใหญ่ อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี รำลึก ๙ ปี อาจาริยบูชาคุณ พระผู้เป็นเนื้อนาญแห่งภาคตะวันออก องค์ท่านพระอาจารย์ธรรมรัติ ท่านบวชและศึกษาธรรมอยู่กับท่านพ่อลี ธัมมธโร ที่วัดอโศการาม ถึง ๔ พรรษา เมื่อครูบาอาจารย์ละสังขาร ท่านจึงปลีกวิเวกเสาะแสวงหาโมกขธรรมถวายตัวเป็นศิษย์พ่อแม่ครูอาจารย์ทางภาคอีสาน เช่น หลวงปู่ฝั้น อาจาโร , หลวงปู่ขาว อนาลโย , หลวงปู่กงมา จิรปุญฺโญ , หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เป็นต้น

ท่านพระอาจารย์ธรรมรัติ ธมฺมรโต เกิดเมื่อวันเสาร์ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๕ ปีวอก ตรงกับวันที่ ๑๗ เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๔๗๕ ท่านเป็นบุตรของคุณพ่อกุ่ย วีระธรรม คุณปู่คุณย่าของท่านคือ คุณปู่เถาและคุณย่าเหนียม วีระธรรม ชาว ต.พลิ้ว อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี คุณพ่อกุ่ยเข้ารับราชการตำรวจและพบกับคุณแม่โหงว ที่ อ.ท่าใหม่ ท่านทั้งสองสมรสมีบุตรด้วยกันรวม ๑๐ คน พระอาจารย์ธรรมรัติเป็นบุตรคนที่ ๔

เมื่อครั้งวัยเยาว์พระอาจารย์ธรรมรัติ เป็นเด็กชายที่มีอุปนิสัยอ่อนโยน มีเมตตาธรรม ท่านมักจะซื้อขนมลูกอมไปแจกหมู่เพื่อนเป็นประจำ และยังมีความกตัญญูอย่างยิ่ง ทดแทนพระคุณ คุณแม่ของท่านด้วยการอาสาเป็นหมอบีบนวดคลายปวดเมื่อยให้ ก่อนลงมือนวดทุกครั้งท่านได้ยกเท้าของคุณแม่วางบนศีรษะ เพื่อทำการขออนุญาตก่อนเริ่มบีบนวดด้วยความระมัดระวัง ท่านถือคุณธรรมความซื่อสัตย์เป็นนิสัย และถูกปลูกฝังให้ตั้งมั่นอยู่ในความดี รักษาศีลอุโบสถตามผู้เฒ่าผู้แก่ทุกวันพระ นับเป็นวาสนาบารมีของท่านที่ได้เกิดมาในครอบครัวสัมมาทิฏฐิ อันเอื้อต่อการบำเพ็ญรักษาคุณภาพของจิต มาแต่แรกต้นชีวิต 

แม้นท่านมีอุปนิสัยสุภาพอ่อนโยน หากทว่ายังเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ อันหาได้ยากในเด็กวัยเดียวกัน ท่านเคยเล่าถึงการต่อสู้กับความกลัวในจิตตน โดยการซัดทรายสู้กับผีต้นมะม่วงที่ชาวบ้านเล่าต่อกันมาจนน่ากลัว คืนนั้นเด็กชายธรรมรัติกำทรายในมือ ยืนซัดสู้กับผีอยู่หลายยก จนกระทั่งท่านชนะความหวาดกลัวของตัวเองในที่สุด นับเป็นการแสดงถึงความอาจหาญชาญชัยซึ่งเป็นพื้นฐานจริตนิสัยของท่าน 

ปี พ.ศ.๒๔๙๕ เมื่ออายุ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ท่านอุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาฝ่ายมหานิกายจนครบพรรษา ต่อมาอายุ ๒๑ ปี รับราชการเป็นทหารสังกัดกองทัพเรือ เมื่อได้ครบกำหนดของการเป็นทหารแล้วถูกชวนให้สมัครต่อ แต่จิตท่านมุ่งอยู่ที่การเป็นนักบวชถ่ายเดียวเท่านั้น จึงได้ปฏิเสธ 
ต่อมาไม่นานท่านได้พบกับพระอาจารย์กงมา จิรปุญโญ เมื่อครั้งมาโปรดชาวจันทบุรี จึงได้ถือโอกาสไปปฏิบัติธรรมที่วัดดอยธรรมเจดีย์ จ.สกลนคร บวชเป็นผ้าขาวถือศีล ๘ หนึ่งพรรษา หลังจากนั้นได้ไปกราบพระศาสนโศภน ท่านได้ชวนให้พระอาจารย์ธรรมรัติปฏิบัติธรรม ณ วัดราชาธิวาส ที่กรุงเทพฯ อยู่ครบหนึ่งปี 
ในปี พ.ศ.๒๕๐๐ เจ้าคุณพระศาสนโศภนได้จัดงานพิธีพุทธาภิเษก และนิมนต์พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ มาร่วมพิธีปลุกเสกพระกริ่งปวเรศ พระอาจารย์ลีเห็นท่านธรรมรัติในขณะที่ยังเป็นฆราวาสอยู่ ท่านได้ใช้นิ้วมือชี้มาที่ตัวท่านธรรมรัติ แล้วกล่าวว่า... “เราน่ะ!ควรบวชได้แล้ว” ท่านธรรมรัติจึงตัดสินใจกราบลาพระศาสนโศภนเดินทางไปที่วัดอโศการาม เพื่ออุปสมบทเป็นพระป่ากัมมัฏฐาน 

โดยท่านเข้าพิธีอุปสมบทที่เรือตำรวจน้ำกลางทะเล ระหว่างพระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เนื่องจากขณะนั้น วัดอโศการามยังไม่มีโบสถ์จึงต้องใช้ทะเลเป็นเสมาน้ำ มีเรือรองรับแทนพระอุโบสถ โดยมีพระครูกาฬสินธุ์ สหัสคุณ หรือพระสุธรรมคณาจารย์ เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านพระอาจารย์เฟื่อง โชติโก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ท่านพระอาจารย์จูม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ 

เมื่ออุปสมบทเสร็จสิ้นแล้วได้จำพรรษาอยู่ที่วัดอโศการาม รวม ๔ พรรษา ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๐๐ จนถึงปีที่พระอาจารย์ลี ธัมมธโร มรณภาพ ปี พ.ศ.๒๕๐๔

สมัยเป็นพระภิกษุใหม่ในวัดอโศการาม พระธรรมรัติตั้งใจปฏิบัติธรรมถือการไม่นอนเป็นวัตร กำหนดจิตสละโลหิตให้ยุงเพื่อเป็นทานปารมีทุกครั้ง ยุงเกาะตามผิวหนังท่าน ตั้งแต่ศีรษะ ใบหน้า หู ตา จมูก จนถึงไหล่แขน เว้นไว้แต่ส่วนที่มีจีวรหุ้มห่อ ถึงกระนั้นพระธรรมรัติก็มิได้หวั่นไหว นั่งสมาธิจิตตั้งมั่น ตัวตรงเหมือนวัตถุชิ้นใดชิ้นหนึ่งที่ยุงเกาะเต็ม 
หลังจากที่พระอาจารย์ลี มรณภาพลง ท่านจึงไปจำพรรษากับท่านพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ที่วัดถ้ำขาม จ.สกลนคร ระหว่างจำพรรษาท่านธรรมรัติ ถือการไม่นอนในระหว่างกลางคืน ๔ เดือนเต็ม นั่งสมาธิใกล้ริมเหวอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ๔ คืนต่อ ๑ ครั้ง และนั่งสมาธิที่ทางเสือผ่าน เขาภูพาน จากนั้นได้ธุดงค์ไปปฏิบัติกัมมัฏฐานยังสถานที่ต่างๆ เช่น ถ้ำเชียงดาว นครเวียงจันทร์ ดงพญาเย็น ถ้ำเบี้ย ถ้ำพระธาตุลพบุรี ภูกระแต บ้านนาคำ บ้านเสม็ดแดง และบ้านเครือน้อย เป็นต้น

นอกจากการออกธุดงค์ไปตามที่ต่างๆ แล้ว ท่านพระอาจารย์ธรรมรัติยังอุทิศตนเป็นหมอบีบเส้น โดยพิจารณากายาคตาสติของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ เป็นกัมมัฏฐานน้อมมาหาตนเอง และศึกษาอรรถธรรมจากท่านพระอาจารย์ฝั้นอาจาโร ท่านพระอาจารย์ขาว อนาลโย ท่านพระอาจารย์อ่อน ญาณศิริ ท่านพระอาจารย์เทสก์ เทสรังสี ท่านพระอาจารย์กงมา จิรปุญโญ ท่านพระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน พ่อแม่ครูบาอาจารย์ผู้เป็นเนื้อนาบุญโดยแท้แห่งพระศาสนา

๘ ปี หลังการออกบวชและบำเพ็ญจิตตภาวนา จนลุเข้าถึงธรรมาพิศมัยอย่างน่าชื่มชม นับเป็นบุญวาสนาของชาวจันทบุรี เมื่อหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ได้มีคำสั่งให้พระอาจารย์ธรรมรัติ เดินทางกลับมาจำพรรษาที่วัดป่าสถานีทดลองพลิ้ว หรือวัดชากใหญ่ ในปี ๒๕๐๘

ซึ่งแต่เดิมเป็นสถานที่ ที่ท่านพระอาจารย์มหาบัว ญานสัมปันโน เคยจำพรรษาอยู่ ๑ พรรษา เมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๘ ก่อนเดินทางกลับวัดป่าบ้านตาด เนื่องจากโยมมารดาของท่านอาพาธ สถานที่นี้ในขณะนั้นยังไม่เป็นวัด ยังเป็นเพียงที่พักสงฆ์ไม่มีถาวรวัตถุใดๆ พระอาจารย์ธรรมรัติดำเนินการขออนุญาตจากกรมศาสนาตั้งเป็นวัดโดยสมบูรณ์ในปี พ.ศ.๒๕๒๓ และพระอธิการธรรมรัติได้ตราตั้งเป็นเจ้าอาวาสในปีเดียวกัน นับแต่นั้นจึงเกิดถาวรวัตถุขึ้นจากศรัทธาญาติโยม ที่เลื่อมใสในธรรมและความเมตตาของท่าน หลั่งไหลเข้ามาโดยไม่มีการเรี่ยไรหรือขอรับบริจาค ซึ่งเป็นปฏิปทาของพระอาจารย์ธรรมรัติที่ไม่ให้วัดชากใหญ่ตั้งตู้รับบริจาคมาแต่ต้น

ผ่านไป ๕๐ ปี พื้นที่บริเวณวัดชากใหญ่เนื้อที่ ๖๐ ไร่ เต็มไปด้วยปางพระพุทธรูปต่างๆมากมาย สมคำพยากรณ์ของพระอาจารย์ฝั้นอาจาโรว่า “ วัดนี้เป็นวัดวาสนาบารมีของท่านธรรมรัติโดยตรง ถ้าท่านมาอยู่วัดนี้ จะมีพระพุทธรูปมากกว่าพระสงฆ์” ในวันนี้วัดชากใหญ่ ได้เป็นพุทธอุทยานนานาชาติ แหล่งการเรียนรู้ทางพระพุทธศาสนาอันสำคัญของประเทศไทย โดยรองรับการทัศนศึกษาของชาวต่างชาติทั่วโลก และนักเรียน นักศึกษาจำนวนมากจากทั่วประเทศ ที่สนใจค้นคว้าพุทธประวัติหรือธรรมะที่ปรากฏ บนแผ่นศิลาจารึกตามปางพระพุทธรูป อันเขียนบันทึกจากการแสดงธรรมของพระอาจารย์ธรรมรัติ ตลอดการจำพรรษาของท่าน ณ สถานที่แห่งนี้
ในวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๘ พระพุทธศาสนาได้สูญเสียอีกหนึ่งเสาหลักลง ในพรรษาที่ ๕๗ ของพระอริยสงฆ์แดนอิสานผู้อาจหาญในธรรม นามว่าพระอธิการธรรมรัติ ธมฺมรโต ด้วยโรคชรา สิริอายุรวม ๘๓ ปี

-------
ขอนอบน้อมพระอริยสงฆ์ด้วยเศียรเกล้า
กราบขอบพระคุณ อนุโมทนาบุญผู่รวบรวมFB พระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
อนุโมทนาบุญกุศลจากการอ่าน
สวัสดี.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชีวประวัติ ปฏิปาพระอาจารย์อัครเดช (พระอาจารย์ตั๋น) ถิรจิตฺโต วัดบุญญาวาส ต.บ่อทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี

ประวัติหลวงปู่แว่น ธนปาโล วัดถ้ำพระสบาย บ.หนองถ้อย ต.นาครัว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง

หางานในกรุงเทพ ตกงาน หรือว่างงาน มา Samco