ชีวประวัติ ปฏิปทาหลวงพ่อสุดใจ ทนฺตมโน วัดป่าบ้านบ้านตาด อ.เมืองจ.อุดรธานี


 ประวัติและปฏิปทา หลวงพ่อสุดใจ ทันตมโน ๏ 
     วันนี้​วัน​ที่​ ๒๒​ พฤษภาคม​ ๒๕๖๗ เป็น​วัน​คล้ายวันมรณภาพของหลวง​พ่อ​สุดใจ​ ทนฺตมโน​ วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี รำลึก​ ๔ ปี​ อาจาริยบูชาคุณ​ สมณะผู้​ทรง​คุณธ​รร​มแห่ง​วัดป่า​บ้าน​ตาด​ หลวงพ่อสุดใจ ผู้ดำเนินปฏิปทาตามรอยธรรมคำสอนจากองค์พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน อย่างเคร่งครัด ท่านเป็นที่ไว้วางใจจากองค์หลวงตา ดังจะเห็นได้ว่า ท่านเป็นผู้เดินบาตรแทนหลวงตา คือ ตลอดระยะเวลากว่า ๑๐ ปี เส้นทางกว่า ๑ กิโลเมตรไปกลับบริเวณหน้าวัดป่าบ้านตาด ทุก ๆ เช้า ที่ท่านพระอาจารย์สุดใจ เดินถือบาตรขององค์หลวงตามหาบัว เมตตาโปรดสัตว์ รับบิณฑบาตญาติโยมลูกศิษย์ลูกหาจำนวนหลายร้อยหลายพันคน ที่กรูกันเข้ามาใส่บาตร บาตรของหลวงตามหาบัว ที่ท่านเป็นตัวแทนถือบาตร ด้วยความเมตตา และไม่ระย้อท้อถอย ท่านรับบาตรจนเต็ม แล้วถ่ายออก รับบาตรจนเต็ม แล้วถ่ายออกอีก เพียงเพราะท่านเคารพธรรมจากพ่อแม่ครูอาจารย์องค์พระหลวงตามหาบัว และยินดีในศรัทธาของมหาชน ที่มุ่งหน้ามาใส่บาตรกันทุก ๆ เช้า อีกทั้งช่วงก่อนที่องค์หลวงตาท่านจะละสังขาร ท่านได้จับมือท่านพระอาจารย์สุดใจ ทันตมโน แล้วเมตตาพูดว่า “มือของครูอาจารย์ กับมือของลูกศิษย์ลูกหา ญาติมิตรเพื่อนฝูง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ใช้แทนกันได้ ไว้ใจกันได้” ท่านพระอาจารย์สุดใจ จึงถือเป็นทายาททางธรรม ที่เดินตามรอยปฏิปทาขององค์หลวงตา เสมอต้นเสมอปลายอย่างแท้จริง

"..ให้หมั่นทำความดีเอาไว้เรื่อย ๆ เป็นนิสัย อย่าประมาท เมื่อถึงวันสุดท้ายของชีวิตแล้ว เราก็จะไม่กลัวตาย เพราะเรารู้แล้วนี่ ว่าเมื่อตายแล้ว เราจะไปอยู่ไหน เพราะฉะนั้น ไม่ต้องกลัวตาย.." หลวงพ่อสุดใจ ทันตมโน 

• #ประวัติปฏิปทาขององค์หลวงพ่อสุดใจ_ทันตมโน •

นามเดิมขององค์ท่านชื่อ สุดใจ เชาว์สมุทร์ บิดาชื่อ นายวิง มารดาชื่อ นางปุ่น ท่านถือกำเนิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๔๘๗ ตรงกับวันแรม ๑๓ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีวอก ภูมิลำเนาของท่านอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระดับปริญญาโท คณะพัฒนาการเศรษฐกิจ จากสถาบันพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) NIDA ท่านได้เข้าอุปสมบท เมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๑๖ ณ วัดอโศการาม ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ โดยมีพระราชวรคุณ (หลวงปู่สำรอง คุณวุฑโฒ ภายหลังได้รับแต่งตั้งเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระเทพโมลี) เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อทอง จันทสิริ เป็นพระกรรมวาจารย์ หลวงพ่อปิ่น ตันติธัมโม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ 

ช่วงแรกที่อยู่วัดอโศการาม ที่วัดจะมีข้อวัตรให้พระทุกรูปมานั่งรวมกันในฃ่วงค่ำ เพื่อไหว้พระสวดมนต์และนั่งภาวนาที่ศาลา ระหว่างนั่งภาวนาก็จะมีการเปิดพระธรรมเทศนาของครูบาอาจารย์ให้ฟังไปด้วย มีวันหนึ่งองค์ท่านนั่งภาวนาไป จนเกิดทุกขเวทนาแทบจะทนไม่ไหว แต่องค์ท่านก็ได้พยายามใช้ความอดทนและสติปัญญาต่อสู้กับทุกขเวทนานั้นจนสุดกำลัง ท้ายที่สุดจิตขององค์ท่านได้รวมลงสู่ความสงบเป็นสมาธิ ปรากฏว่าทุกขเวทนานั้นได้หายไป ทำให้องค์ท่านเห็นความอัศจรรย์ในจิตเป็นครั้งแรก บังเกิดความเชื่อความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาขึ้นมาทันที องค์ท่านก็เลยตัดสินใจไม่ลาสิกขา และได้อยู่จำพรรษาแรกที่วัดอโศการามแห่งนี้

หลังจากออกพรรษาแล้ว หลวงพ่อจึงต้องการเสาะแสวงหาครูบาอาจารย์ที่จะอบรมสั่งสอนด้านจิตตภาวนา เนื่องจากในระหว่างจำพรรษาที่วัดอโศการามนั้น หลวงพ่อเคยได้อ่านและฟังพระธรรมเทศนาขององค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด หลวงพ่อเล่าว่าพระธรรมเทศนาขององค์หลวงตานั้น สามารถแก้ปัญหาด้านจิตตภาวนาภายในใจให้องค์ท่านได้ องค์ท่านจึงตัดสินใจที่จะมาขออยู่ศึกษาอบรมด้านจิตตภาวนากับองค์หลวงตาที่วัดป่าบ้านตาด โดยทางวัดอโศการามได้ทำจดหมายฝากตัว เพื่อจะนำมาถวายให้องค์หลวงตาด้วย

เมื่อองค์ท่านเดินทางมาถึงวัดป่าบ้านตาด และได้พบองค์หลวงตาแล้ว องค์หลวงตาได้พูดดักขึ้นมาว่า “พระบางองค์ที่อยากมาอยู่กับเรา แล้วให้คนเขียนจดหมายฝากตัวมาก็มี”พอหลวงพ่อได้ยินเช่นนั้น องค์ท่านจึงไม่กล้านำจดหมายฉบับนั้นถวายแก่องค์หลวงตา และเปลี่ยนความตั้งใจไปอยู่ศึกษาอบรมกับหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครธาราม แทนในพรรษาที่สองแทน

หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ รู้วาระจิตของหลวงพ่อ 
หลวงพ่อเล่าว่าก่อนเข้าพรรษา บันไดกุฏิขององค์ท่านชำรุด จึงได้ขอให้พระมาช่วยซ่อมให้ โดยไม่ได้กราบเรียนให้หลวงปู่ทราบ พอขึ้นประชุมพระ หลังเทศน์เสร็จ หลวงปู่ก็ได้ปรารภถึงเรื่องซ่อมบันไดขึ้นมา ทำให้หลวงพ่อเกิดความเคารพเลื่อมใสในหลวงปู่เป็นอย่างยิ่ง

พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
หลวงพ่อสุดใจมาอยู่ศึกษาอบรมกับองค์หลวงตามหาบัว ที่วัดป่าบ้านตาดครั้งแรก ในพรรษาที่ ๓ เมื่อวันที่ ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๗ จากนั้นองค์ท่านก็ได้อยู่จำพรรษาที่วัดป่าบ้านตาดเรื่อยมา

เมื่อได้มาอยู่กับองค์หลวงตาสมความตั้งใจ องค์ท่านก็เร่งทำความเพียร การภาวนาก็รุดหน้าไปโดยลำดับ เพราะในสมัยนั้นองค์หลวงตามหาบัวท่านรับพระไว้จำนวนไม่มาก อย่างมากก็ไม่เกิน ๑๘ องค์ทำให้องค์ท่านสามารถดูแลพระเณรได้อย่างทั่วถึง องค์หลวงตาจะเข้มงวดกวดขันกับพระ ด้วยการเดินตรวจตามกุฏิพระเป็นประจำ และมีการเรียกประชุมอบรมพระเณรอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้อุบายและกำลังใจในการภาวนา ทำให้ต่างองค์ต่างภาวนากันอย่างจริง​ ๆ จัง​ ๆ นอกจากนี้องค์หลวงตาท่านจะสงวนพระไว้เพื่อให้ทำความเพียรภาวนาอย่างเดียว โดยจะไม่ให้พระรับกิจนิมนต์ เว้นไว้มีความจำเป็น และจะไม่ให้พระออกมาเกี่ยวข้องกับญาติโยมมากนัก 

หลวงพ่อเล่าว่าการภาวนาขององค์ท่านตอนนั้นก้าวหน้า เห็นความอัศจรรย์ไปโดยลำดับ 

หลวงพ่อสุดใจได้รับความไว้วางใจจากองค์หลวงตา ให้เป็นผู้ถอด พิมพ์ และตรวจทานพระธรรมเทศนาเพื่อรวบรวมจัดพิมพ์เป็นหนังสือแจกบุคคลทั่วไปที่สนใจ โดยในสมัยนั้นองค์ท่านเล่าว่า องค์หลวงตามอบเครื่องพิมพ์ดีด ไว้โดยเฉพาะแก่องค์ท่าน

ในสมัยนั้นยังไม่มีคอมพิวเตอร์ และไม่มีโต๊ะสำหรับนั่งพิมพ์ หลวงพ่อจะใช้วิธีนั่งขัดสมาธิพิมพ์กับพื้น 
กัณฑ์เทศน์อบรมพระและฆราวาส หลวงพ่อจะเป็นคนถอดจากเทปและพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ดีด ก่อนที่จะพิมพ์ออกมาเป็นหนังสือต่อมา อาจจะกล่าวได้ว่ากัณฑ์เทศน์ขององค์หลวงตาเกือบทั้งหมดต้องผ่านการตรวจทานจากหลวงพ่อ ดังที่องค์หลวงตาเคยปรารภถึงหลวงพ่อไว้ว่า “อย่างเราเทศน์ทางนี้ ไปทางนู้นก็ให้ท่านสุดใจตรวจอีกทีหนึ่ง เพราะท่านสุดใจรู้เรื่องของเราดี การพูดการจาแง่หนักเบา ท่านสุดใจเข้าใจเรื่องของเรา เพราะเป็นพระปฏิบัติด้วยกัน ถ้าภาคปริยัติกับปฏิบัติไปตรวจกันไม่ได้เรื่อง ภาคปริยัติไปอย่างนึง ภาคปฏิบัติไปอย่างนึง ถ้าเป็นภาคปฏิบัติตรวจภาคปฏิบัติเข้าใจทันที”

หลวงปู่คำตันเคยมาพำนักที่วัดป่าบ้านตาด หลวงพ่อได้มีโอกาสไปสนทนาธรรมกับหลวงปู่ องค์ท่านเลยเมตตาชวนให้ไปพักภาวนาด้วยกันที่วัดป่าดานศรีสำราญ จ.หนองคาย
ในคราวนั้นหลวงพ่อได้กราบลาองค์หลวงตาไปพักภาวนาอยู่กับหลวงปู่นาน ๑ เดือน หลวงปู่ได้เมตตาให้คนสร้างกุฏิให้หลวงพ่อ โดยในขณะนั้นมีเพียงหลวงปู่กับหลวงพ่ออยู่กันเพียง ๒ องค์

ในปี ๒๕๒๔ หลวงพ่อเคยไปพักภาวนาอยู่วัดป่าหนองไผ่ จ.สกลนคร และได้ล้มป่วยเป็นมาลาเรียขึ้นสมองที่นี่ ใช้เวลารักษานาน ๖ เดือน กว่าจะหายกลับมาเป็นปกติ
 หลังจากนั้นในปีพ.ศ. ๒๕๒๘ หลวงพ่อได้กราบลาองค์หลวงตากลับไปภาวนากับหลวงปู่คำตันอีกครั้ง ในครั้งนี้ได้พักภาวนาเป็นเวลา ๔ เดือน โดยในครั้งนี้ องค์หลวงตาได้ให้คนไปตามหลวงพ่อกลับวัดป่าบ้านตาด
 ความตั้งใจเดิมของหลวงพ่อ ตั้งใจว่าจะอยู่ศึกษาอบรมกับองค์หลวงตาเพียง ๓ ปี แล้วจะออกไปภาวนากับหลวงปู่คำตัน ดังนั้นเมื่อช่วยงานองค์

หลวงตาถอดกัณฑ์เทศน์ พิมพ์หนังสือต่าง​ ๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ตั้งใจที่จะออกไปภาวนากับหลวงปู่ ท่านจึงเก็บข้าวของต่าง​ ๆ เตรียมจะขึ้นไปกราบลาองค์หลวงตา ยังไม่ทันที่จะได้กราบเรียนอะไร องค์หลวงตาก็ปรารภขึ้นมาว่า ‘ พระที่มาอยู่ศึกษาอบรมกับเรา พอได้เรื่องได้ราวแล้วก็พากันออกไป เหลือแต่พระเล็กพระน้อยที่ไม่รู้ประสีประสาอะไร จะหาใครมาใช้ก็ไม่มี” หลวงพ่อก็เลยไม่ได้กราบลาองค์หลวงตาไปภาวนาตามความตั้งใจ 

ปี ๒๕๓๘ หลวงพ่อเคยขอโอกาสกราบลาองค์หลวงตาไปภาวนาที่วัดถ้ำวิมานเจีย จ.กาฬสินธุ์ หลังจากกลับจากภาวนา องค์หลวงตาได้ปรารภว่า ‘เราไม่เคยทำอย่างนี้ เวลาอยู่กับครูบาอาจารย์” เนื่องจากในระยะนั้นที่วัดมีการยกศาลา ตั้งแต่นั้นมาหลวงพ่อก็ไม่ได้ไปวิเวกที่ไหนอีกเลยจนถึงปัจจุบันรวมเป็นระยะเวลาเกือบ ๔๐ ปี สำหรับพระอาจารย์สุดใจ ทันตมโน ซึ่งเป็นพระที่อยู่วัดป่าบ้านตาด ทำงาน และดูแลหลวงตามหาบัว มายาวนาน แม้จะมีพระหลายรูปไปปลีกวิเวก แต่พระอาจารย์สุดใจ ก็ยังคงอยู่กับหลวงตาจนวาระสุดท้ายขององค์หลวงตา ท่านมีนิสัยพูดน้อย ถ่อมตน แต่ทำงานอย่างเอาจริงเอาจัง และได้รับความไว้วางใจจากองค์หลวงตามหาบัว ให้ดูแลเรื่องหนังสือธรรมะต่าง ๆ โดยหนังสือหลวงตาเกือบทุกเล่ม ตลอดถึงกัณฑ์เทศน์ต่าง ๆ ที่ลงในเว็บหลวงตา www.luangta.com จะต้องผ่านการตรวจทานจากท่านทั้งหมด ดังคำกล่าวที่หลวงตามหาบัว เคยเทศน์ไว้ว่า “..อย่างเราเทศน์ทางนี้ ไปทางนู้นก็ให้ท่านสุดใจตรวจอีกทีหนึ่ง เพราะท่านสุดใจรู้เรื่องของเราดี การพูดการจาแง่หนักเบาท่านสุดใจเข้าใจเรื่องเรา เพราะเป็นพระปฏิบัติด้วยกัน ถ้าภาคปริยัติกับปฏิบัติไปตรวจกันไม่ได้เรื่อง ภาคปริยัติไปอย่างหนึ่ง ภาคปฏิบัติไปอย่างหนึ่ง ถ้าเป็นภาคปฏิบัติตรวจภาคปฏิบัติเข้าใจทันที..”

ก่อนที่องค์พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ท่านจะละสังขาร ท่านได้จับมือท่านพระอาจารย์สุดใจ ทันตมโน แล้วเมตตาพูดว่า “มือของครูอาจารย์ กับมือของลูกศิษย์ลูกหา ญาติมิตรเพื่อนฝูง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ใช้แทนกันได้ ไว้ใจกันได้” ต่อมาเมื่อวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๕๔ องค์หลวงตามหาบัว ได้เข้าสู่อนุปาทิเสสนิพพาน ณ วัดป่าบ้านตาด หลังจากนั้นจึงได้มีการแต่งตั้งท่านพระอาจารย์สุดใจ ทันตมโน เป็นเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี รูปใหม่แทน หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน โดยมี พระราชวราลังการ (หลวงปู่สิงห์ อินทปัญโญ) วัดโพธิสมภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานในพิธีการมอบตราตั้งให้พระอาจารย์สุดใจ ทันตมโน รักษาการเจ้าอาวาส ที่ ๐๔/๒๕๕๔ ลงวันที่ ๗ เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๔ ที่ศาลาการเปรียญวัดป่าบ้านตาด ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยมีใจความว่า.. “อาศัยอำนาจตามความในข้อที่ ๒๗ แห่งกฎหมายมหาเถระสมาคมฉบับที่ ๒๔ (พ.ศ.๒๕๔๑) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๓๕ จึงแต่งตั้งให้ พระสุดใจ ฉายา ทนฺตมโน อายุ ๖๗ พรรษา ๓๘ วิทยฐานะ น.ธ.ตรี วัดป่าเกษรศิลคุณ ดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าเกษรศิลคุณ ตำบลบ้านตาด อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี มีหน้าที่และอำนาจตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๓๕ พระภิกษุสามเณรและคฤหัสถ์ที่อยู่ในวัดดังกล่าวข้างต้น จงอยู่ในโอวาทของรักษาการเจ้าอาวาสที่ได้รับแต่งตั้งแล้วนั้น ซึ่งปฏิบัติการโดยชอบด้วยพระธรรมวินัย กฎหมาย กฎมหาเถระสมาคม ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง มติ ประกาศ ของมหาเถระสมาคม ขอจงถือความเจริญงอกงามไพบูลย์ในพระพุทธศาสนา ตลอดกาลนาน เทอญฯ ลงชื่อ เจ้าอธิการสุพิศ สุนฺทโร เจ้าคณะตำบลบ้านตาด เขต ๑ (ธรรมยุต) ..” 

"พอบวชเริ่มภาวนาใจได้รับความสุขสงบเย็นแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นึกย้อนถามตัวเองว่า ถ้าเรานั่งอยู่มีคนเดินมาด่าเรา เราจะโกรธมั๊ย คนทั่วไปที่ไม่รับการฝึกอบรมจิตใจมา ย่อมมีความโกรธเป็นธรรมดา แต่คนที่ได้รับการฝึกฝนมาจะไม่โกรธ กลับสงสารว่า...เค้าไม่เคยเจอความสุขที่แท้จริง เค้าน่าสงสาร ถ้าเรารักตัวเอง เราจะไม่ส่งจิตออกไปให้ใจโกรธ แต่จะมีสติรักษาจิตให้มีความสุข สงบเย็น..” โอวาทธรรมคำสอนหลวงพ่อสุดใจ ทันตมโน วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี

หลวงพ่อสุดใจ ทันตมโน​ ละสังขารตรงกับวันศุกร์ที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๓ จากเหตุอัคคีภัย เพลิงไหม้กุฏิองค์ท่าน เมื่อเวลา ๑๔.๑๐ น. โดยประมาณ เบื้องต้นทราบว่า เป็นเวลาที่ท่านนั่งภาวนาอยู่เป็นปกติ คณะสงฆ์ได้นำท่านส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดร แต่ไม่ทัน ท่านละสังขารแล้ว จึงนำสรีระท่านกลับมาทำพิธีบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป สิริอายุ ๗๕ ปี ๗ เดือน ๘ วัน ๔๗ พรรษา

“...คนเรามันก็เหมือนมีงานอยู่ตลอดเวลาหล่ะนะ หมดพรรษาแล้วใครอยากจะไปอยู่วิเวกก็ไปได้ คือพระเราที่จะอยู่ไปวันนึง วันนึง แบบฆราวาสเขาก็ไม่ได้น่ะ นับวันมันจะมีภาระมากขึ้น พรรษาก็มีมากตามไปด้วย หน้าที่ของเราที่ต้องปฏิบัติต่อตัวเราเอง อย่างน้อยให้มีความสงบเป็นที่พึ่งของใจมันก็อยู่ได้ ถ้าไม่มีเลยนี่ มันก็จะคว้าเอาเรื่องทางโลกมาปฏิบัติกัน ในสายตาของครูบาอาจารย์ก็จะมองว่ามันไม่เป็นการดีเลยที่จะเป็นอย่างนั้น 

...พระพุทธเจ้าออกบวชก็มุ่งที่จะชำระล้างกิเลสที่มีอยู่ในใจขององค์ท่านให้ออกไปให้หมด ท่านเห็นอะไร ไม่ว่าต้นไม้ ใบหญ้าหรือคน ท่านก็จะตีเข้ามาหาตัวเป็นธรรมเสมอว่า โลกนี้มันเป็นโลกที่ไม่เที่ยงนะ มีกฏของไตรลักษณ์ คืออนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เข้าบังคับบัญชาอยู่ตลอดเวลา แล้วมนุษย์เราแต่ละคน แต่ละคน ไม่ใช่ว่าอายุจะยืนยาวอะไรนักหนา แล้วก็บอกไม่ได้ด้วยว่า คนแก่จะต้องตายก่อนวัยเด็กเสมอไป เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุทำให้เสียชีวิตลง เกิดโรคภัยไข้เจ็บเข้ามาเบียดเบียนทำให้ตายก่อนวัยอันควร ท่านจึงสอนว่าอย่าประมาทในคุณงามความดี อย่าคิดว่าทำน้อยนิดมันจะไม่ให้ผล เมื่อทำอยู่บ่อย ๆ มันก็จะติดเป็นนิสัย แล้วสิ่งเหล่านี้แหละที่จะชักนำเราให้พ้นทุกข์ไปภายในวันหนึ่งแน่นอน

ทำอะไรก็พยายามน่ะ ทำเอาจริงเอาจัง ผู้ปฏิบัติทางด้านธรรมะ มันจะเอานิสัยทางด้านนั้นมาใช้ แล้วคนที่จริงจัง คือว่ามีการตั้งสติ ความรู้อยู่กับสติไม่คลาดเคลื่อนไปไหน จิตที่มันฟุ้งซ่านที่เคยมีอยู่ มันต้องสงบลงได้อย่างแน่นอน เมื่อจิตเราเกิดความสงบ เพียงครั้งแรกเท่านั้นแหละ มันก็มีความตื่นเต้นแล้ว แล้วยิ่งสงบเข้าไปหลายครั้งหลายหน ได้ความสว่างกระจ่างแจ้ง มันก็จะเกิดขึ้น เราถึงว่าจิตมันเริ่มสัมผัสกับธรรมแล้ว ต่อจากนั้นความขี้เกียจขี้คร้าน ในการที่จะทำความพากความเพียร มันก็ค่อย ๆ จะหมดไป ๆ แล้วเราก็จะมองเห็นว่า เฮ้ย..ตัวขี้เกียจขี้คร้านเนี่ย มันเป็นกิเลสโดยแท้เลย ซึ่งแต่ก่อนเราไม่เคยคิดเคยนึกนะ พอจิตเจริญขึ้นมันมีความสงบของมันเป็นปกตินี่ เวลาเดินจงกรม มันก็จะขยันเดิน เดินไปบางที นึกว่ามันแค่ครึ่งชั่วโมง หนึ่งชั่วโมง บางทีเดินไป สามชั่วโมง สี่ชั่วโมงก็มี เมื่อมีความสงบจากนั้นมีโอกาสก็ก้าวทางปัญญา พิจารณาสิ่งทั้งหลายลงไปสู่ไตรลักษณ์ จนกระทั่งถึงสุดท้าย ที่มันถอดถอนได้สุด “หมดกิเลส” และไอ้ความทุกข์ของใจที่มันหมดกิเลสแล้ว มันหาอะไรเทียบไม่ได้นะ แล้วก็จะสามารถรู้ได้ด้วยตนเองได้ว่าจะไม่กลับมาเกิดอีกแล้ว...วันนี้ก็ให้ธรรมะย่อ ๆ แค่นี้นะ เสียงมันไม่มีแล้ว...” โอวาทธรรมคำสอนท่านพระอารย์สุดใจ ทันตมโน เมื่อวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ ณ วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี


--------
ขอนอบน้อมพระอริยสงฆ์ด้วยเศียรเกล้า
กราบขอบพระคุณ อนุโมทนาบุญผู้รวบรวมFB pageพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
อนุโมทนาบุญกุศลจากการอ่าน
สวัสดี.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชีวประวัติ ปฏิปาพระอาจารย์อัครเดช (พระอาจารย์ตั๋น) ถิรจิตฺโต วัดบุญญาวาส ต.บ่อทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี

ประวัติหลวงปู่แว่น ธนปาโล วัดถ้ำพระสบาย บ.หนองถ้อย ต.นาครัว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง

หางานในกรุงเทพ ตกงาน หรือว่างงาน มา Samco