ชีวประวัติ ปฏิปทาหลวงปู่เจือ กิจฺจธโร วัดถ้ำสาริกา ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก
ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่เจือ กิจฺจธโร
วันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๖๗ เป็นวันครบรอบ ๑๑ ปี การละสังขาร หลวงปู่เจือ กิจฺจธโร วัดถ้ำสาริกา ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก สมณะผู้ทำกิจที่ควรทำไว้ชอบแล้ว ถ้ำสาริกาเป็นที่รู้จักกันในทางพระพุทธศาสนาคือสถานที่บรรลุธรรม "อนาคามี" ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หลวงปู่เจือ ท่านได้มาสร้างถ้ำสาริกาให้เป็นวัดถ้ำสาริกาได้อย่างสมบูรณ์ มั่นคง เพื่อเป็นการบูชาธรรมขององค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พระบูรพาจารย์ใหญ่ฝ่ายพระกรรมฐาน
หลวงปู่เจือ ท่านถือกำเนิดในสกุล เข็มทอง โดยมีนายเปี้ยว เป็นบิดา และนางแจ่มเป็นมารดา เกิดเมื่อวันจันทร์ ที่ ๙ กันยายน พ.ศ.๒๔๗๒ ตรงกับแรม ๑๑ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะเส็ง ณ บ้านดอนโพธิ์ ต.บ้านนา อ.บ้านนา จ.นครนายก ท่านเป็นบุตรคนที่ ๙ จากบุตร ๑๑ คน
#อุปสมบทครั้งแรก
เมื่ออายุ ๒๐ ปี ท่านได้บวชสนองคุณบิดาและมารดา ท่านละปี รวม ๒ ปี ที่วัดสมอบุญคง ต.บ้านนา อ.บ้านนา จ.นครนายก หลังจากนั้นท่านได้ลาสิกขามา ทำงานที่การรถไฟ เป็นเวลา ๑๒ ปี หลังจากนั้นก็ไปประกอบอาชีพส่วนตัว เมื่ออายุ ๔๒ ปี ท่านได้นิมิต ว่ามีพระสองรูป พาท่านไปเที่ยวที่ปาเขาที่สวยงามมาก โดยท่านได้ฝันถึง ๓ ครั้ง หลังจากนั้น ท่านได้ฝันว่าตัวเองเป็นโครงกระดูก และมีร่างดำทะมึน ใหญ่ๆ มาช่วยประกอบคืนร่างเดิม แล้วบอกท่านว่า ถึงเวลาบวชแล้ว ท่านจึงไปบวชอีกครั้งขณะนั้นท่านมีอายุ ๔๓ ปี
#อุปสมบทครั้งที่_๒
ท่านอุปสมบทเมื่อวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๑๖ ณ พัทธสีมาวัดสันตยาราม ต.พรหมณี อ.เมือง จ.นครนายก โดยมีพระครูวิมลธรรมกิจ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระปลัดโถม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูเขมคุณโสภณ เป็นพระอนุสาสนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "กิจฺจธโร" แปลว่า "ผู้ทำกิจที่ควรทำไว้ชอบแล้ว"
เมื่อบวชแล้วไม่นานท่านก็ติดตามท่านพระอาจารย์มหาสมบูรณ์ วีรถิรโต ออกเดินธุดงค์ไปหลายพี้นที่จนไปถึงประเทศเขมร และประเทศลาว เป็นระยะเวลา ๒ ปี เมื่อช่วงก่อนเข้าพรรษาที่ ๓ ตรงกับปี พ.ศ.๒๕๑๘ หลวงปู่เจือ และท่านพระอาจารย์มหาสมบูรณ์ พระอาจารย์ของท่าน ได้พากันเดินธุดงค์กลับมาในเขตป่า จ.นครนายก พอดีก็มีรถคันหนึ่งขับผ่านมาแล้วก็ลงมานิมนต์ท่านขึ้นรถ เมื่อท่านขึ้นรถคนขับรถก็ขับไปเรื่อยๆ จนรถมาเสียอยู่ด้านล่างเขาถ้ำสาริกา ช่วงเวลาที่รอซ่อมรถอยู่ ท่านพระอาจารย์มหาสมบูรณ์ได้ให้ท่านขึ้นไปสำรวจบนเขาดู เวลาน้ำเขาลูกนี้ไม่มีทางขึ้นทางลง เป็นป่ารกทึบมาก ท่านจึงค่อยๆเดินขึ้นไปด้านบนแล้วพบปล่องถ้ำ จิตใจของท่านขณะนั้นรู้สึกปีติแช่มชื่นสบายใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน หลวงปู่เจือ ท่านจึงนึกขึ้นมาได้ว่า "เขาถ้ำสาริกา เป็นธรรมสถานที่ที่หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เคยธุดงค์มาพักบำเพ็ญสมณธรรมแล้วบรรลุอนาคามีผลอยู่ ณ ที่แห่งนี้" หลวงปู่เจือ ท่านจึงอยากอยู่ปฏิบัติธรรมในมงคลสถานนี้ จึงตัดสินใจแล้วลงไปจะไปจ่ายค่าจ้างให้คนขับรถ แต่คนขับรถเมื่อแก้รถเสร็จก็ขับรถหนีท่านไปก่อนแล้ว ท่านจึงอยู่ที่ถ้ำสาริกาแห่งนี้มาโดยตลอด
สมัยที่ท่านมาที่ถ้ำสาริกา แห่งนี้ยังไม่เจริญมากนัก ภูเขาลูกนี้เต็มไปด้วยป่ารกชัฏ หมู่บ้านก็มีไม่กี่หลังคาเรือน เวลาลงมาจากบนเขาบิณฑบาตในหมู่บ้าน ก็ลำบากมากหินภูเขาลูกนี้เมื่อเวลาถูกฝนจะเป็นตะไคร่น้ำลื่นมาก บางทีล้มกลิ้ง คนไปทางบาตรไปทาง อาหารบิณฑบาตก็ไม่ค่อยได้อะไร ส่วนใหญ่ก็ได้กล้วยป่า ขนุนป่า วันไหนได้ไข่ต้มก็ถือว่าดีเลิศแล้ว
สมัยที่มาอยู่ที่ถ้ำสาริกาใหม่ๆ ท่านก็ทำกิจวัตรคือต้มน้ำดื่มน้ำใช้อาบมาสรงน้ำพระอาจารย์ของท่านอยู่ทุกๆ วัน วันหนึ่งได้เห็นสตรีสามนางยืนอยู่หน้าถ้ำ ได้ถามท่านว่า ทำอะไรหรือพระคุณเจ้า หลวงปู่เจือ ก็สงสัยว่า บนเขานี้ มีผู้หญิงขึ้นเขามาได้อย่างไร เธอเป็นผู้หญิงที่หน้าตาสวยมากเสียด้วย แต่ทำไมถึงได้ขึ้นเขามา ท่านก็ไม่ได้ไต่ถาม เพียงแค่ตอบว่า ต้มน้ำถวายครูบาอาจารย์ แล้วก็บอกกับตัวเองว่า "เราไม่มีหน้าที่สนใจเขา เราเป็นนักบวช" แล้วท่านก็ทำธุระของท่านต่อไป ไม่ได้สนใจ จากนั้นสตรีสามนางก็ค่อยๆจางหายไป
ในวันที่สอง สตรีสามนางก็มาถามท่านในทำนองเดียวกันอีก แต่วันนี้มาในรูปของคนแก่ ท่านก็ไม่สนใจ ทำกิจธุระของท่านต่อไป ในวันที่สามสตรีก็มาปรากฏให้ท่านเห็นขณะต้มน้ำอีก ท่านก็ไม่สนใจทำกิจธุระของท่านเช่นที่เคยทำทุกๆวัน แต่คราวนี้หลังจากนั้น สตรีค่อยๆกลายรูปเป็นรูปของคนเจ็บ แล้วค่อยๆตายลง ร่างกายขึ้นอืด เน่าเฟะสยดสยอง หลวงปู่เจือ ก็ได้ยืนพิจารณาเป็นกฏไตรลักษณ์ หลังจากนั้นร่างสตรีนั้นก็ได้มลายหายสิ้นไป ท่านคิดว่าคงเป็นเทวดา มาลองใจท่านแน่ๆ
อยู่ที่ถ้ำสาริกา มาได้สี่เดือน ท่านพระอาจารย์มหาสมบูรณ์ ได้บอกว่า ที่ๆแห่งนี้เป็นที่เก่าของท่าน ส่วนผมจะไปหาภาวนาที่อื่น ต่อไปให้ท่านอยู่พัฒนาที่แห่งนี้ต่อไป เพราะถือเป็นสัปปายะสถานเก่าของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หลังจากนั้น หลวงปู่เจือ ต้องอยู่ปฏิบัติธรรมเพียงรูปเดียวมาตลอด
ที่ถ้ำสาริกานี้ ถือว่าสัปปายะมาก มีความสงบวิเวกภาวนาได้ดี มีอยู่ครั้งนึงชาวบ้านได้แห่ขึ้นมาบนเขา ขึ้นมาถามท่านพระอาจารย์เจือ ว่า บนเขานี้มีงานอะไร พวกเขามองเห็นเวลาค่ำคืนถึงได้มีแสงสว่างไสวมากบนเขาลูกนี้ สว่างมากเหมือนอย่างกับตอนกลางวัน หลวงปู่เจือ ก็ตอบว่า ไม่มีอะไรนี่ ท่านอยู่บนเขานี้เพียงรูปเดียว จะจุดไฟจุดตะเกียงก็เปล่า ชาวบ้านเขาบอกว่า บนเขานี้สว่างมากจริงๆ สว่างเหมือนกับตอนกลางวัน เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็น จึงสงสัย พากันขึ้นมาดูนี้แหละท่าน
สำหรับวัดถ้ำสาริกา เป็นวัดสังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุต ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.๒๔๕๓ โดยองค์พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้เดินธุดงค์มาพักปฏิบัติธรรมที่ถ้ำสาริกา เดิมทีที่ถ้ำสาริกานี้มีพระมาปลักกลดแล้วมรณภาพลงอยู่หลายรูปก่อนที่หลวงปู่มั่น จะเดินทางมาถึง เพราะที่ถ้ำสาริกานี้ เป็นที่ผีหวง คือมียักษ์ดุร้ายเป็นภูมิเจ้าที่ จนภายหลังยอมคลายทิฏฐิยอมสยบลงให้กับหลวงปู่มั่น แล้วที่นี่เองที่หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้คุณธรรมบรรลุอนาคามีผล ที่ “ถ้ำสาริกา” แห่งนี้ จึงเป็น “ธรรมสถานของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พระบูรพาจารย์ใหญ่ฝ่ายพระกัมมัฏฐาน”
ภายหลังได้มีพระธุดงค์รูปอื่นๆ มาพักปฏิบัติธรรมเป็นประจำและได้พัฒนาวัดมาโดยลำดับ จนถึงปี พ.ศ.๒๕๑๘ พระครูปลัดเจือ กิจฺจธโร ได้มาพักปฏิบัติธรรม และพัฒนาวัดโดยก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆ ขึ้นใหม่ หลายรายการ โดยได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๑๘ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๓๖ ตั้งอยู่บนเนื้อที่ ๒๕ ไร่ มีอาคารเสนาสนะประกอบด้วย อุโบสถ สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๖ ศาลาการเปรียญ สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๓๖ วิหาร สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๓๐ ปูชนียวัตถุ มีพระพุทธรูปปูนปั้นปางสมาธิ สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๔๘๐ รูปเหมือนหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต(รูปหล่อโลหะ) สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๘ มีโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม เปิดสอนเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๐
หลวงปู่เจือ กิจฺจธโร จึงเป็นทั้งพระนักพัฒนา และทั้งพระกัมมัฏฐานที่คอยอบรมสั่งสอนลูกศิษย์ให้ดำเนินแนวตามธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และตามรอยปฏิปทาพ่อแม่ครูอาจารย์ คือไม่หวาดหวั่นพรั่นพรึงต่อมรณภัย ท่านได้ปฏิเสธการรักษาต่อแล้วได้กราบลาหลวงปู่มั่น ภูริทัตโตด้วยการอธิฐานจิต หลังจากนั้นเพียง ๓ วันท่านก็ละสังขารลง
#กาลละสังขาร
หลวงปู่เจือ กิจฺจธโร ละสังขารลงเมื่อวันจันทร์ ที่ ๑๖ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๖ ตรงกับวันขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะเส็ง เวลาประมาณ ๑๖.๐๐ น. สิริอายุรวม ๘๔ ปี ๗ วัน ในพรรษานี้เป็นพรรษาที่ ๔๑ ขององค์ท่าน ( ๒๕๕๖ )
"..จะโลภไปทำไมไม่ช้าก็ตาย มาก็ไม่มีอะไร แล้วจะไปเอาอะไรไปได้ละ นอกจากบุญกุศลเท่านั้นแหละ.."
โอวาทธรรมคำสอนพ่อแม่ครับอาจารบ์
หลวงปู่เจือ กิจฺจธโร
วัดถ้ำสาริกา ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก
Cr.หนังสือประวัติองค์หลวงปู่เจือ กิจฺจธโร อนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงสรีระสังขาร ; พิมพ์ปี กันยายน ๒๕๕๖
อนุโมทนาบุญกุศลจากการอ่าน
ขอขอบคุณ อนุโมทนาบุญผู้รวบรวม เผยแพร่ FBพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ขอสรรพมงคลจงมีแด่ท่าน
สวัสดี.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น