ชีวประวัติ ปฏิปทาหลวงปู่สังข์ สังกิจโจ วัดป่าอาจารย์ตื้อ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
วันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๗ เป็นวันครบรอบ ๙๔ ปี ชาตกาล หลวงปู่สังข์ สังกิจโจ วัดป่าอาจารย์ตื้อ ต.สันมหาพน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
หลวงปู่สังข์ สังกิจโจ มีนามเดิมว่า สังข์ คะลีล้วน เกิด วันที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๓ ณ บ้านข่า อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม บิดาชื่อนายเฮ้า มารดาชื่อนางลับ คะลีล้วน มีพี่ชายติดโยมบิดา ๑ คน มีพี่ชายติดโยมมารดา ๑ คน มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกันจำนวน ๔ คน ท่านเป็นลูกชายคนที่ ๑
ท่านเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ซื่งถือว่าสูงสุดในสมัยนั้น จากนั้นได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ิอ อายุ ๑๘ ปี ณ พัทธสีมา วัดศรีเทพประดิษฐาราม อ.เมือง จ.นครพนม โดยมีพระสารภาณมุนี (จันทร์ เขมิโย) เป็นพระอุปัชฌาย์ (ต่อมาได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระเทพสิทธาจารย์) และได้มาจำพรรษาที่วัดอรัญญวิเวกบ้านข่า อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ซื่งเป็นบ้านเกิด
เมื่อครั้งที่หลวงปู่สังข์เป็นสามเณร หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้มาพำนักที่วัดป่าบ้านหนองผือนาใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร หลวงปู่สังข์ก็ได้มีโอกาสไปรับฟังพระธรรมเทศนาจากหลวงปู่มั่น ภูริทัตโตโดยตรง แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจเพราะยังเป็นเด็กอยู่ ท่านเป็นสามเณรอยู่ 3 ปี สามารถสอบนักธรรมชั้นตรี โท ได้จากสนามสอบวัดศรีชม ซึ่งเป็นวัดบ้าน เพราะยุคนั้นสนามสอบของคณะธรรมยุตยังไม่มี
หลวงปู่สังข์ได้ออกติดตามหาหลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม ซึ่งมีศักดิ์เป็นญาติทางยาย คือปู่ของหลวงปู่ตื้อ เป็นพี่ชายของคุณยายของท่าน ได้ยินแต่กิตติศัพท์ของหลวงปู่ตื้อมานาน แต่ไม่เคยเห็นตัวจริงมาก่อน เลยจึงอยากจะออกติดตามหาหลวงปู่ตื้อ มีพระและญาติโยมขึ้นมาเชียงใหม่เป็นครั้งแรก โดยมีพี่ชายของหลวงปู่ตื้อ มีพระและญาติโยมตามมาด้วยซึ่งเมื่อถึงจังหวัดเชียงใหม่แล้ว ก็เข้าพักที่จังหวัดเชียงใหม่ก่อน ได้ยินว่าหลวงปู่ตื้อจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าดาราภิรมย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ จึงตามไปพบท่านที่วัดป่าดาราภิรมย์ เมื่อได้พบหลวงปู่ตื้อแล้วก็พักอยู่ที่วัดป่าดาราภิรมย์ระยะหนึ่ง จึงเดินทางกลับบ้านเกิดท่าน
ต่อมาได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ในปี พ.ศ. ๒๔๙๓ อายุ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ณ พัทธสีมา วัดป่าบ้านสามผง อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม โดยมีพระอาจารย์เกิ่ง อธิมุตตโก เป็นพระอุปัชฌาย์ พระทัด เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์บุญส่ง โสปโก เป็นพระอนุสาวนาจารย์
พ.ศ. ๒๔๙๓ เมื่ออุปสมบทแล้ว ก็อยู่จำพรรษาที่วัดป่าบ้านสามผงกับพระอุปัชฌาย์เป็นเวลา ๕ ปี ท่านสอบนักธรรมชั้นเอกได้ที่วัดป่าบ้านสามผงแห่งนี้ แล้วทำหน้าที่เป็นครูสอนนักธรรมช่วยพระอุปัชฌาย์
จากนั้นปี พ.ศ. ๒๔๙๙ ท่านจึงออกเดินทางขึ้นเหนือ เพื่อมาอยู่กับหลวงปู่ตื้อ อจลธมโม ที่วัดป่าดาราภิรมย์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ที่นี่ท่านได้เรียนบาลีไวยากรณ์กับพระมหามณี พยอมยงย์ จนจบชั้นหนึ่ง สอบได้แล้วจึงหยุดเรียน เพราะจิตใจใฝ่ในทางธุดงค์มากกว่า ท่านจึงได้ออกวิเวกแถบจังหวัดเชียงราย โดยมีพระอาจารย์ไท ฐานุตตโม วัดเขาพุนก อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เป็นสหธรรมิก เที่ยววิเวกไปด้วยกัน ได้พบพระอาจารย์มหาทองอินทร์ กุสลจิตโต ที่วัดถ้ำผาจรุย อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย
หลวงปู่ตื้อ อจลธมโม ได้สร้างวัดป่าสามัคคีธรรม ขึ้นที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดป่าอาจารย์ตื้อ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อปีพ.ศ. ๒๕๐๙ หลวงปู่สังข์ สังกิจโจ ได้กลับจากเที่ยววิเวกมาจำพรรษากับหลวงปู่ตื้อที่วัดป่าอาจารย์ตื้อ ได้พัฒนาและบูรณะวัดนี้มาตลอด
ในปี พ.ศ. ๒๕๒๓ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดป่าอาจารย์ตื้ออย่างเป็นทางการ ได้สร้างอุโบสถหนึ่งหลัง ในปีพ.ศ. ๒๕๓๘ ได้รับพระราชสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ฝ่ายวิปัสสนาธุระที่ พระครูภาวนาภิรัต หลวงปู่สังข์ สังกิจโจ จำพรรษาอยู่ที่วัดป่าอาจารย์ตื้อเรื่อยมา เป็นเวลากว่า ๕๕ ปี “หลวงปู่สังข์ สังกิจฺโจ” แห่งวัดป่าอาจารย์ตื้อ บ้านปากทาง ต.สันมหาพน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ได้ละสังขารอย่างสงบ เมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๕ สิริอายุ ๙๑ ปี พรรษา ๗๒ ท่ามกลางความอาลัยของบรรดาลูกศิษย์
ขอนอบน้อมพระอริยสงฆ์ด้วยเศียรเกล้า
อนุโมทนาบุญกุศลจากการอ่าน
ขอขอบคุณ อนุโมทนาบุญผู้รวบรวม เผยแพร่ FBพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ขอสรรพมงคลจงมีแด่ท่าน
สวัสดี.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น