ชีวประวัติ ปฏิปทาหลวงปู่เมือย กตปุญฺโญ วัดบูรพาราม๒ บ.ตากูก ต.ตากูก อ.เขวาสินรินทร์ จ.สุรินทร์
ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่เมือย กตปุญโญ
วันที่ ๑๗ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๗ เป็นวันครบรอบ ๔ ปี การละสังขาร พระครูไพศาลศีลพรต หรือ หลวงปู่เมือย กตปุญโญ วัดบูรพาราม ๒ บ.ตากูก ต.ตากูก อ.เขวาสินรินทร์ จ.สุรินทร์ หลวงปู่ละสังขาร ณ กุฏิวัดบูรพาราม ๒ วันพฤหัสบดี ที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๖๓ เมื่อเวลา ๑๑.๒๖ นาที สิริอายุรวม ๙๐ ปี ๔๙ พรรษา ( ๒๕๖๓ )
" กรรมฐานกลัวการเกิด ไม่ได้กลัวการตาย "
พ่อแม่ครูบาอาจารย์หลวงปู่เมือย กตปุญโญ
พระอริยสงฆ์ผู้ทรงคุณอันประเสริฐแห่งแดนอีสานใต้
พระครูไพศาลศีลพรต หลวงปู่เมือย กตปุญโญ
แห่งวัดป่าบูรพาราม๒ ต.ตากูก อ.เขวาสินรินทร์ จ.สุรินทร์ องค์หลวงปู่เมือย ท่านได้รับการรับรองคุณธรรมภายในใจจาก องค์หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ แล้วว่า " ในตอนนี้ภายในของท่านเมือยขาวสะอาดแล้ว "
(จากคำบอกเล่าของ พระสังวรญาณ หลวงปู่เจ้าคุณแผ่นทอง จาครโต)
พระครูไพศาลศีลพรต (หลวงปู่เมือย กตปุญโญ)
วัดบูรพาราม ๒ ต.ตากูก อ.เขวาสินรินทร์ จ.สุรินทร์
ท่านเป็นศิษย์โดยตรงในพระราชวุฒาจารย์ (หลวงปู่ดุลย์ อตุโล) หลวงปู่ฝั้น อาจาโร, หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ
(ซึ่งท่านได้รับการรับรองในธรรมภายในจาก หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ แล้วว่า ในตอนนี้ท่านเมือยขาวสะอาดแล้ว วัดนี้ใครจะมาสร้างก็ไม่ได้ถ้าไม่ใช่ ท่านเมือย คือวัดบูรพาราม๒ ในสมัยนั้น ที่ท่านได้มาเป็นผู้บุกเบิกในการสร้างวัตถุถารต่างๆขึ้นจากที่ไร่นากลายเป็นวัดที่สง่างามแบบพระป่าผู้เรียบง่ายสมถะ ท่านเป็นผู้ลงมือในการก่อสร้างเองด้วยตัวท่านเอง ท่านเมือย เป็นคนเด็ดขาดในการปฏิบัติ เอาจริงเอาจัง) จากคำบอกเล่าของ หลวงปู่แผ่นทอง จาคฺรโต ที่เมตตาเล่าให้ฟัง ซึ่งท่านทั้งสอง เป็นสหธรรมิก ที่สนิทสนมกันมาตลอด ปฏิปทาของท่านนั้นเรียบง่ายงดงามสมภูมิพระกรรมฐานยิ่งนัก
วัดบูรพาราม ๒ แห่งนี้ เดิมเป็นที่ดินของพระโพธิธรรมาจารย์เถร (หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ) ได้มอบไว้ให้สร้างวัด และบ้านตากูกก็เป็นบ้านเกิดของท่านด้วย พระอุโบสถที่วัดนี้ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เคยเสด็จมาเป็นองค์ประธานในการวางศิลาฤกษ์ด้วย นับได้ว่าเป็นแผ่นดินธรรมอีกแห่งหนึ่งที่พระอริยเจ้ามาเยือนบ่อยครั้งเลยก็ว่าได้
" บวชได้ ๗ วัน ท่องจำปาฏิโมกข์ได้ "
หลวงปู่เมือย กตปุญโญ เมื่อครั้งองค์ท่านยังมีธาตุขันธ์แข็งแรงองค์ท่านสวดปาฏิโมกข์ได้ไพเราะและเร็วมากอีกทั้งยังเปล่งเสียงถูกตามอักขรฐานกรณ์ ไม่มีสะดุด จนทำให้ผู้ทวนปาฏิโมกข์เปิดหนังสือตามไม่ทัน ความอัศจรรย์อีกอย่างหนึ่งขององค์ท่านคือบวชได้เพียง 7 วัน ก็สามารถท่องจำปาฏิโมกข์ได้
หลวงปู่ดุลย์ อตุโล ท่านได้ให้ความกระจ่างในส่วนนี้ไว้ว่า ท่านเมือย มีของเก่า(ในอดีตชาติ)ติดมาเยอะ
เป็นที่เล่าขานมากในหมู่ลูกศิษย์ใกล้ชิดองค์หลวงปู่เมือย
เมตตาถ่ายทอดให้ฟังโดย พระอาจารย์แดง จ.ชลบุรี
ท่านได้ศึกษาข้อวัตรและจำพรรษาอยู่ร่วมกับหลวงปู่เมือยตั้งแต่ช่วงต้นจนกระทั้งช่วงกลาง ท่านได้ปลีกวิเวกออกไปจำพรรษาที่ จ.ชลบุรี และกลับมาร่วมงานศพของครูบาอาจารย์ท่าน
" หลวงปู่กับงูยักษ์ที่ถ้ำศรีแก้ว "
เมื่อครั้งที่หลวงปู่เมือง กตปุญโญ ไปฝึกจิตตภาวนาเอาข้ออรรถข้อธรรมภายใต้ร่มธรรมของพ่อแม่ครูบาอาจารย์องค์หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ องค์หลวงปู่เมือยท่านเมตตาเล่าให้ฟังว่าเวลาที่องค์ท่านจะออกบิณฑบาตยามเช้าจะมีงูมาปรากฏให้องค์ท่านใดพบเห็น งูเห่าบ้าง งูจงอางบ้าง มีขนาดลำตัวใหญ่และเยอะมากเพราะ ที่วัดถ้ำศรีแก้ว จังหวัดสกลนคร นี้ ตั้งอยู่ภายในเทือกเขาภูพานมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์จึงมีสัตว์ป่านานาชนิดที่อาศัยอยู่ร่วมกัน หลวงปู่เล่าว่าเวลาที่องค์ท่านจะออกบิณฑบาตก็จะโยนหินและองค์หลวงปู่จะกล่าววาจาว่า เราจะออกบิณฑบาตขอให้หลีกทางให้เรา งูประเภท งูจงอางและงูเห่าก็หลีกทางให้องค์หลวงปู่อย่างน่าอัศจรรย์และไม่เคยมีปรากฏว่างูเหล่านั้นจะทำร้ายหลวงปู่เลย อีกอย่างหนึ่ง ณ ถ้ำแห่งหนึ่งในป่าภูพาน จังหวัดสกลนคร จะมีงูจงอางขนาดใหญ่มาขวางทางเข้าถ้ำศิษย์อุปฐากหลวงปู่เล่าว่าถ้าพระองค์ใดมีความประพฤติ ที่ไม่ตรงต่อพระธรรมวินัยก็จะเข้าถ้ำนั้นไม่ได้เลยหรือบางองค์เข้าได้แต่ก็ต้องหนีกลางดึกเพราะงูตัวนั้นจะจ้องอาฆาตมาดร้ายอยู่ตลอดเวลาแต่เมื่อองค์หลวงปู่เมือย กตปุญโญ องค์ท่านจะเข้าฝึกปฏิบัติภาวนาที่ถ้ำแห่งนั้นปรากฏว่างูตัวนั้นไม่ทำอะไรองค์ท่านเลย และยังหลีกทางให้องค์ท่านเข้าฝึกปฏิบัติจิตตภาวนาอย่างน่าอัศจรรย์
เมื่อครั้งองค์หลวงปู่เมือยท่านไปฝึกจิตภาวนาที่วัดถ้ำศรีแก้ว จ.สกลนคร กับ หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ หลวงปู่สุวัจน์ ได้พร่ำสอนบอกแนวทางองค์หลวงปู่เมือย หลวงปู่เมือยท่านเล่าว่าบางคืนขณะที่ท่านภาวนา จะมีลูกแก้วส่องแสงเหลืองอร่ามสว่างจ้า ปรากฏอยู่ต่อหน้าท่านลูกแก้วดวงนั้นสวยงามมาก บางครั้งท่านจะเอามือไปจับ แต่ก็จับไม่ได้ ลูกแก้วดวงนั้นลอยล่องต่อหน้าองค์ท่านแล้วก็หายไปครั้งแล้วครั้งเล่า
การฝึกภาวนาของหลวงปู่ มีหลวงปู่สุวัจน์ คอยชี้แนะแนวทาง ครั้งเมื่อกราบเรียนหลวงปู่สุวัจน์ ว่า ปฏิบัติแบบนั้นอย่างนั้นปรากฏอย่างนั้นๆ หลวงปู่สุวัจน์ท่านก็เมตตาบอกกับหลวงปู่เมือยว่า " เมือย สุขกว่านี้ยังมีอยู่ " ท่านก็เร่งความเพียรมานะบากบั่นถึงขั้นเอาชีวิตเข้าแลก ครั้งเมื่อกราบเรียนหลวงปู่สุวัจน์ ท่าน ก็ปรารภเช่นเดิมว่า " เมือย สุขกว่านี้ยังมีอยู่ " จากนั้นหลวงปู่เมือยท่านเร่งความเพียรถึงขั้นสุดเอาชีวิตเป็นเดิมพันห้ำหั้นกิเลสด้วยจิตอันแน่วแน่และมั่นคง ครั้งนั้นเมื่อออกจากภาวนาแล้ว หลวงปู่เมือยท่านได้กราบเรียนหลวงปู่สุวัจน์ เช่นเดิม แต่ครั้งนี้หลวงปู่สุวัจน์ท่านได้กล่าวกับหลวงปู่เมือยว่า "เมือย ใช่แล้ว" ถึงตอนนี้ผู้เรียบเรียงมิอาจจะตีความและเอาสิ่งใดมาอ้างเพราะทราบแต่เพียงองค์หลวงปู่ทั้งสอง
" ใช่แล้ว " ได้แต่พรรณนาอย่างทราบซึ้งถึงคุณธรรมอันเราท่านทั้งหลายมิอาจทราบได้เลย
น้อมส่งองค์หลวงปู่เมือย กตปุญโญ สู่แดนธรรมอันเกษมแดนแห่งบรมสุขตามรอยบรมโพธิธรรมแห่งพระบรมศาสดา
บทความนี้ผู้เขียนได้รับฟังมาจากลูกศิษย์ขององค์หลวงปู่เมือยท่านได้ปรารภให้ฟังเป็นนัยยะแห่งคุณธรรมอันประเสริฐยิ่งขององค์หลวงปู่เมือย
Cr.ขอบคุณคุณ ธนภัท ร.
อนุโมทนาบุญกุศลจากการอ่าน
ขอขอบคุณ อนุโมทนาบุญผู้รวบรวม เผยแพร่ FBพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ขอสรรพมงคลจงมีแด่ท่าน
สวัสดี.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น