ชีวประวัติ ปฏิปทาหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล วัดดอนธาตุ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี พระอาจารย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล
วันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ เป็นวันครบรอบ ๑๖๕ ปี ชาตกาล พระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีลเถร "พระปรมาจารย์ใหญ่ฝ่ายพระกัมมัฏฐาน" วัดดอนธาตุ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี หลวงปู่เสาร์ท่านมีความเพียรเป็นเลิศ มีความสงบเสงี่ยม พูดน้อย อ่อนน้อม สุขุม และพอใจแนะนำสั่งสอนผู้อื่นทางนั้นด้วย เป็นผู้ใฝ่ใจในธุดงควัตร หนักแน่นในพระธรรมวินัย ชอบวิเวก ไม่ติดถิ่นที่อยู่ ต้องเดินธุดงค์ไปหาวิเวกเจริญสมณธรรมตามชายป่าดงพงเขาในไทย และลาว ท่านพระอาจารย์เสาร์ ผู้เป็นพระอาจารย์อบรมกรรมฐานให้กับท่านพระอาจารย์มั่น เป็นองค์แรก ผู้ที่ท่านพระอาจารย์มั่น ให้ความเคารพศรัทธา ยอมรับใช้ลงมืออุปัฏฐากท่านพระอาจารย์เสาร์ด้วยองค์ท่านเอง เหมือนเป็นพระหนุ่มเณรน้อยคอยรับใช้ครูบาอาจารย์แม้นตนเองจะมีพรรษากาลมากแล้วก็ตาม ข้อนี้เป็นการแสดงถึงความนบนอบของท่านพระอาจารย์มั่น ที่มีต่อท่านพระอาจารย์เสาร์
ท่านพระอาจารย์เสาร์ และท่านพระอาจารย์มั่น ท่านทั้งสอง ผู้เป็นพ่อแม่ครูอาจารย์อบรมสั่งสอนศิษยานุศิษย์ ท่านเป็นผู้ปูแนวทางการปฏิบัติข้อวัตรขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เคยเลือนหายให้พลิกฟื้นขึ้นมามีกำลังแผ่ขยายแนวการปฏิบัติไปทั่วภาคอีสาน จนก่อเกิดกองทัพธรรมพระกัมมัฏฐาน เข้ามาฝากตัวจากทั่วสารทิศ และน้อมนำข้อวัตรปฏิปทามายึดเป็นแบบอย่างจนถึงทุกวันนี้
• ชาติภูมิ
ท่านพระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล ถือกำเนิด ตรงกับวันที่ ๒ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๐๒ แรม ๑๔ ค่ำ เดือนยี่ ปีระกา ณ บ้านข่าโคม ต.หนองขอน อ.เมือง จ.อุบลราชธานี อุปสมบท ที่วัดใต้ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี และญัตติเป็นพระธรรมยุต ณ วัดศรีทอง(วัดศรีอุบลรัตนาราม) จ.อุบลราชธานี โดยมี ท่านพระครูทา โชติปาโล เป็นพระอุปัชฌายาจารย์
ปี พ.ศ.๒๔๓๔-๒๔๓๖ หลวงปู่เสาร์ได้ธุดงค์ผ่านหมู่บ้านคำบง อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี ได้เทศนาสั่งสอนท่านพระอาจารย์มั่น สมัยยังเป็นฆราวาสจนเกิดศรัทธาเลื่อมใสติดตามออกบวช จุดนี้เป็นความยิ่งใหญ่ของวงศ์กรรมฐานตราบจนถึงปัจจุบัน
ท่านพระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล ผู้เป็นพระอาจารย์อบรมกรรมฐานให้กับท่านพระอาจารย์มั่น เป็นองค์แรก อันถือว่าเป็นพระปรมาจารย์ใหญ่สายพระกัมมัฏฐาน ผู้ที่ท่านพระอาจารย์มั่น ให้ความเคารพศรัทธา ยอมรับใช้ลงมืออุปัฏฐากหลวงปู่เสาร์ด้วยองค์ท่านเอง เหมือนเป็นพระหนุ่มเณรน้อยคอยรับใช้ครูบาอาจารย์แม้นตนเองจะมีพรรษากาลมากแล้วก็ตาม ข้อนี้เป็นการแสดงถึงความนบนอบของท่านพระอาจารย์มั่น ที่มีต่อหลวงปู่เสาร์ ผู้เป็นพระอาจารย์
หลวงปู่เสาร์ ท่านประพฤติองค์เป็นแบบอย่างแก่สานุศิษย์มากกว่ากล่าวอบรมสั่งสอน อุปนิสัยโน้มน้าวไปทางพระปัจเจกเจ้า ไม่มีนิสัยเทศนาธรรมสั่งสอนทั่วไป
• หลวงปู่เสาร์เคยปรารถนาพระปัจเจกภูมิ_หลวงปู่มั่นเคยปรารถนาพุทธภูมิ
จากพระธรรมเทศนาของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน...อันนี้ก็ยกตัวอย่างเช่นหลวงปู่มั่นเรา ท่านเคยเล่าให้ฟัง ทีแรกท่านปรารถนาเป็นพุทธภูมิท่านว่างั้นนะ เพราะฉะนั้นลวดลายของท่านจึงมี ความรู้ความฉลาดนี้เป็นลวดลายของพุทธภูมิยังติดอยู่ในนั้นนะ ทีนี้เวลาท่านพิจารณาพอจะเข้าได้เข็มทีไร เรื่องพุทธภูมิผ่านมาแล้วท่านว่างั้นนะ จิตพอจะเข้าด้ายเข้าเข็มทีไร มันจะพุ่งทีไร พุทธภูมิจะผ่านเข้ามา ๆ ก็ทำให้อาลัยเสียดายพุทธภูมิ ถอยเสียท่านว่างั้นนะ พอกำหนดเข้าไปที่จะเข้าด้ายเข้าเข็มทีไร เรื่องพุทธภูมิจะสวนกันเข้ามาเลย เสียดายพุทธภูมิก็ถอยเสีย ทีนี้หลายครั้งต่อหลายครั้ง เอ๊ ว่าเป็นพุทธภูมิก็ไม่ได้ประมาทพระพุทธเจ้า ความสิ้นกิเลสสิ้นด้วยกัน เป็นแต่เพียงทำประโยชน์ให้โลกได้มากน้อยต่างกันกับสาวกเท่านั้นเอง เราได้แค่นี้เราก็เอาละ เราไม่ได้เป็นพระพุทธเจ้าก็ตาม ขอให้จิตบริสุทธิ์อย่างเดียวแค่นี้ก็เอาละ
พออย่างนั้นท่านก็ขอหยุดอธิษฐานเป็นพุทธภูมินะ จากนั้นจิตก็พุ่งเลยท่านว่า อย่างนั้นแล้ว อารมณ์อันนี้ไม่ครอบ นี้คือยังไม่ได้รับลัทธพยากรณ์ พระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่งยังไม่พยากรณ์ ถ้าลงได้พยากรณ์แล้วยังไงก็ลบไม่สูญเลย พุ่งถึงนั้นเลย ถึงจุดนั้นเลย เรียกว่าลบไม่สูญ ต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน ถ้ายังไม่ได้ทำนายนี้มันเอียงได้ เอียงนั้นเอียงนี้ไปได้ อย่างหลวงปู่มั่นท่านเล่าให้ฟัง เพราะฉะนั้นนิสัยพุทธภูมิของท่านจึงมีอยู่ ลวดลายของพุทธภูมิยังมี ความรู้ภายนอกภายในอะไรนี้คล่องแคล่วทุกอย่าง เรื่องจิตรวมฟาดนี้เหาะเหินฟ้า ใครจะเก่งยิ่งกว่าท่านอาจารย์มั่นวะ พึบนี้ลงพื้นปฐพีพึบไปเลย ผึงนี้ก็ขึ้นเลย อันนี้ท่านเล่าให้ฟัง จนกระทั่งท่านอาจารย์เสาร์ท่านว่า ท่านนี่มันผาดโผนเกินไป
ท่านอาจารย์เสาร์ท่านไม่ค่อยชอบพูด ท่านปรารถนาพระปัจเจกภูมิแต่ท่านก็พลิกอย่างเดียวกัน เพราะฉะนั้นนิสัยท่านจึงไม่ชอบพูด นั่งที่ไหนเหมือนหัวตอไม่พูดไม่คุยกับใครเลย ถ้าจะพูดก็ เออ พากันทำบุญนะ บาปมันเผาหัวเด้ เท่านั้นแหละไม่มาก บาปมันเผาหัวทั้งนั้นแหละ บุญเป็นความสุข เท่านั้นท่านไม่พูดมาก เป็นพระปัจเจก ทีนี้เวลาท่านอาจารย์หลวงปู่มั่นเรานี้เล่าเรื่องภาวนาสู่ท่านฟัง เล่าภาวนาทีแรกก็ฟาดไปแต่เรื่องปีติเรื่องตัวลอย สำหรับท่านหลวงปู่เสาร์นี้พอนั่งภาวนานี้ตัวลอยขึ้น ๆ ลอยทีแรกขึ้นไปได้เมตรหนึ่ง พอรู้สึก เอ๊ นี่เหมือนตัวลอย ลืมตาขึ้นมาจิตมันปล่อยหมดมันก็หนัก ตูมลงเลย เจ็บเอว โหย ตั้งหลายวันท่านว่า
คือมันเป็นทีแรกท่านสงสัย เอ๊ นี่ทำไมมันเหมือนตัวลอยน้าท่านว่างั้น เหมือนว่าตัวลอยขึ้น ๆ เลยลืมตาขึ้น ลืมตามันสูงจริง ๆ เลยตกใจ จิตเลยออก ออกก็ตูมเลยซี มันไม่มีกำลังพยุงใช่ไหมล่ะ ตั้งแต่นั้นมาท่านเลยทดลองใหม่ เอาใหม่ ทีนี้ท่านเอา เช่นอย่างท่านเอาเศษไม้หรือเอาอะไรไปเหน็บไว้ เพื่อความแน่นอนท่านว่า พอมันลอยขึ้นไป คือพยุงจิตไว้นะ นี่ละถ้ามันเจ็บแล้วต้องเข็ดเข้าใจไหม ต้องพยุง ทีนี้พยายามดูพอขึ้นไป ๆ ไปถึงหญ้า พอถึงหญ้าแล้วท่านก็เอามือคลำ จับเอาอันนี้ออกมาแล้วท่านค่อยลืมตา จิตท่านก็ยับยั้งเอาไว้นะไม่ปล่อย ถ้าปล่อยก็ตูมเลย ค่อยพยุง ๆ แล้วค่อยลง ๆ กึกถึงพื้น นี่พลังของจิตพยุงไว้ ถ้าปล่อยอย่างที่ท่านตกใจนั่นนะพอขึ้น โอ๊ย มันตก พอว่างั้นจิตมันออกหมดทั้งตัวมันก็ตูมเลย จากนั้นมาท่านก็พยุง
นี่ท่านพูดถึงเรื่องจิตของท่าน จิตของท่านเป็นอย่างนี้นะ จิตของผมมันไม่เป็นอย่างนั้นว่างั้นนะที่นี่ มันเป็นยังไงเราว่า โอ๊ย เวลามันลงนี้ฟาดนี้ทะลุแผ่นดินนี้ไม่มีเหลือพุ่งลงเลย พื้นพิภพพิเภ็บที่ไหนก็ไม่ทราบ เวลามันขึ้นก็พุ่งเลย โอ๊ย มันพิลึกท่าน ท่านไม่พูดมากละ พิลึกท่าน ท่านพูดอย่างนั้นนะ จิตของผมยังไม่เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้แหละว่า จิตของท่านมันพิลึกท่านว่า นี่คือความผาดโผนของจิตหลวงปู่มั่นเรานี้ไปแบบหนึ่ง ส่วนหลวงปู่เสาร์นี้ก็ไปอย่างนั้นแหละ ไปเรียบ ๆ นี่ก็อัฐิเป็นพระธาตุเหมือนกันนะ หลวงปู่เสาร์อัฐิก็เป็นพระธาตุ หลวงปู่มั่นก็เรียกว่าเป็นมาแล้ว นั่นก็เป็นตั้งแต่นู้นแหละ ตั้งแต่มรณภาพแล้วทีแรก หลวงปู่เสาร์ก็เป็นเหมือนกัน ท่านเป็นคู่กันนะไปที่ไหนไปด้วยกัน ท่านติดกันมาแต่นู่นแหละ นี่ละสององค์นี้เบิกกรรมฐานเรานะ จากนั้นก็หลวงปู่มั่นเป็นผู้เบิกจริง ๆ เบิกกรรมฐาน จึงได้มีร่องรอยมาจนกระทั่งทุกวันนี้มาจากหลวงปู่มั่นเรา
(ส่วนหนึ่งของพระธรรมเทศนา ของ ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสมฺปนฺโน เมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม ปีพุทธศักราช ๒๕๔๔ ณ วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี)
• หลักปฏิบัติที่ครูบาอาจารย์ให้ไว้อาศัยอยู่ตามถ้ำบ้าง_ตามโคนต้นไม้บ้าง
พระบูรพาจารย์ของเรา เราถือว่าพระอาจารย์เสาร์ กตนฺสีโล เป็นพระอาจารย์องค์แรก และเป็นผู้นำหมู่คณะลูกศิษย์ลูกหา ออกเดินธุดงคกรรมฐาน ชอบพักพิงอยู่ตามป่าตามที่วิเวก อาศัยอยู่ตามถ้ำบ้างตามโคนต้นไม้บ้าง และท่านอาจารย์มั่นก็เป็นอีกท่านหนึ่งซึ่งเป็นลูกศิษย์พระอาจารย์เสาร์ หลวงพ่อสิงห์ ขนฺตยาคโม ก็เป็นลูกศิษย์ของท่านอาจารย์เสาร์ และท่านอาจารย์มั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระอาจารย์สิงห์เปรียบเสมือนหนึ่งว่าเป็นเสนาธิการใหญ่ของกองทัพธรรม ได้นำหมู่คณะออกเดินธุดงค์ไปตามราวป่าตามเขา อยู่อัพโภกาส อยู่ตามโคนต้นไม้ อาศัยอยู่ตามถ้ำ พักพิงอาศัยอยู่ในราวป่าห่างจากหมู่บ้านประมาณ ๕๐๐ เมตร การธุดงค์ของพระอาจารย์เสาร์ พระอาจารย์มั่น พระอาจารย์สิงห์จะไม่นิยมที่จะไปปักกลดอยู่ตามละแวกบ้าน ตามสนามหญ้า หรือตามบริเวณโรงเรียน หรือใกล้ๆ กับถนนหนทางในที่ซึ่งเป็นที่ชุมนุมชน ท่านจะออกแสวงหาวิเวกในราวป่าห่างไกลกันจริงๆ
บางทีไปอยู่ในป่าเขาที่ไกล ตื่นเช้าเดินจากที่พักลงมาสู่หมู่บ้านเพื่อบิณฑบาต เมื่อบิณฑบาตเสร็จแล้ว กลับไปถึงที่พักเป็นเวลา ๑๑.๐๐ น. หรือ ๕ โมงก็มี อันนี้คือหลักการปฏิบัติของพระธุดงคกรรมฐานในสายพระอาจารย์มั่น พระอาจารย์เสาร์ ซึ่งบางทีอาจจะผิดแผกจากพระธุดงค์ในสมัยปัจจุบัน ซึ่งไปปักกลดอยู่ตามสนามหญ้า หรือตามสถานีรถไฟ ตามบริเวณโรงเรียนหรือศาลเจ้าต่างๆ พระอาจารย์เสาร์ พระอาจารย์มั่น พระอาจารย์สิงห์ ไม่นิยมทำเช่นนั้น ไปธุดงค์ก็ต้องไปป่ากันจริงๆ ที่ใดซึ่งมีอันตรายท่านก็ยิ่งไปเพื่อเป็นการทดสอบความสามารถของตัวเอง และเป็นการฝึกฝนลูกศิษย์ลูกหาให้มีความกล้าหาญเผชิญต่อภัยของชีวิต ตะล่อมจิตให้ยึดมั่นในคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างแน่วแน่
ปี พ.ศ.๒๔๘๐ เจ้าจอมมารดาทับทิมนำผ้าป่าทอดถวายและนิมนต์ท่านขึ้นแสดงธรรม ท่านขึ้นธรรมาสน์ตั้งนโม ๓ จบ กล่าวเทศนาสั้นๆว่า "ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค" จบด้วย "เอวังฯ" แล้วก้าวลงธรรมาสน์
• บรรลุธรรม
วันหนึ่ง หลวงปู่เสาร์ นั่งพิจารณาอริยสัจ ได้รู้ได้เห็นตามความเป็นจริงนั้น ท่านได้ตัดเสียซึ่งความสงสัยเด็ดขาด จวนจะถึงกาลออกพรรษา ท่านได้บอกกับพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ผู้เป็นศิษย์ว่า... "เราได้เลิกการปรารถนาเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าแล้ว และเราก็ได้เห็นตามความเป็นจริงแล้ว!"
ท่านพระอาจารย์มั่น ได้ยินดังนั้นแล้วก็เกิดปีติอย่างมาก และได้ทราบทางวาระจิตว่า...
"หลวงปู่เสาร์พบวิมุตติธรรมแน่นแล้วในอัตภาพนี้"
• วาระนิพพาน
ขณะหลวงปู่เสาร์ ท่านอาพาธหนักนั้น ท่านสั่งให้พระอาจารย์บัวพา พระอุปัฏฐาก และคณะศิษย์นำท่านไปที่วัดอำมาตย์ นครจำปาศักดิ์ ประเทศลาว โดยมาทางเรือ ตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ ท่านนอนบนแคร่ในเรือประทุน หลวงปู่เสาร์ หลับตานิ่งมาตลอด เพราะตอนนั้นท่านกำลังอาพาธหนัก อันเกิดจากผึ้งที่ได้ต่อยท่านตอนที่อยู่จำพรรษาที่วัดดอนธาตุ เมื่อถึงนครจำปาศักดิ์แล้ว ท่านลืมตาขึ้นพูดว่า... "ถึงแล้วใช่ไหม ให้นำเราไปยังอุโบสถเลย เพราะเราจะไปตายที่นั่น"
ท่านพระอาจารย์บัวพา และคณะศิษย์ช่วยกันยกแคร่หามพาหลวงปู่เสาร์ เข้าไปในอุโบสถ แล้วหลวงปู่เสาร์สั่งให้เอาผ้าสังฆาฏิมาใส่ แล้วเตรียมตัวเข้านั่งสมาธิ ท่านกราบพระ ๓ ครั้ง พอกราบครั้งที่ ๓ ท่านนิ่งงันโดยไม่ขยับเขยื้อน นานเท่านานจนผิดสังเกต ท่านพระอาจารย์บัวพา และท่านพระอาจารย์เจี๊ยะ จุนฺโท ซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ เอามือมาแตะที่จมูกท่าน ปรากฏว่าท่านหมดลมหายใจแล้ว ไม่ทราบว่าหลวงปู่เสาร์ท่านมรณภาพไปเวลาใด แต่พอสันนิษฐานได้ว่า ท่านมรณภาพในอิริยาบถนั่งกราบพระ ท่านจึงพูดขึ้นกับหมู่คณะ (ซึ่งตอนนั้นมีพระเถระผู้ใหญ่ และพระเณรมานั่งดูอาการป่วยของหลวงปู่เสาร์) ว่า "หลวงปู่ได้มรณภาพแล้ว"
ข่าวการมรณภาพ ก็แพร่กระจายไปเรื่อยๆ จนทางบ้านเมือง ญาติโยม พระเณร ชาวนครจำปาศักดิ์ขอทำบุญอยู่ ๓ วัน เพื่อบูชาคุณขององค์หลวงปู่ พอวันที่ ๔ บรรดาพระเถระ ญาติโยมชาวอุบล จึงได้มาอัญเชิญสรีระสังขารขององค์หลวงปู่เสาร์ ไปวัดบูรพาราม จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นวัดที่หลวงปู่เสาร์เคยอยู่มาก่อน วันที่หลวงปู่เสาร์มรณภาพตรงกับวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๘๔
"แต่นี้จะไกลห่าง เหลือเพียงร่างร้างชีวา
สุดสิ้นแห่งสังขาร สลายลับดับตามกาล
สิ้นชีพก็สิ้นห่วง บรรลุล่วงห้วงนิพพาน
สุขใดไหนจักปาน เปรียบสุขนี้ไม่มีเลย..."
ขอนอบน้อมกราบบูชาธรรมแห่งดวงอรหันต์
(คัดลอกจากหนังสือฐานิโยวาท หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)
• มรณภาพ
หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล เข้าสู่อนุปาทิเสสนิพพาน ตรงกับวันอังคารที่ ๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๘๔ องค์ท่านมรณภาพขณะก้มกราบพระประธาน ในอิริยาบถท่านั่ง มือสองข้างเท้ากับพื้นยันตัวอยู่ ประกอบด้วยสติอันไพบูลย์ ณ วัดอำมาตยาราม เมืองโขง นครจำปาศักดิ์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สิริอายุ ๘๒ ปี ๓ เดือน ๑ วัน ๖๒ พรรษา
“..ทำให้ดูมันยังไม่ดู ปฏิบัติให้ดูอยู่ทุกวัน มันยังไม่ปฏิบัติตาม เทศน์ให้ฟัง มันจะฟังหรือพวกเจ้า..ข้อยเฮ็ดให้เบิ่ง บ่ เบิ่ง เทศน์ให้พวกหมู่เจ้าฟัง หมู่เจ้าสิฟังฤา..” โอวาทธรรมคำสอนท่านพระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล
คัดลอกมาจากหนังสือ "พระปรมาจารย์ใหญ่สายพระกัมมัฏฐาน ท่านพระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีลเถร "; พิมพ์ปี ๒๕๔๖
อนุโมทนาบุญกุศลจากการอ่าน
ขอขอบคุณ อนุโมทนาบุญผู้รวบรวม เผยแพร่ FBพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ขอสรรพมงคลจงมีแด่ท่าน
สวัสดี.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น