ชีวประวัติ ปฏิปทาพระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร วัดป่าแก้วชุมพล ต.ค้อไต้ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร

๏ ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่สิงห์ทอง ธัมมวโร ๏ 
     วันนี้วันที่ ๒๗ เมษายน​ ๒๕๖​๗ เป็นวันคล้ายวันมรณภาพของหลวงปู่สิงห์ทอง ธัมมวโร รำลึก​ ๔๔ ปี​ อาจาร​ิ​ยบูชา​คุณ​ “พระอริยเจ้าผู้เป็นพระอรหันต์ประเภทสุขวิปัสสโก” แห่งวัดป่าแก้วชุมพล ต.ค้อใต้ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ท่านเป็นผู้เคร่งครัดปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มีปฏิปทาเที่ยงตรงต่ออริยมรรคอริยผล มีนิสัยเด็ดเดี่ยวเอาจริงเอาจัง มีความเพียรเป็นเลิศ โปรดการเดินจงกรมเป็นพิเศษ การใช้ปัจจัยสี่ก็ใช้อย่างประหยัดมัธยัสถ์ ไม่สุรุ่ยสุร่าย แม้ของนั้นจะมีมากก็ตาม ท่านไม่นิยมการก่อสร้างทุกชนิด แม้งานในวัดก็ไม่ให้มี ชอบให้พระเณรสร้างจิตใจเพื่อมรรคผลนิพพาน

ท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง เป็นพระผู้มีอารมณ์ขัน แสดงออกตรงไปตรงมา อารมณ์ดีเสมอ เทศนาและโอวาทท่านน่าฟังมาก โดยเฉพาะเมื่ออยู่กับศิษย์ใกล้ชิด ท่านจะมีเรื่องราวขำขันชวนหัวเราะอยู่เสมอ แต่เป็นหลักธรรมชวนพิจารณา

ท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง ท่านเป็นศิษย์ใกล้ชิดหลวงตามหาบัว และได้รับความไว้วางใจจากหลวงตามหาบัวเป็นพิเศษ
๑. ให้เป็นประธานฝ่ายบรรพชิตในการดำเนินงานศพของหลวงปู่บัว พระอริยเจ้าแห่งวัดป่าหนองแซง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
๒. ให้เป็นประธานดำเนินงานศพของหลวงตามหาบัว หากหลวงตาละสังขารไปก่อนท่าน

ท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง ถือกำเนิด ตรงกับวันเสาร์ที่ ๑๒ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๖๗ ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๘ ปีชวด ณ บ้านศรีฐาน ต.กระจาย อ.ลุมพุก จ.อุบลราชธานี (ปัจจุบันคือ อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร) ท่าน อุปสมบท เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๘๗ ก่อนเข้าพรรษา ๗ วัน ณ วัดป่าสำราญนิเวศน์ ต.บ้านบุ่ง อ.อำนาจเจริญ จ.อุบลราชธานี (ปัจจุบันคือ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ) โดยมี ท่านพระครูทัศนวิสุทธิ์ (พระมหาดุสิต เทวิโร) เป็นพระอุปัชฌาย์

ระหว่างจำพรรษาที่วัดป่าศรีฐานใน ท่านได้เกิดสุบินนิมิตว่า 
"มีพาหนะ ๓ ชนิดคือ ช้างเผือก, ม้าขาว และวัวอุสุภราช ท่านได้ขี่พาหนะทั้ง ๓ ตัวในขณะเดียวกัน และได้ยินเสียงดนตรีบรรเลงออกมาจากหมู่บ้าน ดังมายังศาลาวัด คล้ายชาวบ้านจะมาทอดผ้าป่าหรือทำการกุศลชนิดใดชนิดหนึ่ง แต่พอมาถึง ปรากฎว่าไม่มีคน มีแต่ดอกไม้นานชนิดลอยมาสูงระดับหน้าอกแล้วเวียนรอบศาลา ตื่นจากความฝัน ทำให้ท่านมั่นใจว่า การบวชของท่านนั้นจะบรรลุผลอันพึงพอใจ"

ในพรรษาที่ ๕ จำพรรษากับหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่าบ้านนาหัวช้าง อ.พรรณานิคม ปัจจุบันคือวัดป่าอุดมสมพร
พรรษาที่ ๖ จำพรรษากับหลวงปู่หลุย จันทสาโร วัดป่าบ้านโคกมะนาว อ.พรรณานิคม ท่านเล่าว่า.."การภาวนาเริ่มจะยาก ภาวนาผ่านทุกขเวทนาไม่ได้" ต่อสู้หลายหนแต่เอาชนะไม่ได้ -จึงนำอุบายที่หลวงตามหาบัวแนะนำ โดยให้ใช้สติปัญญาพิจารณาแยกแยะธาตุขันธ์ด้วยการตั้งสัจจะว่า.."จะสู้กับทุกขเวทนี้แบบสละชีวิต เพื่อให้รู้เห็นความจริงของทุกข์ ถึงแม้จะปวดหนักปวดเบาขนาดไหน จะไม่ยอมลุกหนี จะปล่อยให้มันออกมาเลย - ถ้าผ่านทุกขเวทนี้ไม่ได้แล้ว จะไม่ยอมลุกจากที่นั่งเด็ดขาด" ท่านต่อสู้อยู่นานหลายชั่วโมง ปรากฎว่าท่านผ่านไปได้ จิตสงบรวมลงน่าอัศจรรย์ ทำให้ท่านมีกำลังใจในการปฏิบัติอย่างมาก

ท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร วิเวกไป อ.สว่างแดนดิน, อ.ส่องดาว, อ.วาริชภูมิ ได้ไปพักกับหลวงปู่ขาว อนาลโย ขณะพักที่บ้านหวายสะนอย (ภูเหล็ก) อ.ส่องดาวกับหลวงปู่ขาวนั้น ท่านว่าการภาวนาดีมาก นอนนิดเดียวก็อิ่ม จิตสงบละเอียดดีมาก
พรรษาที่ ๙-๑๑ ปี พ.ศ.๒๔๙๕-๒๔๙๗ ท่านจำพรรษากับหลวงตามหาบัว ที่บ้านห้วยทราย อ.คำชะอี มุกดาหาร
พรรษาที่ ๑๓-๑๖ ปี พ.ศ.๒๔๙๙-๒๕๐๒ ท่านจำพรรษากับหลวงตามหาบัวที่วัดป่าบ้านตาด อุดร
ปี พ.ศ.๒๕๐๘ หลวงปู่ขาว อนาลโยได้แนะนำให้ชาวบ้านชุมพล ไปนิมนต์ท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร มาอยู่เป็นเจ้าอาวาสวัดป่าแก้วชุมพล

ท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร ท่านได้เข้าสู่อนุปาทิเสสนิพพาน ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๒๗ เมษายน พ.ศ.๒๕๒๓ สิริอายุ ๕๖ ปี พรรษา ๓๖ ด้วยอุปัทวเหตุเครื่องบินตก ณ ท้องนาทุ่งรังสิต อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พร้อมกับหลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม, หลวงปู่วัน อุตฺตโม, หลวงปู่จวน กุลเชฏโฐ , ท่านพระอาจารย์สุพัฒน์ สุขกาโม

หลวงปู่หลุย จันทสาโร เมตตาเล่าถึงบุพกรรมที่ทำให้ครูบาอาจารย์ทั้ง ๕ รูป ต้องเครื่องบินตก 

ในอดีตชาติที่นานเนมาแล้ว ท่านทั้ง ๕ (พระอาจารย์วัน อุตฺตโม พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ พระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร พระอาจารย์บุญมา ฐิตเปโม และพระอาจารย์สุพัฒ สุขกาโร) เกิดในสกุลชาวนาที่ยากจน ต้องขวนขวายหาเลี้ยงชีพไปวัน ๆ ทั้งห้าคนเป็นเพื่อนที่คุ้นเคยกันมา เมื่อยังเด็กได้จูงควายออกไปเลี้ยงพร้อมกัน ผูกควายกันแล้วก็พากันเล่นและออกหากบเขียดไปเป็นอาหารประสาจน

ทีนี้ ๑ ใน ๕ เกิดไปเห็นรังนกเข้า ก็ช่วยกันหาไม้เขี่ยรังนกให้ตกลงมาเพื่อหวังเอาไข่นกไปกิน แต่เมื่อรังนกตกลงมากลับกลายเป็นลูกนก ๓ ตัวแล้วตายสิ้น ไม่ใช่ไข่นกดังที่เข้าใจ ด้วยวิบากกรรมอันนี้ส่งผลให้ท่านทั้ง ๕ ต้องตกจากที่สูงมามรณภาพ ในเครื่องบินลำนั้นมีคุณหญิงท่านหนึ่งกลับจากไปปฏิบัติธรรมกับท่านพระอาจารย์จวนมาด้วย ท่านเลยมาสิ้นชีวิตพร้อมกัน

ในอดีต ขณะที่เด็กชายทั้ง ๕ กำลังเขี่ยรังนกอยู่นั้น เด็กหญิงลูกชาวนาผู้เป็นน้องสาวของ ๑ ใน ๕ คนก็มายืนเชียร์อยู่ข้างๆ “จะหล่นแล้ว...จะหล่นแล้ว” โดยเธอไม่ได้ลงมือทำ เด็กหญิงในภพนั้นคือคุณหญิงในภพนี้ ก็เพียงมีจิตคิดยินดีในการประกอบอกุศลกรรมของผู้อื่น วิบากนั้นยังส่งผลมาให้เกิดในภพชาติเดียวกัน บันดาลให้ไปตกเครื่องบินพร้อมกัน แล้วถ้าทำเองเล่า

ถึงตรงนี้ หลวงปู่หลุยก็สั่งว่า อย่าไปยินดีในการทำชั่วของคนอื่น เพราะเราจะมีส่วนในบาปนั้นด้วย แต่ให้ยินดีในการประกอบคุณงามความดีของตนและของคนอื่น เพราะจะได้แต่บุญโดยฝ่ายเดียว

“..รูปที่เป็นอยู่ เป็นของสกปรกทั้งนั้น ไม่ว่ารูปหญิง รูปชาย รูปพระ รูปฆราวาส เป็นเหมือนกันหมด เหตุใดมันจึงเป็นอย่างนั้น ของที่เราขบฉันรับประทานลงไปเป็นของเน่า ของเหม็น ของเสียทั้งนั้น ไม่ใช่ของดิบของดีอะไร เป็นต้มเป็นแกง เป็นผัดเป็นทอดต่างๆ ถ้าเราทิ้งเอาไว้ ของเหล่านั้นจะเน่า จะเหม็น จะเสีย อยู่ไปคืนสองคืนมีกลิ่นแล้ว นี่ร่างกายของเราที่เอาของเน่าของเหม็นมาบำรุงบำเรอ มันก็เป็นก้อนของเน่า ของเหม็นปฏิกูล ไม่ใช่ของสวยงามอะไร เพราะเหตุนั้น ในร่างกายของเราทั่วไป ไหลออกทางทวารใดก็มีแต่ของสกปรกเน่าเหม็น ไม่เป็นของดิบของดี ของหอมหวาน มีแต่ของเน่า เพียงแต่ลมออกมาเท่านั้น มันก็ยังมีกลิ่น แสดงว่ามันเน่าทั้งตัว มันเหม็นทั้งตัว ไม่มีอะไรที่จะดีวิเศษ..” โอวาทธรรมคำสอนท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร


-------
ขอนอบน้อมพระอริยสงฆ์ด้วยเศียรเกล้า
กราบขอบพระคุณ อนุโมทนาบุญผู้รวบรวมFB พระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
อนุโมทนาบุญกุศลจากการอ่าน
สวัสดี.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชีวประวัติ ปฏิปาพระอาจารย์อัครเดช (พระอาจารย์ตั๋น) ถิรจิตฺโต วัดบุญญาวาส ต.บ่อทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี

ประวัติหลวงปู่แว่น ธนปาโล วัดถ้ำพระสบาย บ.หนองถ้อย ต.นาครัว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง

หางานในกรุงเทพ ตกงาน หรือว่างงาน มา Samco