ชีวประวัติ ปฏิปทาหลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม วัดป่าสิริสาลวัน อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู
๏ ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม ๏
วันนี้วันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๖๗ เป็นวันคล้ายวันมรณภาพของหลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม รำลึก ๔๔ ปี อาจาริยบูชาคุณ พระมหาเถราจารย์ฝ่ายพระกัมมัฏฐาน ศิษย์อาวุโสในสายองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต รูปหนึ่ง หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม แห่งวัดป่าสิริสาลวัน อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ท่านเคยมีประสบการณ์เดินธุดงคกรรมฐานอยู่มาก ท่านเคยได้อยู่อุปัฎฐากรับใช้ใกล้ชิดกับ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เป็นเวลายาวนานถึง ๖ พรรษา ซึ่งรวมชีวิตแห่งการออกปฏิบัติธรรมเที่ยวแสวงหาวิโมกข์นั้น เป็นเวลาถึง ๔๕ พรรษา
หลวงปู่บุญมา ท่านถือกำเนิด ตรงกับวันพุธที่ ๒๓ เมษายน พ.ศ.๒๔๔๕ ปีขาล แรม ๑ ค่ำ เดือน ๕ ได้กำเนิดเกิดมาท่ามกลางป่าเขาและท้องทุ่งอันเขียวขจี ณ บ้านก่อ ต.หนองไข่นก อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี ได้นามว่า “บุญมา” ในสกุล “เป็นมงคล” หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม ท่านเป็นพระหลานชายของพระอาจารย์บุญ ครั้งยังอยู่ในเพศฆราวาสท่านได้ช่วยเหลือรับใช้ช่วยบิดามารดาประกอบการงานโดยตลอด อยู่จนกระทั่งอายุได้ ๑๙ ปีเต็ม ท่านจึงได้สละการงานทางบ้านหมด เข้าบรรพชาเป็นสามเณร ซึ่งปีนั้นตรงกับปี พ.ศ.๒๔๖๔ ณ วัดหนองอีมาตรบ้านก่อ จ.อุบลราชธานี
ขณะเป็นสามเณรท่านได้ศึกษาพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งปฏิบัติภาวนา รักษาจิตใจท่านไปด้วย การปฏิบัติภาวนานี้ ท่านได้เคยกระทำมาแล้วตั้งแต่สมัยเป็นฆราวาส ท่านเห็นผู้หลักผู้ใหญ่ซึ่งมี ท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) มาโปรดญาติพี่น้องอยู่เป็นประจำ ๆ ท่านจึงอาศัยหลัก พุท-โธ นั้น เป็นเครื่องดำเนินมาโดยตลอด พร้อมทั้งความสันโดษ รักสงบมุ่งภาวนามาแต่บัดนั้น
เมื่ออายุ ๒๐ ปี จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุฝ่ายธรรมยุติกนิกาย เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๒ มกราคม พ.ศ.๒๔๖๕ ณ วัดสร่างโศก อ.ยโสธร จ.อุบลราชธานี (ปัจจุบันคือ วัดศรีธรรมาราม อ.เมือง จ.ยโสธร) เมื่อบวชเป็นพระแล้ว ท่านก็ได้รับความเมตตาจาก พระอาจารย์บุญ ปัญญาวุโธ โดยพระอาจารย์บุญเป็นพระกรรมฐานที่รับการอบรมธรรมมาจากท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ ซึ่งขณะนั้นหลวงปู่บุญมายังเป็นพระภิกษุหนุ่ม ท่านได้รับอุบายธรรมตลอดการเดินธุดงค์ท่องเที่ยวหาวิเวกธรรมไปอยู่ป่าพงดงลึก ถวายตัวเป็นศิษย์อยู่ปฏิบัติพระอาจารย์บุญ จนกระทั่งพระอาจารย์บุญได้มรณภาพ นอกจากนี้แล้วท่านยังได้มาฝึกอบรมธรรมปฏิบัติ และพระวินัยธรรมกับท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ ติดตามเดินธุดงค์ไปในถิ่นต่างๆ อีก ๓ พรรษา ได้รับคุณวิเศษในธรรมะอย่างมากมาย เพิ่มพูนสติปัญญา ศีลาจริยาวัตรในเพศสมณะอีก เป็นพระอาจารย์องค์ที่ ๒ ของหลวงปู่ท่าน
ระยะหลัง ๆ ท่านได้มีโอกาสเข้าไปมอบกายถวายตัวเป็นศิษย์ของ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อีกทั้งได้รับฟังพระธรรมเทศนาที่สุขุมล้ำลึก ติดตามออกเดินธุดงค์เพื่อแสวงหาสัจธรรมตามป่าเขาลำเนาไพร และได้ใกล้ชิดกับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต นานถึง ๖ พรรษา นับได้ว่าท่านเป็นศิษย์อาวุโสของหลวงปู่มั่นองค์หนึ่ง โดยท่านมีพรรษามากกว่าหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ๑ พรรษา และมากกว่าหลวงปู่ขาว อนาลโย-หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ๓ พรรษา
ท่านเป็นพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติตรง ถือพระธรรมวินัยที่พระพุทธเจ้าทรงประกาศไว้อย่างเคร่งครัด ถือปฏิบัติตามหลักไตรสิกขา อันประกอบด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา ๓ ประการนี้ จากครูบาอาจารย์อย่างมั่นคง ออกเดินธุดงค์เดี่ยวอยู่ป่าดงอย่างคนอนาถา นอนกลางดินกินกลางทรายจริงๆ แม้ถ้าได้พบกับสภาพของท่านในคราวเดินธุดงค์ ก็เป็นอาการภายนอกซึ่งไม่น่าดูไม่น่าชมอันใด แต่อาการภายในของจิตนี่ซี ท่านเป็นที่น่าเลื่อมใสศรัทธายิ่งนัก ท่านเป็นพระสุปฏิปันโน ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ควรแก่การกราบไหว้สักการบูชาองค์หนึ่งในยุคนี้
ท่านเป็นพระผู้เจียมตนอยู่เสมอ ท่านเป็นพระพูดน้อย แต่เวลาแสดงธรรมแล้วหลวงปู่จะแสดงเหตุผลได้อย่างน่าอัศจรรย์ แสดงชนิดขุดถอนกิเลสกันเลยทีเดียว เพราะจิตใจมนุษย์นี้มันไหลลงไปสู่ที่ต่ำอยู่เสมอ (ความชั่วร้าย) ปฏิปทาอันบริสุทธิ์งดงามประกอบด้วยคุณธรรมสูงองค์หนึ่ง เป็นที่ยอมรับของประชาชนทั่วไปว่าท่านเป็นพระอริยสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าที่เคร่งครัดเป็นอย่างยิ่ง ท่านเป็นพระสงฆ์ที่พูดน้อย สุภาพอ่อนโยน รักสันโดษ เป็นที่เคารพของครูบาอาจารย์ฝ่ายปฏิบัติหลายองค์ในปัจจุบัน
หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม ท่านมรณภาพ เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๗ เมษายน พ.ศ.๒๕๒๓ เวลาประมาณ ๑๔.๐๐ น. สิริอายุ ๗๘ ปี พรรษา ๕๘ ด้วยอุปัทวเหตุเครื่องบินตกบริเวณท้องนาทุ่งรังสิต ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พร้อมกับคณาจารย์อีก ๔ รูปคือ ท่านพระอาจารย์วัน อุตฺตโม , ท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ , ท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร และท่านพระอาจารย์สุพัฒน์ สุขกาโม
“..รูป รส กลิ่น เสียง เหล่านี้ เราทั้งหลายจงพยายามมองดูให้ลึกซึ้งเข้าไปในต้นเหตุของมัน เพราะสิ่งเหล่านี้แม้ไม่มีรูปร่างหน้าตาแล้ว ไม่รู้ว่าจะเอาอะไรไปหลงนะ ทำไมไม่ทำความรู้สึกเหมือนกับเราหายใจเอาลมเข้าไปบ้างล่ะ ลมมันไม่มั่นหมายอะไรเลยนะ มันพัดไปมาของมันเท่านั้น ไม่มีกลิ่น ไม่มีรูป ไม่มีน้ำหนัก บางทีเรายุ่งๆ ลืมเสียด้วยซ้ำไปว่าเราได้หายใจเอาลมเข้าไป ลมนี่ก็เหมือนกัน ถ้ามันทรยศกับเรา มันเข้าแล้วไม่ยอมออก มันออกแล้วไม่ยอมเข้าจะลำบากนะ นี้แหละพระพุทธเจ้าของเราท่านจึงสอนว่า ควรกำหนดรู้ รู้กับอารมณ์ต่างๆ นั้น ไม่ว่าอะไรมากระทบ เราควรกำหนดรู้ให้ชัด ให้มีสติ ให้มีสัมปชัญญะซี เกิดมามีจิตใจย่อมปฏิบัติได้เสมอภาคทุกคน อย่าไปติดสิ่งภายนอกเพียงอย่างเดียว จิตก็จะก้าวหน้าได้แน่นอน...” โอวาทธรรมคำสอนหลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม
ขอนอบน้อมพระอริยสงฆ์ด้วยเศียรเกล้า
กราบขอบพระคุณ อนุโมทนาบุญผู้รวบรวมFBพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
อนุโมทนาบุญกุศลจากการอ่าน
สวัสดี.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น