ชีวประวัติ ปฏิปทาหลวงพ่ออำนวย ภูริสุนทโร วัดบรมนิวาส เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

๏ ประวัติและปฏิปทา หลวงพ่ออำนวย ภูริสุนทโร ๏ 

     วันนี้วันที่ ๑๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ เป็นวันเจริญอายุวัฒนมงคล ครบรอบ ๘๔ ปี หลวงพ่ออำนวย ภูริสุนทโร วัดบรมนิวาส เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ มีนามเดิมว่า อำนวย รตนเพชรมณี เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๔๘๓ ที่บ้านเลขที่ ๑๕ หมู่ที่ ๑๒ ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายเตี่ยอู๋ และนางเงียบ รตนเพชรมณี ครอบครัวมีอาชีพทำไร่ทำนา 

ท่านเรียนจบชั้นประถมปีที่ ๔ จากโรงเรียนประชาบาลพิพัฒน์พิทยาคาร บ้านบางแก้ว เรียนจบแล้วได้ออกมาช่วยพ่อแม่ทำนาเลี้ยงครอบครัว เลี้ยงควายกลางทุ่ง แม้จะอยู่ในวัยเด็กแต่มีนิสัยรักสงบ และเกรงกลัวบาป 

ตอนอายุ 20 ปีได้เข้ารับการเกณฑ์ทหาร จับได้ใบแดง ต้องเข้ารับราชการทหารกองประจำการ เป็นทหารเกณฑ์ 1 ปี 6 เดือน ได้พักเพื่อรอรับการปล่อยพ้นเกณฑ์ โดยอยู่ทำงานต่อที่กรุงเทพฯ 

จนกระทั่งอายุ 26 ปี เดินทางกลับมาบ้านเกิด และได้ทดแทนพระคุณบุพการีด้วยการเข้าพิธีอุปสมบทเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2509 ณ พัทธสีมาวัดสมานรัตนาราม อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา มีพระวรพรตปัญญาจารย์ (หลวงปู่เฮี้ยง) วัดป่าอรัญญิกาวาส อ.เมือง จ.ชลบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ , พระสมุห์เอี่ยม สุสังวโร วัดสมานรัตนาราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระปลัดผิน สุทธาภิมุข วัดสมานรัตนาราม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ 

หลังอุปสมบทมุ่งศึกษาพระปริยัติธรรมทั้งนักธรรมและบาลีอย่างจริงจัง แม้สภาพความเป็นอยู่ในขณะนั้นจะไม่เอื้ออำนวยต่อการศึกษาเท่าใดนัก แต่อาศัยความมุมานะท่องหนังสืออ่านตำราอย่างขะมักเขม้น 

พ.ศ.2514 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ ที่สำนักเรียนวัดสมานรัตนาราม 

ในขณะนั้นท่านได้เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมที่วัดสมานรัตนาราม ต่อมาได้เข้ามาเรียนที่โรงเรียนพระสังฆาธิการชั้นต้น รุ่นที่ 3 วัดบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 

ใน พ.ศ.2523 พระญาณวโรดม ได้นำตัวท่านมาฝากไว้กับพระเทพปัญญามุนี (บู่ สุจิณโณ) เจ้าอาวาสวัดบรมนิวาสในขณะนั้น ซึ่งท่านมีเมตตารับหลวงพ่ออำนวยเอาไว้ให้อยู่ที่กุฏิปัทมราช ทำให้ได้เข้าเรียนฝึกหัดครูพระปริยัติธรรม วัดบวรนิเวศ หลักสูตร 8 ปีด้วย 

ท่านได้ช่วยงานคณะสงฆ์วัดบรมนิวาส ได้จัดตั้งศูนย์อบรมภาวนาสิริจันโท วัดบรมนิวาส ร่วมกับหลวงพ่อสนธิ์ อนาลโย (ปัจจุบันคือ พระราชภาวนาพินิจ เจ้าอาวาสวัดพุทธบูชา เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ) เพื่ออบรมสมาธิภาวนาให้พระนวกะและสาธุชนทั่วไป โดยกราบอาราธนาพระกัมมัฏฐานสายปฏิบัติชื่อดังมาแสดงธรรมเป็นประจำ จัดเดือนละ 2 ครั้ง ในสัปดาห์ที่ 1 และสัปดาห์ที่ 2 ของทุกเดือน ตราบจนถึงปัจจุบัน 

ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2536 ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการตรวจธรรมสนามหลวง พ.ศ.2537 ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบรมนิวาส 

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2517 เป็นพระฐานานุกรมที่พระสมุห์ พ.ศ.2532 เป็นพระครูวินัยธร พ.ศ.2532 เป็นพระครูปลัดวรวัฒน์ พ.ศ.2538 เป็นพระครูปลัดสุวัฑฒนพรหมจริยคุณ 

พ.ศ.2546 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระวิมลศีลาจาร 

พ.ศ. 2565 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ พระราชภาวนาวชิราภรณ์

พระราชภาวนาวชิราภรณ์ หรือหลวงพ่ออำนวย ภูริสุนทโร ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตแต่หนหลัง ว่าตอนแรกที่เข้าพิธีอุปสมบทตั้งใจจะบวชเรียนอยู่ที่วัดเพียง 2-3 พรรษาเท่านั้น บวชเรียนอยู่ที่วัดสมานรัตนาราม แต่พอใกล้จะถึงเวลาสึก พระสมุห์เอี่ยม สุสังวโร ซึ่งเป็นพระกรรมวาจาจารย์ ท่านจะคอยปรารภว่า "ขอให้อยู่ด้วยกันก่อน" 

"อาตมามีความเข้าใจที่ท่านมาปรารภเช่นนั้น ท่านคงเห็นว่าในขณะนั้นพระที่วัดสมานรัตนาราม ซึ่งเป็นวัดในชนบท มีพระภิกษุอยู่จำพรรษาน้อย พระที่บวชพร้อมกันมีเพียง 6 รูป ภายหลังลาสิกขา เหลือเพียงอาตมารูปเดียว ท่านพระสมุห์เอี่ยมประสงค์จะให้เราอยู่ต่อ ซึ่งเราก็เห็นดีด้วย จึงตัดสินใจอยู่ต่อไปอีก จนในภายหลังไม่มีความคิดลาสิกขาตราบจนถึงทุกวันนี้" 

พระราชภาวนาวชิราภรณ์ เล่าถึงประสบการณ์ในการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานว่า ได้เริ่มศึกษาการปฏิบัติกัมมัฏฐานจากครูบาอาจารย์หลายท่าน อาทิ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา, หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) ต.ศรีสมเด็จ อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด, หลวงปู่หล้า เขมปัตโต วัดบรรพตคีรี(ภูจ้อก้อ) อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร เป็นต้น 

"เวลาอาตมาเกิดปัญหาข้อติดขัดในการปฏิบัติกัมมัฏฐาน อาตมาจะได้เข้าไปกราบขอคำชี้แนะจากครูบาอาจารย์ทั้งหลายท่าน ซึ่งท่านล้วนมีเมตตาถ่ายทอดประสบการณ์และชี้แนะหลักคำสอนอันทรงคุณค่าให้อาตมาได้ลองกลับไปทบทวนฝึกปฏิบัติ ได้ปฏิบัติเดินจงกรม ฝึกภาวนา พิจารณากัมมัฏฐานตามที่พระอาจารย์บอก เกิดความรู้สึกปีติยินดียิ่ง" 

พระราชภาวนาวชิราภรณ์ แนะนำการนั่งสมาธิภาวนาว่า "ไม่ได้เป็นเรื่องยากเย็นแต่อย่างใด อยู่ที่ตัวเราและจิตเป็นสำคัญ กำหนดจิต กำหนดลมหายใจ ให้จิตใจอยู่กับเรา อย่าไปคิดถึงเรื่องอื่น ปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่าง เมื่อเรามานั่งปฏิบัติแสวงหาความสงบในจิตใจ หน้าที่การงานหรือภาระทุกสิ่งให้ทิ้งไปให้หมด" 

พระราชภาวนาวชิราภรณ์ ยังได้ชี้แนะว่า "การควบคุมอารมณ์ของจิตเป็นเรื่องยาก ในขณะนั่งสงบอยู่เพียงพักเดียวจะมีสิ่งที่จูงใจดึงจิตเราเตลิดไปตลอด ให้เราปล่อยวาง อย่าไปสนใจ ละวางกิเลส ให้จิตอยู่ที่พุทโธ รู้แล้วละ รู้แล้วปล่อย รู้แล้ววาง รู้อย่างมีสติ รู้ด้วยตัวของมันเอง" 

ทุกวันนี้ "พระราชภาวนาวชิราภรณ์" หรือ "หลวงพ่ออำนวย ภูริสุนทโร" ยังคงดูแล "ศูนย์อบรมภาวนาสิริจันโท" อย่างต่อเนื่อง มีศิษยานุศิษย์ตลอดจนผู้ที่อยากปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานแวะเวียนไปขอคำแนะนำไม่ขาดสาย เป็นสายธารวิปัสสนาธุระใจกลางกรุงอีกแห่งหนึ่ง !!

--------

ขอนอบน้อมพระอริยสงฆ์ด้วยเศียรเกล้า

อนุโมทนาบุญกุศลจากการอ่าน

กราบขอบพระคุณ อนุโมทนาบุญผู้รวบรวม FBพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

สวัสดี.