ชีวประวัติ ปฏิปทาหลวงปู่หนูหยาด วิริโย วัดนาคำ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี

ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่หนูหยาด วิริโย 

     วันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๖๗ เป็นวันครบรอบ ๘๔ ปี ชาตกาล หลวงปู่หนูหยาด วิริโย วัดนาคำ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เดิมชื่อ หนูหยาด สีดาเกษ เกิดในปีมะโรง วันพุธที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๘๓ ตรงกับวันแรม ๗ ค่ำ เดือน ๑๑ ที่บ้านว่าน ต.บ้านว่าน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ในขณะนั้นเป็นตำบลบ้านเดื่อ ซึ่งปัจจุบันเป็น ต.บ้านว่าน หลวงพ่อหนูหยาดเป็นบุตรคนแรกของคุณพ่อเก่ง สีดาเกษ และคุณแม่ลอง พินธะ มีพี่น้องร่วมท้องมารดาเดียวกันจำนวน ๒ คน ตามลำดับดังต่อไปนี้

๑.หลวงปู่หนูหยาด วิริโย

๒.นางบุญเพ็ง ของอ่อน (ยังมีชีวิตอยู่)

• #ปฐมกาล 

ในช่วงปฐมวัย หลวงพ่อหนูหยาด วิริโย เริ่มเข้าเรียนที่โรงเรียนบ้านว่าน ต.บ้านว่าน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ อาชีพทำนา กระทั่งอายุ ๒๑ ปีบริบูรณ์

• #เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์

ท่านได้ลามารดาเข้านาค ฝากตัวเป็นศิษย์ พระครูสุทธิญาณประยุต (หลวงปู่ต้น สุทฺธิกาโม) อยู่ที่วัดบึงพลาราม ต.บ้านว่าน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย และอุปสมบทวันที่ ๒๓ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๐๓ ที่วัดพระงามศรีมงคล ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย โดยมีพระครูสีลขันธ์สังวร (เป็นพระอุปัชฌาย์) พระมหาคำหล้า ธมฺมกาโม (เป็นพระกรรมวาจาจารย์) หลวงปู่แผลง สุจิตฺโต (เป็นพระอนุสาวนาจารย์) ได้นามฉายานาม "วิริโย"

หลวงพ่อหนูหยาด มีความมุ่งมั่นในวิปัสสนาธุระ ซึ่งเป็นไปตามแนวทางปฏิบัติตามคำสอนของหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต พระบุพพาจารย์แห่งวิปัสสนากรรมฐานที่สำคัญที่สุดใน ประเทศไทย และได้เข้าไปฝึกปฏิบัติกับพระอริยเจ้าหลายรูป เช่น หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร , หลวงปู่หลอด ปโมทิโต , หลวงปู่ต้น สุทฺธิกาโม วัดบึงพลาราม , หลวงปู่เพียร วิริโย วัดป่าหนองกอง เป็นต้น ถึงแม้หลวงพ่อหนูหยาด จะให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติวิปัสสนาธุระ แต่หลวงพ่อก็ไม่ละทิ้งด้านคันถธุระ ได้เข้าศึกษาปริยัติจนได้นักธรรมโท

• #วัดที่หลวงปู่เคยอยู่จำพรรษา

พ.ศ.๒๕๐๓ พรรษาที่ ๑ (อายุ ๒๑ ปี) ได้นักธรรมชั้นตรี สำนักวัดบึงพลาราม ต.บ้านว่าน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย

พ.ศ.๒๕๐๔ พรรษาที่ ๒ (อายุ ๒๒ ปี) อยู่วัดอรัญญวาสี ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย

พ.ศ.๒๕๐๕ พรรษาที่ ๓ (อายุ ๒๓ ปี) ได้นักธรรมชั้นโท สำนักวัดอรัญญวาสี ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย

พ.ศ.๒๕๐๖ พรรษาที่ ๔ (อายุ ๒๔ ปี) อยู่วัดพระสถิตย์ ต.พรานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

พ.ศ.๒๕๐๗ พรรษาที่ ๕ (อายุ ๒๕ ปี) อยู่วัดอรัญญิกาวาส ต.บ้านผือ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี

พ.ศ.๒๕๐๘ พรรษาที่ ๖ (อายุ ๒๖ ปี) อยู่วัดอุดมสมพร ต.พรรณานิคม อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร

พ.ศ. ๒๕๐๙ พรรษาที่ ๗ (อายุ ๒๗ ปี) อยู่วัดจันทนาราม (วัดนาคำ) จนถึงปัจจุบัน

• #สมณศักดิ์

๑ ม.ค. พ.ศ.๒๕๑๕ พรรษาที่ ๑๓ อายุ ๓๓ ปี รับแต่งตั้งดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดจันทนาราม (วัดนาคำในปัจจุบัน)

๑ พ.ค. พ.ศ.๒๕๑๕ ได้รับแต่งตั้งเป็น ครูสอนปริยัติธรรมประจำสำนักศาสนศึกษา

๑ ม.ค. พ.ศ.๒๕๑๗ ได้รับแต่งตั้งเป็น เจ้าคณะตำบลบ้านผือ (ธ) ในสมัยนั้น

๕ ธ.ค. พ.ศ.๒๕๒๑ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูวิริยโสภณ

๒๔ ก.พ. พ.ศ.๒๕๒๓ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์

๑ มี.ค. พ.ศ.๒๕๒๗ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระธรรมทูต

• #หลวงพ่อหนูหยาดกับวัดนาคำ

วัดนาคำ เดิมชื่อ วัดจันทนาราม หลวงปู่หลอด ปโมทิโต อดีตเจ้าอาวาสวัดใหม่เสนานิคม ได้เดินธุดงค์รุกขมูลมาถึงยังสถานที่นี้ ซึ่งเป็นป่าทึบ ท่านจึงพักอยู่สถานที่แห่งนี้ แล้วหลังจากนั้นต่อมา เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๐๙ หลวงพ่อหนูหยาด วิริโย ได้เดินธุดงค์ มาพักยังสถาณที่นี้

ชาวบ้านนาคำจึงได้อาราธนานิมนต์ หลวงพ่อหนูหยาด วิริโย อยู่เพื่อจำพรรษาเรื่อยมาตั้งแต่นั้น โดยมีหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ หลวงปู่บัวพา ปัญญาวโส หลวงปู่อ่อนสี สุเมโธ ได้มาดูสถานที่ก่อนจะสร้าง วัดนาคำ บ้านนาคำ ต.หายโศก อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี

หลายปีต่อมาจึงได้ทำเรื่องขอสร้างวัด มีที่ดิน ๔๓ ไร่ ๒ งาน ๘๓ ตารางวา ตามประกาศของอธิบดีกรมการศาสนา อนุญาตให้สร้างวัด เมื่อวันที่ ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๔๑ ได้ขอตั้งวัดในพระพุทธศาสนาอย่างเป็นทางการ มติเถรสมาคมตั้งชื่อวัดตามหมู่บ้าน วัดจึงมีนามว่า "วัดนาคำ" ตามประกาศของกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ ๑๖ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๔๓ และได้รับพระราชทานปักเขตวิสุคามสีมา ตามประกาศของกระทรวงศึกษาธิการ วันที่ ๗ มีนาคม พ.ศ.๒๕๔๔ ทำการปักเขต เมื่อวันที่ ๑๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๔

แต่นั้นเรื่อยมา หลวงปู่หลอด ปโมทิโต ท่านได้กลับมาเยี่ยมวัดนาคำแห่งนี้ประจำ เช่นเดียวกัน ครั้งใดที่หลวงพ่อหนูหยาด ลงไปกรุงเทพฯ ท่านก็ไปพักที่วัดใหม่เสนานิคม แม้หลังจากที่หลวงปู่หลอด ท่านละสังขารแล้ว หลวงพ่อหนูหยาดก็ยังไปพักที่วัดใหม่เสนาทุกครั้งที่ท่านลงไปกรุงเทพฯ หลวงพ่อหนูหยาดให้ความเคารพนับถือหลวงปู่หลอดมาก อาจกล่าวได้การสร้างวัดนาคำ เป็นดำริของหลวงปู่หลอด ก็มิผิดนัก หลวงพ่อหนูหยาด ได้ดูแลวัดนาคำ ให้มีสภาพเป็นวัดที่เหมาะสำหรับการเข้ามาปฏิบัติธรรม มีความสงบร่มเย็น ชุมชน โรงเรียน ก็ได้อาศัยวัดเป็นที่ปฏิบัติธรรม เจริญกุศล

หลวงพ่อหนูหยาด ได้ให้ความสำคัญต่อชุมชนและโรงเรียน ท่านได้จัดตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาโรงเรียนบ้านนาคำ หาปัจจัยมาสนับสนุนโรงเรียน เพื่อจัดหาอุปกรณ์การเรียนการสอน หรือการสร้างถาวรวัตถุ ที่นักเรียนจะได้ใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ บ้าน วัด โรงเรียน (บวร) คือองค์ประกอบที่สำคัญของสังคม ในการสร้างปัญญา จิตวิญญาณ ศีลธรรมและจริยธรรม

ในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา หลวงพ่อหนูหยาด ได้เข้ารับการตวรจสุขภาพประจำปี ที่โรงพยาบาลไทยนครินทร์ กรุงเทพฯ เป็นประจำ แพทย์พบว่าท่านเป็นโรคความดันโลหิตสูง จึงถวายยารักษาเรื่อยมา แต่ในช่วงปี ๒๕๕๙ หลวงพ่อมีอาการไอ เลยเข้าไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลกรุงเทพ อุดรธานี แพทย์พบว่าท่านมีการติดเชื้อที่ปอด จึงได้ให้ยารักษาจนอาการเป็นปกติ จนมาถึงเดือน กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ คณะลูกศิษย์ได้นิมนต์ท่านมาตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ กรุงเทพฯ แพทย์ตรวจพบว่าท่านป่วยเป็นมะเร็งที่ปอดระยะที่ ๔ แต่หลวงพ่อมีความประสงค์ที่จะไม่รับการรักษาใด ๆ แต่ก็โอนมาให้แพทย์ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ เป็นผู้ติดตามอาการ คณะแพทย์จึงถวายยาตามอาการ

• #มรณภาพ

หลวงปู่หนูหยาด วิริโย วัดป่านาคำ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ละสังขาร ตรงกับวันอังคารที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๖๒ เมื่อเวลา ๑๓.๑๑ น. สิริอายุ ๗๘ ปี ๓ เดือน ๖ วัน ๕๘ พรรษา

#บรรณานุกรมอ้างอิง : คัดลอกจากหนังสือ "ที่ระลึกในงานประชุมเพลิง พระครูวิริยโสภณ(หลวงพ่อหนูหยาด วิริโย) วันอาทิตย์ที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒

ขอนอบน้อมพระอริยสงฆ์ด้วยเศียรเกล้า

อนุโมทนาบุญกุศลจากการอ่าน

ขอขอบคุณ อนุโมทนาบุญผู้รวบรวม เผยแพร่ FBพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ขอสรรพมงคลจงมีแด่ท่าน

สวัสดี.