ชีวประวัติ ปฏิปทาสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก พระองค์ที่ ๑๙ (เจริญ สุวฑฺฒโน)
๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๗ น้อมรำลึก ๑๑ ปี แห่งการสิ้นพระชนม์ของ สมเด็จญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก (เจริญ สุวฑฺฒโน) สมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ ๑๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
"..ทุกชีวิตมีเวลาจำกัด อย่างมากไม่เกินร้อยปีก็จะต้องละร่างนี้ ละโลกนี้ไป อย่าผลัดวันประกันพรุ่งที่จะทำความดี เพราะถ้าสายเกินไปเมื่อไร ก็ตนเองนั่นแหละ จะต้องได้เสวยผลของการไม่กระทำกรรมดี ไม่มีผู้ใดอื่นจะรับผลของความดีความชั่วที่ตนเองทำไว้ เจ้าตัวเองเท่านั้น จักเป็นผู้รับผลของความดีความชั่วที่ตนทำ.." พระธรรมคำสอนสมเด็จญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก
พระชาติภูมิ พระองค์ประสูติเมื่อวันศุกร์ที่ ๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๕๖ เวลาประมาณ ๐๔.๐๐ น. เศษ (นับอย่างปัจจุบันเป็นวันที่ ๔ ตุลาคม) ขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีฉลู ณ ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
ทรงบรรพชาเป็นสามเณร ในปี พ.ศ.๒๔๖๙ ขณะมีพระชันษาได้ ๑๔ ปี ณ วัดเทวสังฆาราม จ.กาญจนบุรี โดยมี พระเทพมงคลรังษี (พระอาจารย์ดี พุทธฺโชติ) เจ้าอาวาสวัดเทวสังฆาราม เป็นพระอุปัชฌาย์
ทรงอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ ๑๒ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๗๖ ณ วัดเทวสังฆาราม จ.กาญจนบุรี โดยมี พระครูอดุลยสมณกิจ (หลวงพ่อวัดเหนือ) เป็นพระอุปัชฌาย์
ทรงญัตติเป็นพระธรรมยุต เมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๗๖ ศกเดียวกัน (สมัยนั้นขึ้น พ.ศ. ใหม่เดือนเมษายน ฉะนั้น เดือนมิถุนายน จึงเป็นต้นปี เดือนกุมภาพันธ์ เป็นปลายปี) ณ วัดบวรนิเวศวิหาร โดยมี สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ เป็นพระอุปัชฌาย์
ได้รับพระราชทานสถาปนาขึ้นเป็น สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในลำดับที่ ๑๙ ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดทางการปกครองของคณะสงฆ์ และทรงเป็นเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๒
ขอน้อมนำพระปฏิปทาของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ไว้เป็นแบบอย่างสำหรับพระภิกษุสงฆ์ ทั้งลูกศิษย์หลานศิษย์ในยุคปัจจุบัน ควรใคร่ควรน้อมนำพระปฏิปทาของพระองค์ท่านไปปฏิบัติ ถึงไม่ได้มาก ก็ขออย่าให้น้อยต่ำอย่างฆราวาสวิสัย...
“...ความเป็นผู้สำรวมระวังในพระวินัย หรือกล่าวอย่างสั้น ๆ ก็คือ ความเคร่งครัดในพระวินัย พระปฏิปทาข้อนี้ย่อมเป็นที่ปรากฏต่อสายตาของคนทั่วไปผู้ได้เคยพบเห็นเจ้าพระคุณสมเด็จ ฯ เป็นต้นว่า ทรงเป็นผู้สงบนิ่ง พูดน้อย ไม่ว่าประทับในที่ใด ทรงอยู่ในพระอาการสำรวมเสมอ
ความเป็นผู้มักน้อยสันโดษ เจ้าพระคุณสมเด็จ ฯ ทรงปฏิบัติพระองค์อย่างเรียบง่าย แม้ที่อยู่อาศัยก็ไม่โปรดให้ประดับตกแต่ง ทรงเตือนภิกษุสามเณรอยู่เสมอว่า “พระเณรไม่ควรอยู่อย่างหรูหรา”
พระปฏิปทาข้อนี้ที่ปรากฏอย่างชัดเจนอีกอย่างหนึ่งก็คือ ไม่ทรงสะสม วัตถุสิ่งของที่มีผู้ถวายมา ก็ทรงแจกจ่ายต่อไปตามโอกาส ครั้งหนึ่ง มีผู้แสดงความประสงค์จะถวายรถยนต์สำหรับทรง ใช้สอยประจำพระองค์ เพื่อความสะดวกในการที่จะเสด็จไปทรงปฏิบัติภารกิจในที่ต่าง ๆ ส่วนพระองค์ พระองค์ก็ตอบเขาไปว่า “ไม่รู้จะเอาเก็บไว้ที่ไหน” จึงเป็นอันว่าไม่ทรงรับถวาย
ในวโรกาสทรงบำเพ็ญพระกุศลฉลองพระชนมายุ ๘๐ พรรษา หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ทูลถวาย จตุปัจจัยร่วมบำเพ็ญพระกุศล ๗ ล้านบาท เจ้าพระคุณสมเด็จ ฯ ทรงอนุโมทนา ขอบคุณหลวงพ่อคูณ แล้วตรัสกับหลวงพ่อคูณว่า “ขอถวายคืนร่วมทำบุญกับหลวงพ่อ ด้วยก็แล้วกัน” ก็เป็นอันว่า ทรงรับถวายแล้วก็ถวายคืนกลับไป
เจ้าพระคุณสมเด็จ ฯ ทรงเตือนภิกษุสามเณรอยู่เสมอว่า “เป็นพระต้องจน” และไม่เพียง แต่ทรงสอนผู้อื่นเท่านั้น แม้พระองค์เองก็ทรงปฏิบัติพระองค์เป็นพระที่จนเหมือนกัน ครั้งหนึ่ง หลังจากทรงได้รับพระราชทานสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราชแล้วไม่นานนักศิษย์ใกล้ชิดคนหนึ่ง มากราบทูลว่า “ขณะนี้วัด………ที่เมืองกาญจนบุรี กำลังสร้างสะพานข้ามแม้น้ำ เกือบจะเสร็จแล้ว ยังขาดเงินอีกราว ๗-๘ แสนบาท อยากกราบทูลใต้ฝ่าพระบาทเสด็จไปโปรดสักครั้ง สะพาน จะได้เสร็จเร็ว ๆ ไม่ทราบว่าใต้ฝ่าพระบาทจะพอมีเวลาเสด็จได้หรือไม่ กระหม่อม” เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ตรัสตอบว่า “เวลาน่ะพอมี แต่เงินตั้งแสนจะเอาที่ไหน เพราะพระไม่มีอาชีพการงานไม่มี รายได้เหมือนชาวบ้าน แล้วแต่เขาจะให้”
พระปฏิปทาของเจ้าพระคุณสมเด็จ ฯ ในฐานะที่ทรงเป็นพระรูปหนึ่ง จึงเป็นที่น่าประทับใจ เป็นพระปฏิปทาที่ควรแก่การยึดถือเป็นแบบอย่าง”
“..ชีวิตนี้น้อยนัก แต่ชีวิตนี้ก็สำคัญนัก เป็นรอยต่อ เป็นทางแยก จะไปสูงไปต่ำ จะไปดี ไปร้าย เลือกได้ในชีวิตนี้เท่านั้น พึงสำนึกข้อนี้ให้จงดี แล้วจงเลือกเถิด แล้วเลือกให้ดีเถิด..”
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก (เจริญ สุวฑฺฒโน) สมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ ๑๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สิ้นพระชนม์ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๖ ตรงกับวันแรม ๕ ค่ำ เดือน ๑๑ เวลา ๑๙.๓๐ นาฬิกา สิริพระชนมายุ ๑๐๐ พระชันษา ๒๑ วัน
อนุโมทนาบุญกุศลจากการอ่าน
ขอขอบคุณ อนุโมทนาบุญผู้รวบรวม เผยแพร่ FBพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ขอสรรพมงคลจงมีแด่ท่าน
สวัสดี.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น