ชีวประวัติ ปฏิปทาหลวงปู่หนู ฐิตปัญโญ พระปัญญาพิศาลเถร วัดปทุมวนาราม เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ



     ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่หนู ฐิตปัญโญ  
     วันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๖๗ เป็นวันครบรอบ ๘๐ ปี การละสังขาร พระอาจารย์หนู ฐิตปญฺโญ วัดปทุมวนาราม เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร พระปัญญาพิศาลเถร (หนู ฐิตปญฺญเถร) เกิดเมื่อวันพุธที่ ๔ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๐๘ ตรงกับวันขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีระกา เวลา ๐๘.๐๐ น. ณ ตำบลวัดกลาง ในเมืองอุบลราชธานี นามบิดา ขุนประเทสพานิช (จีน) นามมารดา ทุมมา

บรรพชาอุปสมบท
พ.ศ.๒๔๒๐ อายุได้ ๑๒ ปี บรรพชาเป็นสามเณรในสำนักท่านบุดสี วัดใต้เทิง จังหวัดอุบลราชธานี

พ.ศ.๒๔๒๙ อายุได้ ๒๒ ปีอุปสมบทในสำนักท่านบุดสี วัดใต้เทิง

พ.ศ.๒๔๓๓ ท่านพร้อมด้วยพระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล และพระอาจารย์ประชา ได้ไปทำทัฬหีกรรมญัติติเป็นพระธรรมยุติที่ วัดศรีทอง (ปัจจุบันคือ วัดศรีอุบลรัตนาราม) จังหวัดอุบลราชธานี โดยมี พระครูทา โชติปาโล เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูสีทา ชยเสโน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูคำ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

การศึกษาด้านคันถธุระ
เมื่ออายุได้ ๘-๑๒ ปี ได้ศึกษาหาความรู้ตามที่นิยมในสมัยนั้นกับบิดาและในสำนักของท่านบุดสี มิตธรรมวงสา วัดใต้เทิง หลังจากอุปสมบทได้ศึกษาพระปริยัติธรรมในสำนักท่านเจ้าคุณพระอริยกวี วัดศรีทองและท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนฺโท) เริ่มตั้งแต่บาลีไวยากรณ์ แปลธรรมบทแปลคัมภีร์ภิกขุวิภังค์ มหาวรรคและจุลวรรค เว้นภิกขุณีวิภังค์และปริวาร จนแปลวิสุทธิมรรคจบสมาธินิเทศ ที่ท่านให้เรียนเช่นนี้ ท่านกล่าวว่า ผู้ที่จะเป็นครูบาอาจารย์ปกครองหมู่คณะหรือปฏิบัติกิจวัตรในพระศาสนาได้ ต้องให้มีความรู้ในสิกขาวินัยและมูลแห่งกรรมฐานพอสมควรจึงจะเป็นผู้ยังหมู่ ให้งามในพระธรรมวินัยได้ดี ต่อมาท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ จะส่งให้เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ เพื่อสอบเอาชั้นเปรียญต่อไป แต่ท่านไม่ยอมเข้ามา เพราะรักในการปฏิบัติธรรมกรรมฐาน

การศึกษาด้านวิปัสสนาธุระ
ต่อมาได้ศึกษาสมถและวิปัสสนากในสำนัก ท่านเจ้าคุณพระอริยกวี และพระครูทาผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้พร้อมกับพระอาจารย์เสาร์ และพระอาจารย์มั่น เที่ยวเดินธุดงค์ไปตามป่าเขา เพื่อแสวงหาที่วิเวกปฏิบัติธรรมทรมานกิเลส ไม่ได้มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ต่อมาได้พร้อมกับพระครูทาและพระอาจารย์มั่นมาจำพรรษาที่วัดปทุมวนาราม ถึง ๒ พรรษา เพื่อศึกษาสมถและวิปัสสนากับท่านเจ้าคุณปัญญาพิศาลเถร (สิงห์) อดีตเจ้าอาวาสวัดปทุมวนาราม รูปที่ ๓ แล้วกลับไปเดินธุดงค์ต่อ จนถึงปี พ.ศ.๒๔๕๖ ก่อนจะได้รับพระบัญชาแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดปทุมวนารามท่านพร้อมด้วย พระอาจารย์เสาร์ และพระอาจารย์มั่น ได้มาจำพรรษาที่วัดบรมนิวาส ๑ พรรษา เมื่อเจ้าอาวาสวัดปทุมวนารามว่างลง สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดปทุมวนารามสืบมา

ตำแหน่งหน้าที่การงาน
พ.ศ.๒๔๕๗ เป็นเจ้าอาวาสวัดปทุมวนาราม กรุงเทพมหานคร
พ.ศ.๒๔๖๗ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์

สมณศักดิ์
พ.ศ.๒๔๕๘ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูปทุมธรรมธาดา”
พ.ศ.๒๔๖๘ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ฝ่ายวิปัสสนาธุระที่ “พระปัญญาพิศาลเถร” ในงานพระบรมราชาภิเษกรัชกาลที่ ๗

ผลงาน
ในสมัยที่ท่านเป็นเจ้าอาวาส ท่านได้สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่วัดปทุมวนารามมาก ทั้งด้านการก่อสร้างบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะและด้านการศึกษา เสนาสนะกุฏิสงฆ์ที่พระภิกษุสามเณรอาศัยอยู่ในปัจจุบันนี้ โดยมากสร้างขึ้นในสมัยท่านเป็นเจ้าอาวาส เช่น กุฏิยมราช (ตลับสุขุม) กุฏิอ้นอุทิส กุฏิเลื่อนตันทัศน์ กุฏิสุทธิอาศรม กุฏิมาวิตตศาลา และโรงเรียนพระปริยัติธรรม เป็นต้น

ด้านการศึกษานับว่าเจริญรุ่งเรืองมากเพราะก่อนหน้านั้น เจ้าอาวาสรูปก่อน ๆ ท่านเน้นเรื่องการปฏิบัติสมถวิปัสสนา ไม่มีการศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม เมื่อท่านมาเป็นเจ้าอาวาสได้ริเริ่มให้มีการศึกษาพระปริยัติธรรม โดยในระยะแรกได้ส่งพระภิกษุสามเณรไปเรียนที่วัดบรมนิวาสและวัดราชาธิวาส เมื่อมีพระนักธรรมและเปรียญเกิดขึ้นจึงจัดการเรียนการสอนขึ้นที่วัดเริ่ม ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๖๕ แต่เวลาส่งบัญชีเข้าสอบยังส่งในนามสำนักเรียนวัดบรมนิวาส จนถึงปี พ.ศ.๒๔๗๔ จึงขอตั้งเป็นสำนักเรียนวัดปทุมวนาราม นับตั้งแต่นั้นมาการศึกษาพระปริยัติธรรมก็เจริญรุ่งเรือง มีผู้สอบนักธรรมและเปรียญได้มากที่ได้ถึงเปรียญ ๗ เปรียญ ๘ ก็หลายรูป ทั้งนี้ก็เป็นเพราะท่านได้คอยดูแลเอาใจใส่ รูปไหนไม่สนใจศึกษาท่านจะเรียกมาตักเตือนและบังคับให้เรียน สามเณรรูปใดไม่ได้นักธรรม ท่านจะไม่ยอมเป็นอุปัชฌาย์บวชให้ และรูปไหนไม่สนใจปฏิบัติธุดงควัตรท่านก็ไม่ให้อยู่วัด การศึกษาทั้งด้านปริยัติและปฏิบัติในสมัยท่านเป็นเจ้าอาวาสจึงนับว่าเจริญ ถึงขีดสุด

ปฏิปทา
ก่อนที่จะมาเป็นเจ้าอาวาสวัดปทุมวนารามนั้น พระปัญญาพิศาลเถร (หนู จิตปญฺญเถร) เป็นพระกรรมฐานมาก่อน เป็นสหธรรมิกที่คุ้นเคยกันดียิ่งกับพระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล ท่านเคยเดินธุดงค์ร่วมกับพระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล และพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ไปตามป่าเขาลำเนาไพรในหลายจังหวัด เพื่อแสวงหาความวิเวกและปฏิบัติธรรม จึงทำให้ท่านเป็นผู้มักน้อยสันโดษ ชอบวิเวก ไม่ชอบคลุกคลีด้วยปริวารชนจนเกินไปเคร่งครัดหนักแน่นในพระธรรมวินัย เป็นคนพูดน้อยถ้าจะพูดอะไรกับใคร ๆ ก็พูดตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม มีจิตใจเมตตาโอบอ้อมอารีแก่ทุกคนประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่พระภิกษุ สามเณรและคนทั่วไป

ท่านพระอาจารย์หนู ฐิตปญฺโญ ท่านพระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล และท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต เป็นศิษย์วัดไหน และสาเหตุที่พระอาจารย์หนู ฐิตปญฺโญ ได้รับอาราธนามาเป็นเจ้าอาวาสที่วัดปทุมวนาราม

เรื่องนี้ท่านพระอาจารย์มั่นได้เมตตาเล่าไว้หลายครั้งหลายคราวและหลายปี ว่าการศึกษาพระปริยัติธรรมและอบรมกัมมัฏฐานระยะที่ ๒ ของพระอาจารย์ทั้ง ๓ รูปนั้น ท่านได้มาศึกษาที่กรุงเทพมหานคร โดยมีท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนฺโท) วัดบรมนิวาส เป็นพระอาจารย์ แต่ทำไมท่านพระอาจารย์ทั้ง ๓ รูป ไม่พักที่วัดบรมนิวาส แต่มาพักที่วัดปทุมวนาราม หรือวัดสระปทุม ปทุมวัน ทั้งนี้เพราะทั้ง ๓ รูปมีความผูกพันกับวัดปทุมวนาราม

วัดปทุมวนารามนี้เป็นพระอารามที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ผู้ทรงเป็นต้นวงศ์คณะธรรมยุต ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๔๐๐ พร้อมทั้งได้ทรงอาราธนาเจ้าอธิการก่ำ จากวัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งเป็นสัทธิวิหาริกของพระองค์สมัยที่ทรงผนวช มาเป็นเจ้าอาวาสที่วัดปทุมวนาราม ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูเจ้าอาวาสพระอารามหลวงวิปัสสนาที่ พระครูปทุมธรรมธาดา มีพระสงฆ์จากวัดบวรนิเวศวิหารจำนวนหนึ่ง เป็นพระอนุจรมาจำพรรษาด้วย

พระอารามแห่งนี้อยู่ภายนอกพระนคร สถานที่เงียบสงบ เหมาะแก่การปฏิบัติกัมมัฏฐาน เจ้าอาวาสรูปแรกและรูปต่อๆ มา มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดร้อยเอ็ด และจังหวัดยโสธร มีเฉพาะท่านเจ้าอาวาสรูปที่ ๖ คือ พระธรรมปาโมกข์ (บุญมั่น มนฺตาสโย) เท่านั้นที่เป็นชาวกรุงเทพมหานคร

ก่อนอุปสมบท พระธรรมปาโมกข์ท่านเป็นมหาดเล็กในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ท่านเป็นนักเรียนของโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบรุ่นแรก ท่านออกบวชในคราวที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ ๒ พระเดชพระคุณมีชื่อคล้ายพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต และท่านได้ติดตามพระอาจารย์มั่นออกธุดงค์ที่ภาคเหนือ และประเทศพม่า

ท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนฺโท) วัดบรมนิวาส ได้ออกไปเรียนวิปัสสนาอยู่กับท่านเจ้าคุณพระปัญญาพิศาลเถร (สิงห์) เจ้าอาวาสวัดปทุมวนาราม และได้เข้ามาจำพรรษาที่วัดปทุมวนารามใน พ.ศ.๒๔๓๙

ท่านเจ้าคุณพระปัญญาพิศาลเถร (สิงห์)
เจ้าอาวาสวัดปทุมวนาราม รูปที่ ๓ เมื่อก่อนพระคุณท่านเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดพระแท่นศิลาอาสน์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ ที่พระธรรมวิโรจน์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จประพาสต้นไปยังวัดพระแท่นศิลาอาสน์ ทรงพบท่านเจ้าคุณพระธรรมวิโรจน์ (สิงห์) ทรงเลื่อมใสในวัตรปฏิบัติ เพราะพระคุณท่านเคร่งครัดในพระธรรมวินัย ปฏิบัติกัมมัฏฐาน จึงทรงอาราธนาให้มาเป็นเจ้าอาวาสที่วัดปทุมวนาราม เพราะท่านพระครูปทุมธรรมธาดา (สิงห์ อคฺคธมฺโม) เจ้าอาวาสรูปที่ ๒ มรณภาพ วัดยังว่างเจ้าอาวาส ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะเจ้าอาวาสพระอารามหลวงวิปัสสนา ที่พระปัญญาพิศาลเถร พร้อมทั้งพระราชทานพัดงาสาน เป็นพัดยศสมณศักดิ์

พัดงาสานนี้ พระราชทานเฉพาะพระราชาคณะเจ้าอาวาสวัดปทุมวนาราม ซึ่งได้รับพระราชทานมี ๔ รูป คือ

#๑_พระปัญญาพิศาลเถร (สิงห์) เจ้าอาวาสรูปที่ ๓

#๒_พระวิสุทธิญาณเถร (ผิว) เจ้าอาวาสรูปที่ ๔

#๓_พระปัญญาพิศาลเถร (หนู ฐิตปญฺโญ) เจ้าอาวาสรูปที่ ๕

#๔_พระธรรมปาโมกข์ (พระปัญญาพิศาลเถร บุญมั่น มนฺตาสโย) เจ้าอาวาสรูปที่ ๖

หลังจากที่ท่านเจ้าคุณพระปัญญาพิศาลเถร (บุญมั่น มนฺตาสโย) ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นชั้นราชในราชทินนามเดิม จึงคืนพัดยศงาสานเล่มนั้นไปที่กรมการศาสนา หลังจากนั้นมา พัดงาสานก็ไม่ได้อยู่ที่วัดปทุมวนารามอีกเลย

พระอาจารย์ทั้ง ๓ จึงถือว่าเคยอยู่สำนักวัดปทุมวนาราม แม้แต่บทนิพนธ์ขันธะวิมุตติสมังคีธรรมะ ที่ท่านพระอาจารย์มั่นเขียนขึ้น ก็ยังใช้คำว่า "พระภูริทัตโต (หมั่น) วัดสระประทุมวัน เป็นผู้แต่ง" สมุดเล่มนี้ปรากฏอยู่ที่พิพิธภัณฑ์พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต วัดป่าสุทธาวาส จังหวัดสกลนคร

ท่านพระอาจารย์มั่นได้เมตตาเล่าให้ฟังว่า ในฤดูแล้งปีหนึ่ง ได้พากันจาริกไปธุดงค์แถวจังหวัดนครนายก วันหนึ่งเวลาว่าง ท่านพระอาจารย์หนู ฐิตปญฺโญ ได้เล่าความฝันให้เพื่อนสหธรรมิกที่ออกธุดงค์ด้วยกันฟังว่า..

"ท่านฝันว่าได้ลอยข้ามทุ่งกว้างมุ่งหน้าสู่ทิศตะวันตก แล้วลอยต่ำลงๆ จนถึงพื้นดิน ได้มีบุรุษ ๔ คน แต่งตัวคล้ายมหาดเล็กสมัยโบราณ บนศีรษะใส่กระโจมแหลมๆ เหมือนคนแต่งเป็นเทวดาเวลามีขบวนแห่ขบวนใหญ่ๆ ได้นำเสลี่ยงเข้ามาหา แล้วยื่นหนังสือพระบรมราชโองการ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวถวาย เสร็จแล้วนิมนต์ท่านขึ้นเสลี่ยงตั้งขบวนแห่แหนท่านเข้าเฝ้าถวายพระพร"

..ท่านตื่นพอดี..

หลังจากนั้นไม่นาน ก็เป็นจริงเหมือนตามฝัน ท่านเจ้าคุณพระวิสุทธิญาณเถร (ผิว) เจ้าอาวาสวัดปทุมวนารามรูปที่ ๔ มรณภาพ จึงมีพระบรมราชโองการ อาราธนา พระอาจารย์หนู ฐิตปญฺโญ มาเป็นเจ้าอาวาสวัดปทุมวนารามรูปที่ ๕ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูปทุมธรรมธาดา พระครูเจ้าอาวาสพระอารามหลวงวิปัสสนา แล้วได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระราชาคณะเจ้าอาวาสพระอารามหลวงวิปัสสนาในโอกาสต่อมา โดยพระราชทานพัดยศงาสานเป็นพัดยศสมณศักดิ์

#ท่านพระอาจารย์มั่นได้กรุณาเล่าให้ฟังว่า.. 

การแต่งตั้งเจ้าอาวาสพระอารามหลวงที่สำคัญๆ ในสมัยนั้น เมื่อเจ้าอาวาสว่างลง หลังจากที่เลือกสรรผู้ที่จะดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสได้แล้ว ต้องเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราชฯ จะทรงพิจารณา ถ้ามีความเหมาะสมด้วยประการใดแล้ว จึงนำเข้าเฝ้าถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

วัดปทุมวนารามก็เช่นเดียวกัน เมื่อท่านเจ้าคุณพระวิสุทธิญาณเถร (ผิว) มรณภาพลง สมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ วัดราชบพิธ ได้ถวายพระพรสมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้าว่า วัดปทุมวนารามเป็นพระอารามที่เกี่ยวเนื่องด้วยพระกัมมัฏฐาน และผู้คนที่อยู่ในบริเวณรอบวัดก็อพยพมาจากล้านช้าง ผู้ที่เป็นเจ้าอาวาสก็มาจากพระกัมมัฏฐานและมาจากมณฑลอุบลราชธานี ในครั้งนี้ก็เห็นสมควรที่จะอาราธนา พระอาจารย์หนู ฐิตปญฺโญ ซึ่งเป็นชาวอุบลราชธานี มาเป็นเจ้าอาวาส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเห็นดีด้วย จึงได้มีพระบรมราชโองการอาราธนา พระอาจารย์หนู มาเป็นเจ้าอาวาสรูปที่ ๕ ดังกล่าว

(พระปัญญาพิศาลเถร(หนู ฐิตปญฺโญ) เป็นสหธรรมิกที่รักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดียิ่งกับท่านพระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล ท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ของท่านพ่อลี ธมฺมธโร พระอาจารย์กงมา จิรปุญโญ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย - ภิเนษกรมณ์)

มรณภาพ
ท่านเจ้าคุณพระปัญญาพิศาลเถร (หนู ฐิตปญฺญเถร) ได้มรณภาพด้วยโรคชรา ที่ตึกวชิรญาณวงศ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เมื่อวันที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๘๗ เวลา ๐๙.๐๓ น. โดยอาการสงบ ในท่ามกลางสัทธิวิหาริกและอันเตวาสิก สิริรวมอายุได้ ๘๐ ปี พรรษา ๕๘


ขอนอบน้อมพระอริยสงฆ์ด้วยเศียรเกล้า
อนุโมทนาบุญกุศลจากการอ่าน
ขอขอบคุณ อนุโมทนาบุญผู้รวบรวม เผยแพร่ FBพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ขอสรรพมงคลจงมีแด่ท่าน
สวัสดี.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชีวประวัติ ปฏิปาพระอาจารย์อัครเดช (พระอาจารย์ตั๋น) ถิรจิตฺโต วัดบุญญาวาส ต.บ่อทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี

ประวัติหลวงปู่แว่น ธนปาโล วัดถ้ำพระสบาย บ.หนองถ้อย ต.นาครัว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง

หางานในกรุงเทพ ตกงาน หรือว่างงาน มา Samco