ชีวประวัติ ปฏิปทาหลวงปู่สมภาร ปัญญาวโร วัดป่าวิเวกพัฒนาราม อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ

    

 ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่สมภาร ปัญญาวโร 
     วันนี้​วันที่​ ๑๒ สิงหาคม​ ๒๕​๖​๗ เป็น​วัน​ครบรอบ ๑๐๐ ปี ชาตกาล หลวง​ปู่​สมภาร​ ปญฺญา​วโร​ พระ​สุป​ฏิ​ปัน​โน​แห่ง​วัด​ป่า​วิเวก​พัฒนา​ราม​ จ.บึงกาฬ หลวงปู่สมภาร ท่านมีนามเดิม สมภาร อุนาพรหม บิดาชื่อ นายลี มารดาชื่อ นางปุ อุนาพรหม เกิดเมื่อวันที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๖๗ ตรงกับวันขึ้น ๓ ค่ำ ปีชวด ณ ต.ชุมภูพร อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ การศึกษา ประถมปีที่ ๔ ท่านอุปสมบทเมื่อวันที่ ๕ เมษายน พ.ศ.๒๔๘๘ อายุได้ ๒๑ ปี วัดไชยมงคล ต.โพนสูง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร พระอุปัชฌาย์ฮวด พระกรรมวาจารย์พระมหาสิริ ชื่อ พระสมภาร ฉายา ปัญญาวโร สังกัดนิกายธรรมยุต

ภายหลังเข้าสู่ร่มเงาผ้ากาสาวพัสตร์ท่านได้มุมานะศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยอยู่หลายปี สามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก 
ในห้วงเวลานั้น หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระอาจารย์ใหญ่สายวิปัสสนากัมมัฏฐาน พระมหาสมภารรับทราบกิตติศัพท์ มีความเลื่อมใสศรัทธาในวัตรปฏิบัติของหลวงปู่มั่น ท่านจึงเดินทางไปจำพรรษาที่วัดบ้านหนองผือ จ.สกลนคร ฝึกฝนวิปัสสนากัมมัฏฐานปฏิบัติธรรมอยู่กับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ท่านได้ไปๆ มารับฟังธรรมจากหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อยู่ ๖ ปี หลังจากหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ละสังขารแล้วท่านจึงเดินทางสู่แดนใต้

ตลอดเวลาหลวงปู่สมภาร ท่านยึดแนวทางปฏิบัติธรรมตามคำชี้แนะของหลวงปู่มั่น อย่างเคร่งครัด

ปี พ.ศ.๒๔๙๓ ได้เดินร่วมกองทัพธรรมสู่แดนใต้ นำโดย หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี แม่ทัพธรรม และท่านได้จำวัดที่ วัดเกาะลอย อ.เมือง จ.พังงา เคยจำพรรษากับหลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท ที่จันทบุรี ,อ.แกลง ระยอง

ปี พ.ศ.๒๕๐๗ หลวงปู่สมภาร มาจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าวิเวกพัฒนาราม หลังจากหลวงปู่สมภารธุดงค์ไปตามป่าเขาภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ นานเกือบ ๒๐ ปี ท่านจึงเดินทางกลับอีสานบ้านเกิด จำพรรษาอยู่วัดป่าวิเวกพัฒนาราม อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ 
 
คณะสงฆ์พิจารณาเห็นว่าเป็นผู้มีความพร้อมทั้งคุณวุฒิและวัยวุฒิ จึงแต่งตั้งให้ท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าวิเวกพัฒนาราม ซึ่งหลวงปู่ได้จำพรรษาปฏิบัติศาสนกิจอยู่ที่วัดแห่งนี้ตราบจนปัจจุบัน 
 
ตลอดเวลาที่หลวงปู่สมภาร จำพรรษาที่วัดป่าวิเวกพัฒนารามแห่งนี้ ได้ร่วมกับญาติโยมพัฒนาวัดป่าวิเวกพัฒนารามในทุกด้านอย่างเต็มที่ ถาวรวัตถุจะสร้างเท่าที่จำเป็นต่อการใช้ปฏิบัติศาสนกิจเท่านั้น
 
หลวงปู่สมภาร ท่านมีความเคร่งครัดในพระธรรมวินัยเป็นอย่างยิ่ง ท่านกำหนดกฎระเบียบเข้มไว้ไม่ให้ภายในวัดมีเครื่องอำนวยความสะดวกมากเกินความจำเป็น เพราะเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติธรรม
 
ด้วยความที่เป็นพระสายป่า ท่านมีจิตใจชมชอบธรรมชาติป่าไม้ ปรับปรุงภายในบริเวณวัดให้มีความร่มรื่นสวยงาม ทำให้ทั่วบริเวณวัดมีแต่ความสงบวิเวก เหมาะสำหรับการปฏิบัติธรรมยิ่งนัก ในแต่ละปีวัดจะมีกิจกรรมร่วมกับญาติโยม ปลูกป่าและรักษาป่าติดต่อกันมา 
 
หลวงปู่สมภาร ท่านเริ่มมีชื่อเสียงอยู่ในศรัทธาของญาติโยมชาว จ.บึงกาฬ และพื้นที่ใกล้เคียงอย่างรวดเร็ว ในแต่ละวันมีญาติโยมจากทั่วสารทิศเดินทางมากราบนมัสการรับฟังธรรมจากหลวงปู่อย่างล้นหลาม ธรรมะที่ท่านสั่งสอนญาติโยม จะเน้นไม่ให้ตั้งอยู่ในความประมาท
 
หลวงปู่สมภาร ท่านมีอุปนิสัยเยือกเย็นสุขุมรอบคอบ แม้ท่านจะมีอายุมากถึง ๙๖ ปี แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติศาสนกิจ ท่านยังรับกิจนิมนต์ และนั่งสมาธิทุกวัน รวมทั้งคอยรับแขกญาติโยม แม้บางครั้งท่านจะไม่ค่อยสบาย แต่หาปริปากบ่นไม่ ยังคงรักษาศรัทธาของญาติโยมมิเสื่อมคลาย
 
ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.๒๕๒๐ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรีที่ พระครูปัญญาวรากร พ.ศ.๒๕๒๕ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทิน นามเดิม
 
วันที่ ๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๔๑ มาจำพรรษาที่ วัดกุดเรือคำ ต.กุดเรือคำ อ.วารานิวาส จ.สกลนคร

พ.ศ.๒๕๔๔ ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษ ในราชทินนามเดิม รวมทั้งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอพรเจริญ 
 
วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๐ มาจำพรรษาที่ วัดฐิติธรรมาราม ต.โคกสี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร

หลวงปู่สมภาร ปัญญาวโร ท่านเป็นเพชรเม็ดงามของพุทธศาสนิกชนชาว จ.บึงกาฬ โดยแท้ 

องค์​พ่อแม่​ครู​อาจารย์​หลวง​ปู่​สมภาร​ ปัญญา​วโร​
วัดป่าวิเวกพัฒนาราม​ อ.พรเจริญ​ จ.บึงกาฬ​
ละสังขารด้วยอาการสงบ ตรงกับวันอาทิตย์​ที่​ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๖๔​ เมื่อเวลา ๐๓.๑๓ น.​​ ณ โรงพยาบาลศรีนครินทร์​ จ.ขอนแก่น​ สิริอายุ ๙๖ ปี ๑๐​ เดือน​ ๘​ วัน​ ๗๖ พรรษา

#บันทึกอาการอาพาธและมรณภาพ​
แถลงการณ์อาการอาพาธหลวงปู่สมภาร ปัญญาวโร
ฉบับที่ ๒
วันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๖๔​

กราบนมัสการพระคุณเจ้าและกราบเรียนคณะศิษยานุศิษย์

ด้วยองค์หลวงปู่สมภาร ปัญญาวโร ได้เข้ารับการรักษาที่หอสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ตั้งแต่วันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๔​ ด้วยเรื่องติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะและมีแผลกดทับ ทางคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลศรี นครินทร์ได้ถวายการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำและถวายการทำแผลอย่างต่อเนื่อง ขณะให้การรักษา องค์หลวงปู่มีปัญหาน้ำท่วมปอด อันเกิดจากภาวะหัวใจวายเรื้อรังเดิม ซึ่งได้ทำการรักษาโดยการให้ยาขับปัสสาวะ อาการและสัญญาณชีพโดยรวมขององค์หลวงปู่อยู่ในเกณฑ์ดี

จนกระทั่งเวลา​ ๒๓.๕๐ น. วันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๔​ องค์หลวงปู่ มีภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำอย่างรวดเร็ว จากการสำลัก ทำให้ระบบหายใจล้มเหลว และเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้น คณะแพทยศาสตร์ได้ถวายการรักษาอย่างเต็มที่ ตามมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้น

แต่เนื่องจากองค์หลวงปู่อายุมาก และมีโรคประจำตัวหลายโรค อีกทั้งปริมาณสารจากกระเพาะอาหารที่สำลักมี ปริมาณมาก ทำให้การช่วยฟื้นคืนชีพไม่ประสบผลสำเร็จ หลวงปู่ละสังขารด้วยอาการสงบ ณ เวลา ๐๓.๑๓ น. วันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๖๔​

จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษา

-------
ขอนอบน้อมพระอริยสงฆ์ด้วยเศียรเกล้า
อนุโมทนาบุญกุศลจากการอ่าน
ขอขอบพระคุณ อนุโมทนาบุญผู้รวบรวมเผยแพร่ FBพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
สวัสดี.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชีวประวัติ ปฏิปาพระอาจารย์อัครเดช (พระอาจารย์ตั๋น) ถิรจิตฺโต วัดบุญญาวาส ต.บ่อทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี

ประวัติหลวงปู่แว่น ธนปาโล วัดถ้ำพระสบาย บ.หนองถ้อย ต.นาครัว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง

หางานในกรุงเทพ ตกงาน หรือว่างงาน มา Samco