ชีวประวัติ ปฏิปทาหลวงปู่อร่าม ชินวังโส วัดป่าถ้ำแกลบ อ.เมือง จ.เลย
อย่าเอ็ดสั้น คอร่อ คือ ไม้ขว้างใส่กา”
• #ชีวประวัติและปฏิปทาหลวงปู่อร่าม_ชินวํโส
นามเดิมของท่าน คือนายอร่าม ศรีคํามี พื้นเพต้นตระกูลของท่านเป็นชาวจังหวัดเลย หลวงปู่อร่าม ชินวํโส ท่านได้ถือกําเนิดที่บ้านท่ามะนาว ตําบลนาอ้อ อําเภอเมือง จังหวัดเลย ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๒๐ เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๗๐ ตรงกับวันอังคาร แรม ๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีเถาะ โยมบิดาท่านชื่อ นายยะ ศรีคํามี โยมมารดาของท่านชื่อ นางทองคํา ศรีคํามี โดยท่านมีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันทั้งหมด ๕ คน เป็นผู้หญิง ๔ คน ผู้ชาย ๑ คน มีรายนามดังนี้
๑.นางหล่า ศรีคํามี (ถึงแก่กรรม)
๒.นางเหลี่ยม ศรีคํามี (ถึงแก่กรรม)
๓.นายอร่าม ศรีคํามี (หลวงปู่อร่าม ชินวํโส)
๔.นางงาม ศรีคํามี (ถึงแก่กรรม)
๕.นางนวม ศรีคํามี (ถึงแก่กรรม)
หลวงปู่อร่าม ชินวํโส ท่านเป็นลูกชาวนา โยมพ่อและโยมแม่ประกอบอาชีพทําไร่ทํานา และชอบทําบุญทําทาน สมัยเป็นเด็กท่านชอบที่จะไปทําบุญที่วัดกับโยมแม่ของท่านเสมอ ท่านเป็นผู้มีอัธยาศัยเรียบร้อยมาตั้งแต่เป็นเด็ก เป็นคนขยันขันแข็ง เอาการเอางานมาตั้งแต่เป็นเด็ก ไม่เคยก่อปัญหาให้พ่อแม่ญาติพี่น้องเดือดร้อน ครั้นท่านมีอายุได้ ๓ ขวบ โยมพ่อของท่าน ก็ได้ถึงแก่กรรมลง ท่านจึงได้รับการเลี้ยงดูจากโยมแม่ และอยู่กับพี่ๆ น้องๆ ของท่าน พอท่านอายุได้ ๗ ขวบ ท่านได้เข้าเรียนหนังสือที่โรงเรียนบ้านท่ามะนาว โดยใช้ศาลาวัดเป็นโรงเรียน การเรียนของท่าน เรียนอยู่ในระดับปานกลาง จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ไม่ได้เรียนต่อ เพื่อนในรุ่นเดียวกันเรียนต่อจนได้เป็นครูอาจารย์หลายคน ท่านต้องอยู่ทํางานช่วยครอบครัว
พออายุเข้ารุ่นหนุ่มก็เลยเข้าไปทํางานกรมทาง ทํางานกับนายช่าง แบบ (หลวงปู่ช่าง) ทํางานประมาณ ๕ ปีพออายุได้ ๓๕ ปีหลวงปู่อร่ามก็ได้มีครอบครัว แต่งงานกับนางคําดี บ้านหนองเสือคราง อําเภอภูเรือ จังหวัดเลย ได้ลูกสาวด้วยกัน ๑ คน แต่ลูกสาวคนเดียวก็ป่วยแล้วก็เสียชีวิตลงตั้งแต่อายุ ๕ ขวบ ทําให้ท่านปลงอนิจจังกับชีวิต เห็นความไม่เที่ยงของชีวิต ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ หรือคนชราเกิดมาแล้วต้องตายทุกคน ด้วยบุญวาสนาของหลวงปู่ที่มีมาแต่ชาติปางก่อนที่มีต่อพระบวรพระพุทธศาสนา ทําให้เกิดความเบื่อหน่ายต่อชีวิตฆราวาส คิดอยากจะออกบวช เพื่อหาทางพ้นทุกข์ ขณะนั้นหลวงปู่อายุได้ ๔๘ ปี จึงลาภรรยาออกมาบวช ที่วัดศรีอภัยวัน โดยมีพระราชคุณาธาร (หลวงปู่ศรีจันทร์ วัณณาโภ วัดศรีสุทธาวาสพระอารามหลวง หรือวัดเลยหลง) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูญาณธราภิรัต เป็นพระกรรมวาจารย์ และ พระถนัด เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาทางพระพุทธศาสนาว่า "ชินวํโส" อ่านว่า ชินะวังโส แปลว่า "ตระกูลของพระพุทธเจ้า" หรือ "ตระกูลผู้ชนะ"
หลวงปู่อร่าม ท่านไปจําพรรษาอยู่ที่วัดศรีอภัยวัน อยู่กับหลวงปู่ท่อน ญาณธโร ๕ พรรษา หลวงปู่ได้ไปจําพรรษาอยู่ที่วัดถ้ำผาปู่ อยู่กับหลวงปู่คําดี ปภาโส ๒ พรรษา จากนั้นหลวงปู่ได้ธุดงค์ไปอยู่ที่วัดป่าบ้านน้ำภู อยู่กับหลวงปู่คํา หลวงปู่บุดดี ที่วัดป่าสันติธรรม บ้านน้ำภู ตําบลเมือง อําเภอเมือง จังหวัดเลย ๑ พรรษา ต่อจากนั้นท่านได้ธุดงค์ไป วัดป่าบ้านนาศรีเทียน อําเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ๑ พรรษา ไปอยู่กับหลวงปู่แก้ว หลวงปู่คํา กับอาจารย์สวาท ๑ พรรษา จึงธุดงค์ต่อขึ้นไปเชียงใหม่ โป่งเดือด โป่งน้ำร้อน ๑ พรรษา หลังจากนั้นหลวงปู่ก็ธุดงค์ต่อไปที่กรุงเทพ ไปจําพรรษาที่แม่กลอง ๑ พรรษา
จากนั้นจึงออกธุดงค์ต่อลงไปที่ ภูเขียว ภูเวียง ภูตะเภา และคิดอยากจะไปกราบหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ ที่วัดหนองบัวบานและได้อยู่ปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่อ่อนโดยในปฏิบัติธรรมนั้นหลวงปู่อ่อนจะเป็นผู้สั่งสอน ในด้านข้อวัตรปฏิบัติตลอดจน การเร่งความเพียรในการภาวนา เพราะขณะนั้นองค์หลวงปู่อร่ามท่านก็เป็นพระที่มีอายุมากแล้ว
หลวงปู่อร่ามได้อยู่ปรนนิบัติรับใช้หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ ที่วัดป่านิโครธาราม ตําบลหนองบัวบาน อําเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี ได้ ๖ พรรษา โดยมีพ่อแม่ครูบาอาจารย์หลายองค์ที่ร่วมจําพรรษาอยู่ด้วย อาทิ หลวงปู่ลี กุสลธโร วัดภูผาแดง อําเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี หลวงปู่สีนวล อดีตเจ้าอาวาสวัดป่านิโครธาราม จังหวัดอุดรธานี หลวงปู่อว้าน เขมโก วัดป่านาคนิมิตต์ อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร วัดป่าหมู่ใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ หลวงปู่บุญรอด อธิปุญฺโญ วัดถ้ำไทรทอง อําเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ หลวงพ่อสมศรี อัตตสิริ วัดป่าเวฬุวนาราม อําเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ตลอด ๖ พรรษา ที่อยู่ปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ ท่านเมตตาเป็นผู้ฝึกอบรมด้านข้อวัตรปฏิบัติ การท่องบ่นสวดมนต์ บริกรรมภาวนาและเดินจงกรม ในการเดินจงกรมของหลวงปูอร่ามในตอนที่ท่านฝึกปฏิบัติอยู่กับหลวงปู่อ่อนนั้น หลวงปู่อ่อนได้คอยเฝ้าดูอยู่ไม่ห่าง ในบางครั้งหลวงปู่อ่อน ก็ยังแอบมาดูการปฏิบัติธรรมของท่านเป็นระยะ ๆ ดูว่าท่านได้ปฏิบัติตามคําสอนอยู่หรือไม่ และหากมีข้อติดขัด ก็จะแนะนําแนวทางในการปฏิบัติ ตอนกลางคืนก็นวดเส้นให้องค์หลวงปู่อ่อนจนถึง ๔ - ๕ ทุ่ม เมื่อเสร็จภารกิจการนวดเส้นหลวงปู่อร่ามท่านก็เร่งปฏิบัติเจริญภาวนาตามคําครูบาอาจารย์ได้สั่งสอน หากมีข้อติดขัดก็นําเข้าเรียนถามปัญหากับครูบาอาจารย์ได้
ในระหว่างที่จําพรรษาอยู่กับหลวงปู่อ่อน หลวงปู่อร่าม ขออนุญาตออกธุดงค์ หลวงปู่อ่อนจะอนุญาตให้ครั้งละ ๑๕ วัน และต้องกลับตามแจ้ง หากไม่ปฏิบัติตามก็ไม่ต้องมาเป็นครูบาอาจารย์กันอีกต่อไป หลวงปู่อร่ามท่านก็ยึดถืออย่างเคร่งครัด การธุดงค์ของท่านในแต่ละครั้งท่านจะไปตามลําพังองค์เดียว หลวงปู่บอกว่าหลายคนหลายความมากเรื่องมากราวสู้ไปคนเดียวสะดวกสบายมากกว่า ท่านธุดงค์ไปที่จังหวัดอุดรธานี ไปที่บ้านน้ำสวยโพนสว่าง และธุดงค์ออกมาถ้ำแกลบแรกๆ เข้ามาอยู่ที่ถ้ำแกลบท่านปฏิบัติธรรมภาวนาอยู่ในถ้ำ มีงูเหลือมใหญ่ออกมาหา ขณะที่ท่านกําลังเจริญภาวนา ท่านก็ตั้งจิตแผ่เมตตาให้งูเหลือมใหญ่ ก็เลื้อยผ่านหน้าตักไป ต่อมาชาวบ้านท่าวังแคนได้สร้างกุฏิชั่วคราวถวายหลวงปู่อยู่ด้านล่างของถ้ำแกลบ ท่านมาพักภาวนาอยู่ที่ถ้ำแกลบประมาณ ๑ เดือนแล้วท่านกลับไปที่วัดป่านิโครธารามอีกครั้งเพื่อร่วมงานถวายพระเพลิงสรีระสังขารหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ
เสร็จภารกิจท่านก็ไปจำพรรษาที่วัดป่านิโครธารามอีก ๑ พรรษา แล้วจึงกลับมาอยู่จำพรรษาที่วัดป่าถ้ำแกลบนี้
แรกเริ่มเดิมที เมื่อท่านปีนเขาขึ้นมาบำเพ็ญสมณธรรมที่ถ้ำแกลบแห่งนี้ พื้นที่รอบ ๆ เขายังเป็นป่าสมบูรณ์ มีลำธารธรรมชาติ ไหลผ่านอยู่ที่ตีนเขา เมื่อท่านภาวนาจิตสงบ ได้มีบังบด(รุกขเทวดา)สองผัวเมียที่เฝ้าถ้ำแกลบ ได้เข้ามาอุปัฏฐาก คอยล้างกระโถนให้บ้าง คอยเป็นอารักษ์เฝ้ายาม ไม่ให้สิ่งใดเข้ามารบกวนหลวงปู่อร่าม หลวงปู่เล่าว่า ฝ่ายผู้หญิงเขาชื่อ นางจันทร์หอม แต่ฝ่ายชาย ท่านไม่ได้ถามชื่อ ช่วงที่ท่านภาวนาอยู่ภายในถ้ำแกลบนั้น สองสามีภรรยา ได้รับอานิสงส์ มีจิตใจเบิกบาน เขาทั้งสองได้ถวายรองเท้าให้หลวงปู่ใช้ ท่านเล่าว่า เป็นรองเท้าที่ใช้ได้จริง ๆ เมื่อหลวงปู่อยู่บำเพ็ญสมณธรรมได้ระยะหนึ่ง ท่านจึงเตรียมจัดเก็บบริขารเพื่อไปวิเวกที่อื่น ๆ ต่อ
แต่สามีภรรยาทั้งสอง ได้กราบอาราธนาให้หลวงปู่อยู่ที่ถ้ำแกลบนี้ต่อ อย่าได้จากไปไหนเลย เพราะเขาทั้งสองอยากจะอยู่ฟังธรรมหลวงปู่อร่าม ไม่อยากให้ท่านจากไป หลังจากนั้นหลวงปู่อร่าม จึงได้อยู่ที่ถ้ำแกลบเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันนี้ ส่วนบังบดสองสามีภรรยานั้นได้รับอานิสงส์จากการที่หลวงปู่อร่าม อยู่ปฏิบัติธรรมที่ถ้ำของตน เขาทั้งสองหมดห่วงหมดอาลัยในถ้ำแกลบนั้นแล้ว อีกทั้งยังได้รับผลานิสงส์ที่หลวงปู่อร่าม พากเพียรปฏิบัติธรรมทุกเช้าค่ำ เขาทั้งสองจึงเปลี่ยนภพภูมิไปยังภพที่ดีขึ้น หลวงปู่อร่าม และคณะสงฆ์ ได้ค่อย ๆ สร้างเสนาสนะ กุฏิกรรมฐาน ศาลาปฏิบัติธรรม โรงครัว เรื่อยมา แล้วได้ก่อสร้างที่แห่งนี้ให้เป็นวัดขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า “วัดป่าถ้ำแกลบ”
หลวงปู่อร่าม ชินวํโส ละสังขารอย่างสงบ ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๖๓ เมื่อเวลา ๑๑.๑๐ น. ณ โรงพยาบาลจังหวัดเลย สิริอายุ ๙๒ ปี ๘ เดือน ๒๐ วัน
พิธีถวายเพลิงสรีระสังขารหลวงปู่อร่าม ชินวํโส ในวันเสาร์ที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓
ณ เมรุชั่วคราววัดป่าถ้ำแกลบ บ้านท่าวังแคน ตำบลศรีสองรัก อำเภอเมือง จังหวัดเลย
โอวาทธรรมคำสอนของ หลวงปู่อร่าม ชินวํโส
“การทําบุญ เป็นกริยาวัตถุ อันจะเป็นหนทางนําเราไปสู่สวรรค์นิพพาน”
“การทําบุญสําเร็จแล้วทีใจ มีใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน”
“ให้ดูที่ใจตัวเอง อย่าดูของคนอื่น ให้พิจารณาเอา พิจารณาให้มาก”
“ทําอะไรอย่าได้ประมาท ให้มีสติกํากับอยู่ตลอด”
"..อย่าไปรัก อย่าไปชัง อะไรมันมาก มันจะเป็นทุกข์.."
• ชมภาพบรรยากาศงานถวายเพลิงสรีรสังขารหลวงปู่อร่าม ชินวํโส วัดป่าถ้ำแกลบได้ที่ลิงค์
https://m.facebook.com/thindham/albums/2983420578375130/?ref=bookmarks
-------
ท่องเที่ยวธรรม ขอนอบน้อมพระอริยสงฆ์ด้วยเศียรเกล้า
กราบขอบพระคุณ และอนุโมทนาบุญที่มา FB page พระป่ากรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
อนุโมทนาบุญกุศลจากการอ่าน
สวัสดี.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น